เอเอฟพี - รัสเซียวันนี้ (23 ก.ค.) แถลงว่า ได้เริ่มลงมือขยายและปรับโฉม “กองเรือทะเลดำ” ซึ่งมีฐานในคาบสมุทรไครเมีย ด้วยการส่งเรือรบและเรือดำน้ำลำใหม่เข้าไปประจำการเพิ่ม ภายหลังมอสโกผนวกคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งเป็นดินแดนเก่าของยูเครน เข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศได้เพียงไม่กี่เดือน
อเล็กซันเดียร์ วิทโก ผู้บังคับการกองเรือทะเลดำปราศรัยกับเหล่าลูกแถวว่า “วันนี้ (23) เราได้เริ่มก่อตั้งกองเรือทะเลดำอันทรงพลัง ซึ่งมีศักยภาพในระดับที่ต่างจากหน่วยรบทางอากาศ ทหารขีปนาวุธชายฝั่ง ทหารปืนใหญ่ ตลอดจนนาวิกโยธินโดยสิ้นเชิง”
“เรากำลังเตรียมฐานทัพ และลูกเรือไว้สำหรับเรือรบและเรือดำน้ำลำใหม่”
วิทโกกล่าวว่าการปฏิรูปกองเรือ “เป็นการก่อร่างสร้างฐานให้แก่อนาคตของกองเรือ ทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว”
ทั้งนี้ กองเรือทะเลดำของรัสเซีย มีฐานทัพอยู่ใน เซวัสโตปอล ซึ่งเป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในคาบสมุทรไครเมีย ทั้งนี้ กองเรือของรัสเซียสามารถเข้าไปตั้งฐานทัพในเมืองนี้ ภายหลังแดนหมีขาวทำข้อตกลงร่วมกับยูเครน ก่อนที่รัสเซียจะผนวกคาบสมุทรไครเมีย เมื่อเดือนมีนาคม
วานนี้ (22) ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียกล่าวในการประชุมร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติว่า รัสเซียจะยกระดับศักยภาพด้านกลาโหม เพื่อรับมือกับอิทธิพลขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งคืบคลานเข้าใกล้พรมแดนรัสเซียเข้าไปทุกที
เขากล่าวว่า “เราจำเป็นต้องประกาศใช้มาตรการกลาโหมทั้งหมดของรัสเซียอย่างเต็มที่ และทันท่วงที รวมทั้งในไครเมีย และเซวัสโตปอล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เราต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานของกองทัพขึ้นมา โดยเริ่มต้นจากศูนย์”
ในวันแห่งชัยชนะของปีนี้ (9 พ.ค.) ปูตินได้เดินทางไปร่วมพิธีสวนสนามของกองทัพเรือ โดยมีประชาชนหลายพันคนแห่มารวมตัวที่อ่าวแห่งนี้ เพื่อเฝ้าดูการซ้อมรบทางน้ำ
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เซียร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียแถลงว่า กองเรือทะเลดำของรัสเซียจะได้รับมอบเรือรบและเรือดำน้ำลำใหม่ในปีนี้
ก่อนหน้านี้ในเดือนเดียวกัน รัสเซียได้ประกาศแผนพัฒนาเมืองเซวัสโตปอล ให้สำเร็จเสร็จสิ้นภายในปี 2030 เป็นต้นว่า การสร้างโรงกำเนิดไฟฟ้าเพื่อให้เมืองนี้ลดการพึ่งพากระแสไฟฟ้าจากยูเครน
นอกจากนี้ มอสโกยังประกาศว่า มีแผนดำเนินโครงการสร้างสะพานเชื่อมคาบสมุทรไครเมียเข้ากับภาคใต้ของรัสเซีย