เอเอฟพี - ภายหลังที่มีรายงานยืนยันการเสียชีวิตของตัวประกันชาวอเมริกัน ที่ถูกจับตัวในซีเรีย ได้หลายชั่วโมง ล่าสุด ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ได้บรรยายถึงความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว เมื่อต้องชี้แจงเรื่องนี้กับครอบครัวผู้สูญเสียที่กำลังกระวนกระวายใจ ในขณะที่ผู้นำแดนอินทรียังคงยืนกรานว่ารัฐบาลของเขาไม่มีนโยบายจ่ายค่าไถ่ให้แก่กลุ่มหัวรุนแรง
การบอกครอบครัวของตัวประกันว่า เขาจะไม่จ่ายเงินเพื่อแลกกับอิสรภาพนั้นนับเป็นสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับเขา โอบามายอมรับกับเว็บไซต์ข่าวบัซฟีด ในการให้สัมภาษณ์ หลัง เคย์ลา มุลเลอร์ หญิงสาวชาวมลรัฐแอริโซนาวัย 26 ปี ถูกสังหาร
เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผู้นี้ถูกลักพาตัวไปขณะปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดอะเลปโป เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2013
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มติดอาวุธ “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ระบุว่า เธอถูกสังหารขณะจอร์แดนดำเนินปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเมืองรอกเกาะห์ของซีเรีย ซึ่งเป็นคำกล่าวอ้างที่ทำเนียบขาวออกมาปฏิเสธ
โอบามาแถลงว่า เขารู้สึกใจสลายในทันทีที่ได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของมุลเลอร์
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวถูกกดดันให้ทบทวนนโยบายไม่จ่ายเงินเพื่อแลกกับอิสรภาพของพลเมืองสหรัฐฯ ในขณะที่ตัวประกันชาวยุโรปบางคน ที่รัฐบาลของพวกเขายอมจ่ายค่าไถ่ได้รับการปล่อยตัวในที่สุด
เขาชี้ว่า นโยบายดังกล่าวเหมาะสมดีแล้ว เพราะ “ทันทีที่เราทำแบบนั้น เราไม่เพียงแต่ให้เงินสนับสนุนให้กลุ่มหัวรุนแรงฆ่าคนบริสุทธิ์ และทำให้องค์การก่อการร้ายเข้มแข็งขึ้นเท่านั้น แต่ยังกระตุ้นให้ชาวอเมริกันถูกจ้องลักพาตัวมากขึ้นในอนาคต”
ประธานาธิบดีโอบามากล่าวว่า สหรัฐฯ ได้ดำเนินภารกิจช่วยเหลือมุลเลอร์ด้วยวิธีอื่นแล้ว รวมทั้งการส่งหน่วยปฏิบัติการปราบปรามพิเศษเข้าไปในซีเรีย
เขาระบุเพิ่มเติมว่า “เราได้ทุ่มเททรัพยากรมหาศาล และเราทุ่มเททรัพยากรมหาศาลเพื่อช่วยเชลย หรือตัวประกันที่ใดก็ตามบนโลกเช่นนี้เสมอ”
“เราดำเนินปฏิบัติการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายทั้งหมด ไม่เพียงแต่เพื่อช่วยชีวิตเธอ แต่เพื่อช่วยคนอื่นๆ ที่ถูกจับตัวไปด้วย และอาจคลาดกันวันหรือสองวัน เพียงเพราะเรายึดมั่นในข้อผูกพันเช่นนั้น”