xs
xsm
sm
md
lg

“ปูติน” จ่อเยือน “ไครเมีย” หนแรก 9 พ.ค. นี้ เติมเชื้อไฟวิกฤตคุกรุ่นในยูเครน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เตรียมเดินทางเยือน “คาบสมุทรไครเมีย” เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่รัสเซียทำการผนวกดินแดนแห่งนี้มาจากยูเครนเมื่อเดือนมีนาคม ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของผู้นำรัสเซียท่ามกลางสถานการณ์ที่คุกรุ่นและตึงเครียดหนักในยูเครน

รายงานข่าวในวันพุธ (30 เม.ย.) โดยหนังสือพิมพ์รายวันชื่อดังของรัสเซียอย่าง “คอมเมอร์ซานต์” รวมถึงเว็บไซต์ “กาเซตา ด็อท อาร์ยู” ระบุตรงกันว่า ประธานาธิบดี ปูติน ในวัย 61 ปี จะเดินทางไปยังเมืองเซวาสโตโปล ในไครเมีย ในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ เพื่อเข้าร่วมชมพิธีการสวนสนามทางทหารที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของกองทัพสหภาพโซเวียตในสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีความเป็นไปได้ที่ผู้นำรัสเซีย อาจเดินทางไปตรวจเยี่ยม “กองเรือทะเลดำ” ของรัสเซียซึ่งมีฐานอยู่ที่เมืองดังกล่าว

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน อาจเดินทางไปเยือนไครเมีย พร้อมกับนายกรัฐมนตรี ดมิตรี เมดเวเดฟ และเป็นที่คาดกันว่า ปูตินจะใช้โอกาสนี้ปลุกกระแสความรักชาติและแรงสนับสนุนภายในประเทศ ต่อวิกฤตยูเครน ที่ส่งผลให้รัสเซียและโลกตะวันตกต้องเผชิญหน้ากันในระดับที่ตึงเครียดที่สุดนับแต่สิ้นยุค “สงครามเย็น”

ทั้งนี้ สาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมียซึ่งเคยเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของยูเครน ได้จัดการลงประชามติในวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา โดยผลการลงประชามติออกมาว่า ประชาชนชาวไครเมียถึงร้อยละ 96.77 ต้องการแยกตัวจากยูเครน และเข้าร่วมกับรัสเซีย

ซึ่งในอีกไม่กี่วันต่อมาผู้นำรัสเซียก็ได้ลงนามในกฎหมายรับรองการผนวกไครเมียรวมเข้ากับรัสเซียอย่างเป็นทางการ พร้อมสั่งเคลื่อนกำลังพลกว่า 40,000 นายของกองทัพรัสเซียประชิดชายแดนยูเครนโดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง ท่ามกลางความกังวลของรัฐบาลใหม่ยูเครนที่มีจุดยืน “โปรตะวันตก” ว่า รัสเซียอาจต้องการบุกเข้ายึดครองดินแดนอื่นๆ อีก ทางภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชากรส่วนใหญ่มีเชื้อสายรัสเซีย แม้ปูตินจะยืนกรานไม่คิดผนวกดินแดนของยูเครนเพิ่มเติม

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของผู้นำรัสเซียที่เตรียมเดินทางเยือนไครเมียเป็นครั้งแรก มีขึ้นในจังหวะเวลาเดียวกับที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เห็นชอบปล่อยเงินกู้จำนวน 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 549,865 ล้านบาท) ให้แก่รัฐบาลใหม่ของยูเครน ที่กำลังเผชิญกับภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศใกล้ล่มสลาย ตลอดจนต้องรับมือกับภัยคุกคามของกลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนที่นิยมรัสเซียที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ทั่วภาคตะวันออกของประเทศ

ก่อนหน้านี้ วิทาลี ลิโซเวนโก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของยูเครน ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุเงินกู้ก้อนดังกล่าวจากไอเอ็มเอฟจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่กำลังหดตัวของยูเครน รวมถึงช่วยให้ยูเครนมีศักยภาพในการชำระหนี้เงินกู้ระหว่างประเทศจำนวนกว่า 9,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 291,105 ล้านบาท) ที่จะครบกำหนดชำระคืนภายในปีนี้



กำลังโหลดความคิดเห็น