เอเอฟพี - บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของฟิลิปปินส์แถลงวันนี้ (13 ต.ค.) ว่า กำลังสืบสวนว่า นายทหารอเมริกันคนหนึ่ง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของสาวประเภทสองชาวฟิลิปปินส์ ที่ถูกสังหารหลังปิดฉากการซ้อมรบร่วมระหว่างสองชาติพันธมิตรหรือไม่
สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงมะนิลาได้ยืนยันว่า มีนายทหารอเมริกันคนหนึ่ง “ถูกระบุว่าอาจเป็นผู้ต้องสงสัย” ในการก่อเหตุสังหารที่โรงแรม ในเมืองโอลองกาโป ทางตอนเหนือของประเทศวานนี้ (12)
สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำฟิลิปปินส์ระบุในคำแถลง โดยไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดว่า “สหรัฐฯ จะยังร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบด้านการบังคับใช้กฎหมายของฟิลิปปินส์ ในทุกขั้นตอนการสืบสวน อย่างเต็มที่”
เมื่อดึกคืนวานนี้ (12) พนักงานโรงแรมได้พบศพของ เจฟฟรีย์ เลาเด หลังเหยื่อผู้เสียชีวิตเช็คอินเข้าห้องพักไปพร้อมชายผู้ต้องสงสัย ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใคร ได้เพียงไม่ถึงชั่วโมง
แมรี แอน ซาดาบา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนกล่าวกับเอเอฟพีว่า “ชาวต่างชาติ” ที่เดินทางมากับเลาเด มีผมสั้นสีทอง สูงปานกลาง และเดินออกจากโรงแรมไปด้วยท่าทาง “สบายๆ” โดยไม่ได้ชำระค่าโรงแรม ทำให้พนักงานโรงแรมตัดสินใจเข้าไปตรวจดูภายในห้องพัก
เธอกล่าวเสริมว่า พวกเขาพบเลาเด ที่แต่งกายเป็นหญิง นอนเป็นร่างไร้วิญญาณอยู่กับพื้นห้องน้ำ โดยที่คอมีรอยช้ำ
ซาบาดากล่าวว่า รอยช้ำตามลำคอชี้ว่า เหยื่อถูกบีบคอเสียชีวิต แต่ยังคงต้องรอการชันสูตรต่อไป
เธอระบุว่า “ชาวต่างชาติคนดังกล่าวตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะเขาคือคนสุดท้ายที่อยู่กับผู้ตาย”
เอดัวร์โด โอบัน ที่ปรึกษาของประธานาธิบดี เบนิโญ อากีโน แห่งฟิลิปปินส์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า กองทหารสหรัฐฯ ที่เข้าร่วมการซ้อมรบสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกในช่วงวันที่ 29 กันยายน ถึง 10 ตุลาคมนั้นถูกสั่งให้อยู่ที่ฟิลิปปินส์ ในช่วงที่มีการสืบสวนคดีฆาตกรรม
โอบัน ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการบริหารของ คณะกรรมาธิการประธานาธิบดีว่าด้วยข้อตกลงกำลังทหารที่มาเยือนกล่าวว่า “(กองบัญชาการสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นแปซิฟิก) ได้สั่งห้ามเรือสหรัฐฯ แล่นออกจากฟิลิปปินส์ จนกว่าเราจะทำการสืบสวนเสร็จสิ้น”
ทหารนาวิกโยธิน และทหารเรือราว 3,500 คนได้เดินทางไปเข้าร่วมการซ้อมรบร่วมครั้งนี้ ซึ่งจัดขึ้นในหลายพื้นที่ของฟิลิปปินส์ รวมถึง ศูนย์ฝึกใกล้เมืองโอลองกาโป
อัลเบิร์ต เดล โรซาริโอ รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ (13) เขาได้ร่วมหารือกับบรรดาเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงมะนิลา ถึงคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้น
เมื่อปี 2006 ศาลฟิลิปปินส์ได้พิพากษาจำคุก ส.ต.แดเนียล สมิธ ทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ 40 ปีในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราชาวฟิลิปปินส์ 1 ปีก่อนหน้านั้น
สมิธได้รับอิสรภาพในปี 2009 ภายหลังผู้ที่กล่าวหาเขากลับคำให้การ ทำให้ศาลแดนตากาล็อกประกาศให้เขาพ้นผิด