พ่อแม่ “ตัวประกันหญิงสหรัฐฯ” ที่ไอเอสอ้างว่าเสียชีวิตแล้ว หวังลูกยังมีชีวิตอยู่

เอเอฟพี - พ่อแม่ของตัวประกันชาวสหรัฐฯ ที่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างว่า เสียชีวิตในการโจมตีทางอากาศของกลุ่มพันธมิตรกล่าววานนี้ (6) ว่า พวกเขา “หวังอย่างยิ่ง” ว่าเธอจะยังมีชีวิตอยู่ และวิงวอนให้กลุ่มผู้จับตัวเธอไว้ติดต่อหาพวกเขาด้วย

กลุ่มอิสลามามิสต์กลุ่มนี้อ้างว่า เคย์ลา จีน มุลเลอร์ ถูกฝังอยู่ใต้เศษอิฐเศษปูนภายหลังการโจมตีของเครื่องบินรบจอร์แดนในเมืองรอกอของซีเรีย แต่ทางวอชิงตันระบุว่าพวกเขาไม่มีหลักฐานยืนยันคำอ้างดังกล่าว

พ่อแม่ของผู้ปฏิบัติงานบรรเทาทุกข์วัย 26 ปีรายนี้ร้องขอให้กลุ่มผู้ที่ลักพาตัวเธอไปติดต่อหาพวกเขา

“ข่าวนี้ทำให้เราเป็นกังวล แต่เรายังคงคาดหวังว่า เคย์ลา ยังมีชีวิตอยู่ เราได้ส่งข้อความเป็นการส่วนตัวไปถึงพวกคุณแล้ว และขอให้พวกคุณติดต่อกลับมาหาเราเป็นการส่วนตัวด้วย” คาร์ล และ มาร์ชา กล่าวในถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดยสำนักข่าว เอ็นบีซี

ครอบครัวนี้ระบุว่า พวกเขาเคยติดต่อกับกลุ่มผู้ลักพาตัวแล้วก่อนหน้านี้ และได้ทำการร้องขอต่อสาธารณะเมื่อวานนี้ (6) เพื่อขอให้เธอกลับมาอย่างปลอดภัย

“พวกคุณบอกกับเราว่า พวกคุณดูแล เคย์ลา ในฐานะแขก ดังนั้นความปลอดภัยและสวัสดิภาพของเธอยังคงเป็นความรับผิดชอบของพวกคุณ” ถ้อยแถลงระบุ

“แม่ของ เคย์ลา และผมกำลังทำทุกสิ่งอย่างที่เราสามารถทำได้เพื่อเธอได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัย ในเวลานี้เราขอร้องพวกคุณ ผู้ที่จับตัว เคย์ลา เอาไว้อยู่ โปรดติดต่อหาพวกเราเป็นการส่วนตัว”

ผู้ปฏิบัติงานบรรเทาทุกข์ชาวอเมริกันรายนี้ถูกลักพาตัวในเมืองอเลปโปของซีเรียเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2013 หลังจากเธอเดินทางออกจากโรงพยาบาลขององค์การแพทย์ไร้พรมแดน (Doctors Without Border) ทางครอบครัว ระบุว่า เธอถูกกลุ่มไอเอสควบคุมตัวไว้นับตั้งแต่นั้น

คำอ้างว่าเธอเสียชีวิตแล้วของนักรบญิฮาดกลุ่มไอเอสในครั้งนี้มีออกมาขณะที่จอร์แดนระบุว่า เครื่องบินขับไล่ของพวกเขาหลายสิบลำได้เข้าโจมตีกลุ่มไอเอส และขยายปฏิบัติการของพวกเขาจากซีเรียครอบคลุมถึงเป้าหมายในอิรักที่อยู่ข้างเคียง

จอร์แดนซึ่งยังคงระส่ำระส่ายจากการที่กลุ่มไอเอสฆาตกรรมหนึ่งในนักบินของกองทัพอย่างโหดเหี้ยม ปฏิเสธคำอ้างที่ว่ามุลเลอร์ถูกสังหาร โดยชี้ว่าเป็น “มุกเชยๆ ห่วยๆ” เพื่อขัดขวางการโจมตีของกลุ่มพันธมิตร

จอร์แดนเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตรนานาชาติที่ต่อสู้กับนักรบหัวรุนแรงสายสุหนี่กลุ่มนี้ ซึ่งยึดครองดินแดนมากมายในซีเรียและอิรัก และบังคับใช้หลักอิสลามในแบบที่ตีความอย่างสุดโต่งในพื้นที่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา

มุลเลอร์ ผู้ปฏิบัติงานบรรเทาทุกข์จากรัฐแอริโซนาได้เดินทางไปยังพรมแดนตุรกี-ซีเรียเมื่อเดือนธันวาคมปี 2012 โดยตั้งใจที่จะเข้าไปให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่หลหนีสงครามกลางเมือง