xs
xsm
sm
md
lg

“แอบบ็อต” จับมือ “สี จิ้นผิง” ลงนาม FTA หลายพันล้านดอลลาร์สำเร็จ ช่วยชาวไร่ออสซีขนพืชผักส่งแดนมังกรโดยไม่ต้องมีกำแพงภาษี!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - ออสเตรเลียและจีนก้าวหน้าไปอีกขั้นในความร่วมมือทางการค้าระดับทวิภาคี โดยในวันนี้(17)ประเทศคู่ค้าทั้งสองลงนามข้อตกลงการค้าเสรี ซึ่งจะสามารถเปิดตลาดมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ให้กับออสเตรเลีย ซึ่งในข้อตกลงFTA ขอองอสเตรเลียที่ทำกับจีนครั้งนี่เน้นหนักไปที่ภาคการเกษตรเป็นสำคัญนอกเหนือจากภาคการเงินและการธนาคารและอุตสาหกรรมการบริการ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรของแดนจิงโจ้สามารถนำเข้าไปขายในจีนซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของโลกในปัจจุบันนี้โดยไม่ต้องผ่านกำแพงภาษีเช่นในอดีต และรวมไปถึงการลดกำแพงภาษีของการส่งออกถ่านหินจนถึงขั้นปลอดกำแพงภาษีในที่สุด

การลงนามของทั้งสองชาติมีขึ้นในวันจันทร์(17)ระหว่างการเยือนอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ในข้อตกลงการค้าเสรีมูลค่า 18 พันล้านดอลลาร์ส่งเสริมโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับออสเตรเลียในอีก 10 นับจากนี้ จอช ฟรีเดนเบิร์ก (Josh Frydenberg) เลขาธิการนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียประจำรัฐสภา

รายละเอียดในข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์นี้ยังไม่ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่รายงานข่าวชี้ว่านายกรัฐมนตรีโทนี แอบบ็อต ของออสเตรเลียประสบความสำเร็จครั้งใหญ่สามารถเปิดตลาดทางการเกษตรให้กับเกษตรกรชาวออสเตรเลียสำเร็จ รวมไปถึงภาคการเงินการธนาคาร และภาคอุตสาหกรรมบริการของประเทศในข้อตกลงการค้ากับจีนครั้งนี้

“ผมคิดว่าข้อตกลงครั้งนี้จะทำให้เศรษฐกิจออสเตรเลียเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง” ฟรีเดนเบิร์กให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ ABC สื่อออสเตรเลีย และเสริมต่อว่า “เพราะว่าข้อตกลงการค้าเสรีครั้งนี้จะแปลงโฉมการค้าระหว่างประเทศของเรากับจีนใหม่ทั้งหมด จะเห็นได้ชัดว่าการส่งออกมากถึง 95 % ของประเทศเราที่ผ่านมาในการทำการค้ากับจีนจะเข้าสู่ตลาดจีนโดยไม่ต้องมีกำแพงภาษีขวางกั้นอีกต่อไป”

จีนถือเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย โดยทั้งสองประเทศมีการค้าต่อกันมูลค่าถึง 131 พันล้านดอลลาร์

ทั้งนี้สัญญาการค้าเสรีได้เริ่มต้นเจรจาตั้งแต่ปี 2005 แต่ต้องชะงักงันในปี 2005 จากสาเหตุที่จีนยืนกรานให้ออสเตรเลียต้องยกเลิกข้อจำกัดการลงทุนสำหรับรัฐวิสาหกิจของจีน ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนจำนวนมากล้วนแต่มีรัฐบาลจีนเป็นเจ้าของ

แอบบ็อตแถลงว่า แอนดริว รอบบ์ (Andrew Robb) รัฐมนตรีการค้าออสเตรเลีย จะลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง ( Declaration of Intent) กับ เกา หูเฉิง รัฐมนตรีพาณิชย์จีน(Gao Hucheng) เพื่อบรรลุในข้อตกลงการค้า

“ผมจะประกาศแถลงข่าวถึงความสำเร็จครั้งนี้ภายหลังในวันนี้” แอบบ็อตแถลง ออสเตรเลียเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ที่มีชาติผู้นำร่วมด้วย อาทิ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และรวมไปถึงประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จากจีน ซึ่งทั้งแอบบ็อตและสีได้บรรลุข้อตกลง FTA ก่อนหน้านี้ และรัฐมนตรีคู่ค้าของทั้สองประเทศจะเป็นผู้ลงนามในสนธิสัญญาอย่างเป็นทางการ และคาดว่า สีจะแถลงในรัฐสภาออสเตรเลียภายในวันนี้หลังงจากตัวแทนทั้ง 2 ชาติได้ลงนามเรียบร้อยแล้ว

ด้านบาร์นาบี จอยซ์ (Barnaby Joyce) รัฐมนตรีเกษตรออสเตรเลีย ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดFTAระหว่างออสเตรเลีย-จีน แต่เขาได้ยืนยันกับสื่อท้องถิ่นว่า “ออสเตรเลียจะต้องได้ผลประโยชน์มหาศาลจากข้อตกลงนี้” เพราะจะช่วยกระตุ้นการส่งออกตลาดการเกษตรของออสเตรเลีย และยังช่วยทำให้กำแพงภาษีด้านเหมืองแร่ที่จีนกำหนดในอัตราใหม่ที่สูงลิ่วนั้นลดลง จนถึงขั้นจะทำให้ออสเตรเลียสามารถส่งออกถ่านหินเข้าจีนโดยไม่ต้องผ่านกำแพงภาษีในที่สุด และอีกทั้งข้อตกลงการค้ากับจีนจะช่วยแก้ปัญหาราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่ำ ซึ่งฉุดดัชนีการเติบโตเศรษฐกิจออสเตรเลีย

เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ภายใต้ของตกลงการค้าเสรี อุตสาหกรรมภาคการเงินการธนาคารจะเข้าสู่ตลาดจีนได้หลังจากนี้ ในขณะอุตสหกรรมผลิตภัณฑ์นมจะได้ประโยชน์มหาศาลจากกำแพงปลอดภาษีโดยเฉพาะในผลิตภัณ์นมผงทารก ที่จีนยังคงตั้งกำแพงภาษีกับนิวซีแลนด์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคู่แข่งสำคัญของออสเตรเลีย แฟร์แฟกซ์ รายงาน

แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ข้อตกลงการค้าเสรีจะกระตุ้นเศรษฐกิจออสเตรเลียได้ แต่ก็สร้างความกังวลให้กับตลาดแรงงานของออสเตรเลียที่มีการแข่งขันสูง โดยกังวลว่าแรงงานจากจีนจะมาแย่งงานที่ต้องใช้ทักษะชั้นสูงซึ่งมีรายได้ดีไปจากพลเมืองออสเตรเลีย และจะนำไปสู่การประท้วงโดยบรรดาสหภาพแรงงานภายในประเทศ

“สิ่งสุดท้ายที่เรากังวลคือ เราเกรงว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะลงนามในข้อตกลงที่ทำให้งานของชาวออสเตรเลียต้องถูกแย่ง และดับอนาคตเด็กที่เป็นความหวังของดินแดนดาว์นอันเดอร์แห่งนี้” (Ged Kearney) เกด เคียร์นี ประธาน ACTU (Australian Council of Trade Unions) หรือ สภาออสเตรเลียสำหรับสหภาพแรงงาน ซึ่งเป็นปากเป็นเสียงให้กับแรงงานออสเตรเลีย แถลงและเสริมว่า “และผลประโยชน์มหาศาลที่ได้จากข้อตกลง FTA จะหายไป และจะไม่สามารถทำให้เกิดประโยชน์ต่อออสเตรเลียและประชาชนชาวออสเตรเลียอย่างที่ตั้งความหวังไว้”



กำลังโหลดความคิดเห็น