เอเอฟพี - อัยการเนเธอร์แลนด์เผยว่า วัยรุ่นหญิงชาวดัตช์คนหนึ่ง ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเดินทางไปแต่งงานกับนักรบญิฮาดกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ที่ซีเรีย ก่อนที่แม่จะช่วยพาเธอกลับมาได้ในภายหลังนั้น มีกำหนดขึ้นศาลด้วยข้อหาก่อการร้ายในวันนี้ (21 พ.ย.)
แอนน์มารี เคมป์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดระบุว่า วัยรุ่นหญิงวัย 19 ปีผู้นี้ที่มีนามว่า “ไอชา” ได้เดินทางกลับมาถึงเนเธอร์แลนด์พร้อม โมนิกแม่ของเธอเมื่อวันพุธ (19)
เคมป์กล่าวกับเอเอฟพีว่า “ไอชาถูกควบคุมตัวทันทีที่มาถึง เนื่องจากเธอตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการก่ออาชญากรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ” พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า เธอมีกำหนดขึ้นศาลเป็นครั้งแรกในวันนี้ (21)
ในสัปดาห์นี้ หนังสือพิมพ์เนเธอร์แลนด์รายงานว่า ไอชาเดินทางไปยังซีเรีย เพื่อแต่งงานกับนักรบญิฮาดเชื้อสายดัตช์-ตุรกี ตั้งแต่ 9 เดือนก่อน ภายหลังเธอเห็นเขาทางโทรทัศน์ และพูดคุยกันทางอินเทอร์เน็ต
ชายคนดังกล่าว ซึ่งเคยเป็นทหารในกองทัพเนเธอร์แลนด์ คือหนึ่งในสมาชิกกลุ่มนักรบญิฮาดชาวดัตช์ที่เดินทางไปฝึกปรือวิชาการก่อการร้ายที่ซีเรียเพื่อรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกลุ่มไอเอส
หนังสือพิมพ์รายวัน อัลเจมีนดักบลัดรายงานว่า ไอชาได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากแม่ ภายหลังแผนการแต่งงานของเธอล้มเหลว จนเธอตกล่องปล่องชิ้นกับสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงชาวตูนิเซีย
เมื่อหลายเดือนก่อน โมนิกได้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เนเธอร์แลนด์ว่า ลูกสาวของเธอที่มีชื่อว่า สเตอร์ลินา ก่อนที่จะใช้ชื่อว่าไอชา หลังรับศาสนาอิสลาม เปลี่ยนจากวัยรุ่นสนุกสนานร่าเริงแล้วกลายเป็นพวกหัวรุนแรงสุดโต่งได้อย่างไร
อัลเจมีนดักบลัดรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วโมนิกซึ่งสวมผ้าคลุมศีรษะแบบปิดบังหน้า (นิกอบ) ได้เข้าสู่พรมแดนซีเรีย และเดินทางไปยังเมืองรอกเกาะ ซึ่งเป็นที่มั่นของกลุ่มไอเอส
หนังสือพิมพ์ดัตช์เจ้านี้รายงานว่า โมนิกพบกับไอชาที่นั่นก่อนที่ทั้งสองจะเล็ดลอดผ่านเข้าพรมแดนตุรกี แต่โมนิกเปิดเผยรายละเอียดของปฏิบัติการช่วยชีวิตลูกสาวไว้เพียงคร่าวๆ เท่านั้น ส่วน “โมนิกเข้าสู่พื้นที่ซึ่งตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มไอเอสได้อย่างไร ไม่มีใครทราบ”
โรเจอร์ บอส ผู้แทนอัยการกล่าวกับสถานีโทรทัศน์เนเธอร์แลนด์ว่า โมนิก “ไม่เคยเหยียบเข้าไปในซีเรีย” แต่พบลูกสาวของเธอบริเวณพรมแดน
เจ้าหน้าที่ของสำนักกฎหมายของฟรองซวส แลนเดอร์ลู ซึ่งเป็นทนายของไอชากล่าวกับเอเอฟพีว่า อัยการดัตช์ได้กำหนดข้อห้ามหลายข้อกับที่ปรึกษากฎหมาย รวมทั้งสั่งห้ามเปิดเผยรายละเอียดในคดีนี้
ข้อมูลสถิติของสำนักข่าวกรองเนเธอร์แลนด์ชี้ว่า จนถึงตอนนี้มีนักรบญิฮาดชาวดัตช์เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปสู้รบที่ซีเรีย แล้วราว 130 คน โดยในจำนวนนี้มี 30 คนเดินทางกลับมาแล้ว ในขณะที่อีก 14 คนเสียชีวิตในเหตุสู้รบ
ทั้งนี้ มีกระแสตื่นกลัวว่ากลุ่มนักรบที่เคยก่อเหตุรุนแรงสุดโต่งพวกนี้จะถูกสั่งการให้กลับไปก่อการร้ายในทวีปยุโรป