เอเจนซีส์ – โอบามาชักชวนอเมริกันชนก้าวผ่านภาวะถดถอยและสงคราม และเริ่มประวัติศาสตร์หน้าใหม่ พร้อมท้าทายสภาคองเกรสส์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรีพับลิกัน ระหว่างการแถลงนโยบายประจำปี ด้วยการเรียกร้องขึ้นภาษีคนรวยมาส่งเสริมชนชั้นกลาง และขู่ใช้อำนาจวีโต้หากการตัดสินใจสำคัญถูกยับยั้ง ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียแขวะคำแถลงของโอบามาฟ้องชัด “อเมริกาต้องการครองโลก”
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ดูเหมือนพกพาความเชื่อมั่นมาเต็มร้อยระหว่างแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาเมื่อวันอังคาร (20) เนื่องจากมีผลงานการฟื้นเศรษฐกิจและลดอัตราว่างงานช่วยการันตี มิหนำซ้ำคะแนนนิยมในช่วงที่ผ่านมายังกระเตื้องขึ้น
ประมุขทำเนียบขาวประกาศว่า ถึงเวลาแล้วที่อเมริกาจะข้ามผ่านภาวะถดถอยและสงคราม เพื่อเริ่มต้นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ และร่วมมือกันส่งเสริมชนชั้นกลางที่ก่อนหน้านี้ถูกทอดทิ้งมาตลอด
แม้โอบามาเรียกร้องขอความร่วมมือ แต่ดูเหมือนว่า นโยบายการขึ้นภาษี ซึ่งไม่มีแนวโน้มว่า รีพับลิกันที่ครองเสียงข้างมากทั้งในสภาสูงและสภาล่างจะยินยอมอนุมัติ กลับเป็นการชักธงรบสำหรับช่วงสองปีสุดท้ายในตำแหน่งมากกว่า
ผู้นำสหรัฐฯ ยังประกาศใช้อำนาจยับยั้ง หากรีพับลิกันพยายามขัดขวางกฎหมายประกันสุขภาพ การผ่อนปรนนโยบายคนเข้าเมือง หรือพยายามออกมาตรการแซงก์ชันรอบใหม่ต่ออิหร่าน ขณะที่การเจรจาโครงการนิวเคลียร์กับเตหะรานยังไม่บรรลุผล
เหตุผลง่ายๆ ที่อธิบายท่าทีแข็งกร้าวของโอบามาได้รับการอธิบายโดยเจ้าตัวเองที่บอกว่า “ผมไม่ต้องลงเลือกตั้งแล้ว เพราะผมชนะมาแล้วสองสมัย” ซึ่งหมายถึงการชิงชัยตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในปี 2008 และ 2012
ในระหว่างแถลงต่อคองเกรสส์ครั้งแรกนับจากรีพับลิกันกวาดที่นั่งในวุฒิสภาในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตประกาศชัดเจนว่า จะไม่ยอมอ่อนข้อให้ฝ่ายตรงข้าม พร้อมเรียกร้องให้รีพับลิกันร่วมกันวางรากฐานสำหรับอนาคตแทนที่จะสาดโคลนใส่กัน
แกนหลักของแผนส่งเสริมชนชั้นกลางของโอบามาคือ ขึ้นภาษีคนรวยที่สุด 320,000 ล้านดอลลาร์ภายใน 10 ปี เพื่อนำเงินไปอุดหนุนแผนการขยายเครดิตภาษีและสวัสดิการด้านการศึกษาสำหรับชนชั้นกลาง ซึ่งรวมถึงการเรียนฟรี 2 ปีในวิทยาลัยชุมชน
อย่างไรก็ดี ข้อเสนอมากมายแม้ถูกใจอเมริกันชน แต่ไม่มีแนวโน้มเกิดขึ้นจริง เนื่องจากคองเกรสส์ถูกยึดครองเบ็ดเสร็จโดยรีพับลิกัน มิหนำซ้ำโอบามาเองกำลังจะกลายเป็นเป็ดง่อย เมื่ออเมริกาหันไปสนใจการรณรงค์เลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016 กันหมด
กระนั้น รีพับลิกันอาจถูกสถานการณ์บีบให้ต้องเสนอทางเลือกในการแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมด้านรายได้ และพิสูจน์ว่าพรรคสามารถบริหารประเทศได้ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่คนอเมริกันให้ความสำคัญระหว่างที่ชั่งใจว่า ผู้สมัครจากรีพับลิกันเหมาะสมครองทำเนียบขาวหรือไม่ในการเลือกตั้งปีหน้า
ตัวเก็งผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ จากรีพับลิกัน ไม่ว่าจะเป็นมิตต์ รอมนีย์ ที่แพ้โอบามาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว หรือเจ๊บ บุช รับรู้โจทย์ข้อนี้ดี และจัดการตอบโต้ผ่านเฟซบุ๊กทันควันโดยระบุว่า โอบามากำลังพยายามใช้มาตรการภาษีเพื่อแบ่งแยกประชาชน
นอกจากนั้น ยังเป็นที่น่าสังเกตว่า ขณะที่โลกกำลังเผชิญวิกฤตรอบด้าน โอบามากลับชูนโยบายในประเทศมากกว่านโยบายต่างประเทศ
ผู้นำสหรัฐฯ ปกป้องการตัดสินใจในการฟื้นความสัมพันธ์ระดับปกติกับชาติคอมมิวนิสต์ คิวบา และเรียกร้องให้คองเกรสส์ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อฮาวานาที่ดำเนินมากว่า 50 ปี
โอบามายังขอให้สภาให้อำนาจในการจัดการกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) แต่กลับถูกรีพับลิกันแถลงตอกหน้าว่า ไอเอสขณะนี้รุกคืบยึดครองพื้นที่ในอิรักและซีเรียกว้างขวางกว่าตอนที่โอบามาเปิดปฏิบัติการโจมตีเมื่อ 6 เดือนที่แล้วเสียอีก
สำหรับประเด็นด้านการค้า โอบามาขอให้สภาให้อำนาจเจรจาพิเศษเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีกับเอเชียและยุโรป ทว่า เรื่องนี้ผู้นำสหรัฐฯ กลับต้องรบรากับสมาชิกพรรคเดียวกันที่กลัวว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้คนอเมริกันมากมายตกงาน
โอบามายังมุ่งมั่นผลักดันประเด็นนี้โดยเตือนว่า จีนกำลังเขียนกฎใหม่สำหรับเอเชีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่โตเร็วที่สุดของโลก ดังนั้น ทั้งรีพับลิกันและเดโมแครตจึงต้องให้อำนาจเจรจาการค้าแก่ตนเพื่อปกป้องแรงงานอเมริกันด้วยข้อตกลงการค้าใหม่ที่เข้มแข็งกับเอเชียและยุโรป
ทั้งนี้ หลังการแถลงนโยบายประจำปีของโอบามาไม่นาน เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์วิจารณ์ว่า การแถลงดังกล่าวฟ้องว่า ประเด็นหลักเพียงอย่างเดียวในปรัชญาอเมริกันคือ การครอบงำกิจการโลก และอเมริกามุ่งมั่นที่จะเผชิญหน้า