เอเจนซีส์ - เครื่องบินรบของกลุ่มพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ เข้าถล่มเมืองรอกเกาะห์ ในซีเรีย ซึ่งเป็น “เมืองหลวง” ของกลุ่ม “รัฐอิสลาม” ตลอดจนที่มั่นแห่งอื่นๆ ของกลุ่มนักรบญิฮัดสุดโต่งนี้อย่างรุนแรง ในเวลาเดียวกันจอร์แดนแถลงเมื่อวันอาทิตย์ (8 ก.พ.) ว่าอากาศยานของตนได้เข้าโจมตีที่มั่นของไอเอสทุกวันรวมแล้วเป็นจำนวนหลายสิบครั้ง นับตั้งแต่ที่กลุ่มนี้เผยแพร่คลิปวิดีโอการสังหารโหดด้วยการเผาทั้งเป็นนักบินทหารจอร์แดนที่ถูกจับกุม ทางด้านสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ประกาศส่งฝูงบินเอฟ-16 ไปยังจอร์แดนเพื่อเข้าร่วมการปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายนี้ ขณะที่ชะตากรรมของตัวประกันหญิงชาวอเมริกันยังไม่มีการยืนยันแน่นอน หลังจากไอเอสอ้างว่าเธอเสียชีวิตไประหว่างการถล่มโจมตีของจอร์แดน
ซีเรียน อ็อบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ กลุ่มติดตามสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรียที่มีฐานอยู่ในลอนดอนและอาศัยแหล่งข่าวซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลกลุ่มต่างๆ ในซีเรีย ออกคำแถลงระบุว่า เมื่อวันเสาร์ (7) กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ได้ระดมโจมตีที่มั่นของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในเมืองรอกเกาะห์ ในซีเรีย ซึ่งนักรบหัวรุนแรงกลุ่มนี้ประกาศอ้าง เป็นเมืองหลวงของตน เป็นการต่อเนื่องจากวันศุกร์ (6) โดยที่ในวันศุกร์นั้น นักรบไอเอสกว่า 30 คนเสียชีวิต
ขณะที่ในคำแถลงของกลุ่มพันธมิตรเอง ระบุคร่าวๆ เพียงว่าได้โจมตีทางอากาศต่อไอเอสในซีเรีย 11 ครั้ง และ 15 ครั้งในอิรักในช่วง 24 ชั่วโมงนับจนถึงเช้าวันเสาร์
ส่วนที่กรุงอัมมาน โมฮัมเหม็ด อัล-โมมานี โฆษกรัฐบาลจอร์แดนระบุในวันอาทิตย์ (8) ว่า จอร์แดนได้เข้าโจมตีทางอากาศต่อพวกไอเอสเป็นประจำทุกวันนับตั้งแต่วันพฤหัสบดี (5) แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของจอร์แดนรายหนึ่งเปิดเผยว่า เป้าหมายโจมตีที่สำคัญที่สุดคือเมืองรอกเกาะห์
รอยเตอร์ยังอ้างแหล่งข่าวความมั่นคง 2 รายซึ่งใกล้ชิดกับกองทัพจอร์แดนบอกว่า ในช่วงวันพฤหัสบดีจนถึงวันเสาร์ ราชอาณาจักรแห่งนี้ได้เข้าโจมตีทางอากาศอย่างน้อย 60 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่พุ่งเป้าหมายถล่มที่มั่นของไอเอสในซีเรีย แต่ก็มีบางส่วนเป็นการโจมตีเป้าหมายในอิรักด้วย
ทางด้านสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ประกาศในวันเสาร์ว่า จะส่งเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 จำนวนหนึ่งไปประจำการในจอร์แดน เพื่อสนับสนุนกองทัพจอร์แดนต่อสู้กับ “องค์การก่อการร้ายอำมหิต”
ยูเออีนั้นเป็นชาติหนึ่งที่เข้าร่วมในกลุ่มพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ ทว่า หลังจากเครื่องบินขับไล่ของจอร์แดนตกลงในซีเรียขณะบินไปโจมตี และนักบิน มาอัซ อัล-คัสซัสเบห์ ก็ถูกจับและถูกสังหารด้วยการเผาทั้งเป็น ยูเออีก็ได้ถอนตัวจากการปฏิบัติการของกลุ่มพันธมิตร เนื่องจากห่วงใยความปลอดภัยของนักบินของตน
แต่ในวันเสาร์ สำนักข่าวดับเบิลยูเอเอ็มของทางการยูเออี รายงานว่า มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซาเยด อัล-นาฮายันแห่งอาบูดาบี ซึ่งเป็นรองผู้บัญชาการกองทัพยูเออี ได้ออกคำสั่งให้ส่งฝูงบินเอฟ-16 ไปยังจอร์แดน เพื่อสนับสนุนกองทัพจอร์แดน ในการปฏิบัติการทางทหารปราบปรามไอเอส
รายงานไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเครื่องบินเหล่านี้จะทำการโจมตีโดยบินจากจอร์แดน แต่แหล่งข่าวของรอยเตอร์กล่าวยืนยันว่า จากนี้ไป เอฟ-16 ของยูเออีจะเปิดการโจมตีโดยบินขึ้นจากดินแดนของจอร์แดน ซึ่งทำให้ระยะทางในการบินสั้นลงและสามารถปฏิบัติการได้อย่างหนักหน่วงยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน พ่อแม่ของ จีน มุลเลอร์ สตรีชาวอเมริกันวัย 26 ปีที่เป็นอาสาสมัครของหน่วยแพทย์ไร้พรมแดน ยังคงตั้งความหวังว่า บุตรสาวผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่ หลังจากไอเอสป่าวประกาศเมื่อวันศุกร์ (6) ว่า มุลเลอร์ถูกฝังใต้ซากปรักหักพังหลังการโจมตีของเครื่องบินรบจอร์แดนในเมืองรอกเกาะห์ ทว่า ไม่ได้เผยแพร่ภาพศพของมุลเลอร์แต่อย่างใด
ทางการสหรัฐฯ ซึ่งมีนโยบายไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับคนอเมริกันที่ถูกลักพาตัวในซีเรีย ระบุว่ายังไม่มีหลักฐานยืนยันว่า อาสาสมัครหญิงจากแอริโซนาผู้นี้เสียชีวิต และคาร์ลและมาร์ชา พ่อแม่ของมุลเลอร์เรียกร้องให้ไอเอสติดต่อกลับมาและปล่อยบุตรสาวของตนอย่างปลอดภัย
นักเคลื่อนไหวในเมืองรอกเกาะห์ที่ไม่ประสงค์ออกนาม บอกว่า มีรายงานที่ไม่ได้รับการยืนยันระบุว่า มุลเลอร์ถูกย้ายจากคุกหญิงในรอกเกาะห์ ไปยังค่ายของไอเอสทางตะวันออกก่อนหน้านี้ ค่ายดังกล่าวได้ตกเป็นเป้าหมายการระดมโจมตีของกลุ่มพันธมิตร และไม่สามารถยืนยันได้ว่า มุลเลอร์เสียชีวิตระหว่างการโจมตีหรือไม่
ทว่า จอร์แดนที่ยังโกรธแค้นจากการที่ไอเอสสังหารนักบินของตนอย่างเหี้ยมโหด ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างดังกล่าวของไอเอส โดยระบุว่า เป็นลูกไม้เก่าเพื่อยับยั้งการโจมตีของกลุ่มพันธมิตร
นอกจากนั้นยังมีข่าวอีกกระแสจากนักเคลื่อนไหวอเมริกันที่นับถือศาสนาอิสลามระบุว่า มุลเลอร์ที่เดินทางไปยังบริเวณชายแดนซีเรีย-ตุรกีตั้งแต่ปี 2012 เพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงคราม และถูกจับในเมืองอเล็ปโปของซีเรียในปี 2013 หลังออกจากโรงพยาบาลของแพทย์ไร้พรมแดนนั้น ถูกไอเอสตัดสินประหารตั้งแต่ปีที่แล้ว
มอรี ซาลากัน นักเคลื่อนไหวที่เป็นผู้นำการเรียกร้องให้ปล่อยตัวอาเฟีย ซิดดิกี นักประสาทวิทยาชาวปากีสถานที่ถูกคุมขังในเทกซัส เปิดเผยโดยอ้างคำบอกเล่าจากตัวแทนครอบครัวมุลเลอร์ว่า วันที่ 12 กรกฎาคมปีที่แล้ว ไอเอสขู่สังหารมุลเลอร์ภายใน 30 วัน หากซิดดิกีไม่ได้รับการปล่อยตัว หรือหากครอบครัวมุลเลอร์ไม่จ่ายค่าไถ่ 6.6 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ไอเอสไม่ได้สังหารมุลเลอร์ตามที่ขู่ไว้ หลังจากซาลากันและบาทหลวงคนหนึ่งในแอริโซนาส่งจดหมายเปิดผนึกไปถึง และครอบครัวซิดดิกีประกาศว่า ไม่ต้องการให้ไอเอสโยงสองกรณีเข้าด้วยกัน เนื่องจากมุลเลอร์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ
ทั้งนี้ ซิดดิกีถูกพิพากษาจำคุก 86 ปีเมื่อปี 2010 จากการพยายามยิงและสังหารเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ทหารอเมริกัน และล่ามที่เตรียมสอบปากคำเธอในอัฟกานิสถาน ด้วยข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับอัล-กออิดะห์