เซาท์ไชน่า มอร์นิงโพสต์ รายงาน (31 ก.ค.) ว่าหน่วยงานสาธารณสุขอ่องกง ได้เพิ่มมาตรการป้องกันไวรัสอีโบล่าแล้วเมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) ขณะที่ผู้ป่วยหญิงฮ่องกงรายหนึ่งซึ่งสงสัยว่าจะติดเชื้อดังกล่าว หลังเดินทางกลับจากเคนยา ได้รับการตรวจล่าสุดพบว่าไม่ได้ติดเชื้อไวรัสมรณะ
รายงานข่าวกล่าวว่า ไวรัสอีโบลาได้แพร่ข้ามทวีปแล้วโดยผู้ติดเชื้อชาวอังกฤษ รายหนึ่งซึ่งเดินทางโดยสารเครื่องบินจากไนจีเรียไปยังเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ นับเป็นครั้งแรกของการแพร่กระจายเชื้อไวรัสฯ ออกไปจากแอฟริกาตะวันตก
นายแพทย์ กั๋ว วิงมั่น รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ฮ่องกง กล่าวหลังประชุมฉุกเฉินร่วมกับผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่อฯ ว่า ฮ่องกงควรจะเฝ้า 'เตื่อนภัยระดับสูง' กับสถานการณ์ระบาดของไวรัสอีโบล่า และเตรียมมาตรการรับมือฯ
นายฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวว่า สถานการณ์ระบาดที่ควบคุมไม่ได้ในแอฟริกา เป็นภัยร้ายแรงสำหรับสหราชอาณาจักร
นับแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบล่า แล้ว 1,201 ราย เสียชีวิตแล้ว 672 ราย ทั้งในกีนี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน
นายแพทยกั๋ว กล่าวว่า แม้ฮ่องกงจะไม่มีเที่ยวบินตรงจากแอฟริกาตะวันตก แต่เชื้อไวรัสดังกล่าวก็สามารถมาถึงฮ่องกงได้ด้วยเครื่องบิน และอีโบลา เป็นโรคติดต่อที่ร้ายแรง การเฝ้าระวังติดตามผู้ติดเชื้อในทุกกรณีเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
ด้านประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ ฮ่องกง นายโดมินิก ถัง กล่าวว่า โรงพยาบาลรัฐจะเริ่มรายงานผลตรวจผู้ป่วยทุกรายที่มีอาการสัมพันธ์ที่น่าสงสัยฯ อาทิเป็นไข้สูงอย่างฉับพลัน ภายในช่วง 21 วัน หลังเดินทางจากประเทศที่มีสถานการณ์แพร่ระบาดในแอฟริกา อีกทั้งจะมีการแยกผู้ป่วยเหล่านั้นระหว่างที่ตรวจผลฯ
สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก แถลงว่าได้มีการเฝ้าติดตามสถานการณ์แม้ว่าจะไม่มีเที่ยวบินตรงหรือเที่ยวบินเชื่อมเส้นทางไปยังแอฟริกาใต้ โดยโฆษกฯ ของสายการบินกล่าวว่า จะร่วมมือกับหน่วยงานสาธารณสุขฮ่องกง และทุกหน่วยงานท่าอากาศยานสากลที่อยู่ในเส้นทางบริการของสายการบิน
ทั้งนี้ รายงานล่าสุดจากโรงพยาบาลควีน อลิซาเบธในจอร์แดน ยังกล่าวว่า สุภาพสตรีฮ่องกงที่ป่วยเป็นไข้สูงหลังเดินทางกลับจากเคนย่า ซึ่งได้ถูกกักตัวไว้เพื่อรับการตรวจและพบว่าไม่ได้ติดเชื้อไวรัสมรณะดังกล่าว