ชาวไครเมียแห่เข้าคูหาทำ “ประชามติซบรัสเซีย” ธงชาติหมีขาวปลิวไสวทั่วเมือง

เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตปกครองตนเองไครเมียต่างตบเท้าเข้าคูหากันอย่างคึกคักเพื่อลงประชามติว่าด้วยการผนวกดินแดนเข้ากับรัสเซียในวันนี้ (16 มี.ค.) ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่น่าจะเอียงไปในทางซบแดนหมีขาวอย่างแน่นอน

ที่เมืองเซวาสโตโพลซึ่งเป็นเมืองท่าทางตอนใต้ของคาบสมุทรไครเมีย ชาวเมืองส่วนใหญ่ได้นำธงชาติรัสเซียมาประดับบนรถยนต์, รถประจำทาง และอาคารบ้านเรือน แลดูปลิวไสวไปทั่วทั้งเมือง

เซวาสโตโพลเป็นที่ตั้งกองเรือทะเลดำของรัสเซียซึ่งเข้ามาประจำการอยู่ที่นี่นานถึง 230 ปีแล้ว โดยยูเครนได้อนุญาตให้มอสโกใช้สถานที่ในอัตราค่าเช่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี พร้อมกับลดราคาก๊าซที่ส่งขายให้ยูเครนอีก 30% ซึ่งข้อตกลงนี้จะมีผลบังคับไปจนถึงปี 2042

แม้จะมีสถานะเป็นเขตปกครองตนเองของยูเครน แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าพลเมืองไครเมียน่าจะขอแยกตัวไปเข้ากับมอสโกในการทำประชามติซึ่งถูกประกาศออกมาเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากรัฐสภายูเครนถอดถอนอดีตประธานาธิบดีวิกเตอร์ ยานูโควิช ซึ่งมีจุดยืนเอียงข้างรัสเซีย

ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีซึ่งเข้าไปสังเกตการณ์ที่หน่วยลงคะแนนแห่งหนึ่งในย่านการค้าและวัฒนธรรมของเมืองเซวาสโตโพล รายงานว่า ประชาชนเริ่มเดินเข้าคูหากันตั้งแต่ก่อนเวลา 08.00 น.เล็กน้อย (13.00 น.ตามเวลาในไทยวันนี้)

ชาวไครเมียราว 65 คนเดินทางไปถึงหน่วยลงคะแนนก่อนเปิดหีบราวครึ่งชั่วโมง และได้ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ก่อนจะได้รับบัตรลงคะแนน

หน่วยลงคะแนนซึ่งเปิดอย่างเป็นทางการในเวลา 08.00 น. จะเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิเป็นเวลา 12 ชั่วโมง ซึ่งผลการนับคะแนนในเบื้องต้นก็คาดว่าจะประกาศได้ภายในช่วงค่ำวันนี้ (16) ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ผลอย่างเป็นทางการน่าจะทราบในอีก 1-2 วัน

อเลฟตินา คลิโมวา วัย 80 ปี บอกว่า เธอเกิดในรัสเซีย และต้องการให้คาบสมุทรไครเมียกลับไปเป็นของรัสเซียอีกครั้ง

“ฉันเชื่อว่าสหรัฐฯ, ฝรั่งเศส และชาติตะวันตกพวกนั้นน่าจะต่อต้านการทำประชามติ... คุณก็ทราบดี ฉันกลัวแทน (ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์) ปูติน จริงๆ ฉันเคยคิดว่าเขาจะต้านทานแรงกดดันของพวกตะวันตกได้อย่างไร แต่สุดท้ายเขาก็ทำได้ เมื่อคืนฉันนอนไม่หลับเลย ฉันรอคอยเวลานี้มาตลอด และทุกอย่างก็เป็นไปตามที่ฉันต้องการ”

ไครเมียเคยเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซียจนกระทั่งปี 1954 เมื่อ นิกิตา ครุสเชฟ ผู้นำสหภาพโซเวียต ยกมันให้เป็นของขวัญแก่ยูเครน

ทาเทียนา อิสชินกา วัย 57 ปี เปิดใจต่อผู้สื่อข่าวหลังลงคะแนนว่า “เราอยากกลับบ้าน มันคือดินแดนของเรา เมืองของเรา ประเทศของเรา สาธารณรัฐของเรา เราทุกคนในเมืองเซวาสโตโพลต้องการเช่นนี้ ที่นี่เป็นเมืองรัสเซีย-สลาฟ”

หญิงสาวคนหนึ่งถือธงชาติรัสเซียเข้าไปใช้สิทธิ์ในคูหา และโบกธงอย่างร่าเริงขณะที่เธอเดินจากไป

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สภาบริหารเมืองเซวาสโตโพลได้ลงคะแนนส่วนใหญ่ว่าพวกเขา “ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย”