เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประกาศลั่น อเมริกาไม่ครั่นคร้ามต่อการคุกคามของ “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) แต่จะสร้างแนวร่วมขึ้นมาปราบปรามนักรบญิฮัดกลุ่มนี้ให้สิ้นซาก ทั้งนี้หลังจากที่ไอเอสได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการตัดคอผู้สื่อข่าวอเมริกันรายที่สอง พร้อมขู่ซ้ำว่าถ้าวอชิงตันยังไม่ยุติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มของตนในอิรักก็จะปลิดชีพพลเมืองอังกฤษเป็นรายต่อไป สำหรับทางด้านนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ได้เรียกประชุมฉุกเฉินเพื่อหาทางรับมือคำขู่ดังกล่าว และรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการส่งเครื่องบินรบเข้าร่วมถล่มไอเอส
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แถลงระหว่างเดินทางเยือนยุโรปเมื่อวันพุธ (3 ก.ย.) เพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมการประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาปกป้องแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ว่า สหรัฐฯ จะเดินหน้าต่อสู้กับการคุกคามและวิสัยทัศน์ป่าเถื่อนและกลวงเปล่าของกลุ่มไอเอส ที่แยกตัวมาจากอัลกออิดะห์ และปัจจุบันยึดครองอาณาบริเวณกว้างขวางในอิรักและซีเรีย
“เป้าหมายของเราคือ ทำให้แน่ใจว่าไอเอสจะไม่เป็นภัยคุกคามตะวันออกกลางอีกต่อไป"
อย่างไรก็ดี ประมุขทำเนียบขาวไม่ได้กำหนดเวลาชัดเจนในการตัดสินใจยุทธศาสตร์อันแน่ชัดที่จะใช้จัดการกับพวกไอเอส ส่วนที่ปฏิบัติการอยู่ในซีเรีย
คำประกาศของโอบามาคราวนี้ มีขึ้นหลังจากทางการสหรัฐฯตรวจสอบและยืนยันว่า คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันอังคาร (2) เป็นเหตุการณ์จริง โดยในคลิปดังกล่าวมีภาพของ สตีเวน ซอตลอฟฟ์ นักข่าวอิสระถูกตัดคอ ซึ่งถือเป็นนักข่าวอเมริกันรายที่ 2 ที่ถูกไอเอสสังหารโหด หลังจากเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว นักรบญิฮัดกลุ่มนี้ได้เผยแพร่คลิปการปลิดชีพเจมส์ โฟลีย์ อย่างโหดเหี้ยมแบบเดียวกัน
ในคลิปล่าสุด นักรบญิฮัดสวมหน้ากากผู้หนึ่งพูดด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงลอนดอนอันชัดเจน กล่าวเตือนโอบามาว่า ตราบที่อเมริกายังคงโจมตีทางอากาศต่อไอเอส “มีดของเราจะบั่นคอคนของเจ้าต่อไป”
ซอตลอฟฟ์ วัย 33 ปี เป็นชาวไมอามีและเป็นผู้สื่อข่าวอิสระให้นิตยสารไทมส์และฟอเรนจ์ โพลิซี เขาหายตัวไปในซีเรียในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว และเพิ่งปรากฏตัวอีกครั้งในคลิปสังหารโฟลีย์ โดยถูกระบุว่าจะเป็นเหยื่อรายต่อไปหากอเมริกาไม่ยุติการโจมตีทางอากาศต่อไอเอสในอิรัก
ในคลิปล่าสุดที่มีชื่อว่า “สาส์นฉบับที่สองถึงอเมริกา” ซอฟต์ลอฟฟ์ปรากฏตัวในชุดเสื้อกางเกงติดกันสีส้มเหมือนกับในคลิปชุดแรก เขากล่าวในคลิปว่า ตนเองเป็นเหยื่อการตัดสินใจของโอบามาในการเดินหน้าโจมตีทางอากาศต่อไอเอส
นักรบในคลิปยังประณามการโจมตีทางอากาศของอเมริกาต่อไอเอสที่เขื่อนโมซุลและเมืองอเมอร์ลีในอิรัก ซึ่งบ่งชี้ว่าการสังหารซอตลอฟฟ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ก่อนจบคลิปความยาว 5 นาที ซึ่ง “ไซต์ อินเทลลิเจนต์” กลุ่มติดตามขบวนการก่อการร้ายของอเมริกา ได้ค้นพบในเว็บ นักรบในคลินได้ขู่สังหารเชลยคนต่อไปที่ระบุว่า เป็นชาวอังกฤษชื่อ เดวิด คอว์โธรน เฮนส์
“เราถือโอกาสนี้เตือนรัฐบาลของประเทศต่างๆ ที่ร่วมเป็นพันธมิตรกับอเมริกาเพื่อต่อต้านไอเอส ให้ถอนตัวและเลิกยุ่งกับนักรบของเรา” นักรบในคลิปทิ้งท้าย
ที่ลอนดอน ฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุโทรทัศน์บีบีซีว่า ดูเหมือนนักรบญิฮัดในคลิปล่าสุดจะเป็นคนเดียวกับที่สังหารโฟลีย์
แฮมมอนด์สำทับว่า การที่ไอเอสจับพลเมืองอังกฤษเป็นเชลย ไม่ได้เพิ่มแนวโน้มที่อังกฤษจะร่วมโจมตีทางอากาศต่อนักรบหัวรุนแรงกลุ่มนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ปฏิบัติการดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการตัดสินใจเรื่องนี้ในขณะนี้
การให้สัมภาษณ์นี้มีขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีคาเมรอนของอังกฤษ เรียกประชุมฉุกเฉินผู้นำหน่วยงานความมั่นคงในวันพุธ เพื่อหารือแนวทางจัดการกับคำขู่ของไอเอส
ทางด้าน บัน คีมูน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ได้ออกมาแถลงประณามการสังหารผู้สื่อข่าวอเมริกันอย่างโหดเหี้ยมครั้งล่าสุด ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางรายงานข่าวความโหดร้ายของไอเอสที่สังหารและลักพาตัวชาวคริสต์และยาซิดี ที่เป็นชนกลุ่มน้อยในอิรัก
หลังจากคลิปล่าสุดเผยแพร่ไม่นาน ทำเนียบขาวประกาศว่า โอบามาอนุมัติให้ส่งทหารอีก 350 คนไปรักษาความปลอดภัยสถานเอกอัครราชทูตและเจ้าหน้าที่อเมริกันในกรุงแบกแดด ทำให้จำนวนทหารอเมริกันในอิรักขณะนี้เพิ่มเป็นประมาณ 820 นาย
ขณะเดียวกัน เหตุการณ์สังหารโหดล่าสุดทำให้คณะรัฐบาลของโอบามาถูกรัฐสภากดดันหนักขึ้น หลังจากที่มีการวิจารณ์ว่า ผู้นำทำเนียบขาวไม่ได้ใช้ความพยายามมากพอ เพื่อจัดการกับนักรบหัวรุนแรงไอเอส
วันอังคารที่ผ่านมา เอ็ด รอยซ์ ประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เผยว่าจะเชิญจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศ เข้ามาให้ปากคำเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การตอบโต้ไอเอส หลังจากรัฐสภาเปิดประชุมขึ้นใหม่ในสัปดาห์หน้า
