xs
xsm
sm
md
lg

“มอสโก” ประณาม “ม็อบ” โจมตีสถานทูตในเคียฟ ตะวันตกกดดัน “รัสเซีย” ยุติหนุนกบฏยูเครน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประชาชนชาวยูเครนยืนหน้าทำเนียบประธานาธิบดี ณ กรุงเคียฟ ในเวลาที่มีการลดธงลงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัยให้ทหาร 49 นาย ซึ่งสิ้นชีพในเหตุกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียยิงเครื่องบินลำเลียงของกองทัพยูเครนตก
เอเจนซีส์ – มอสโกประณามตำรวจยูเครนปล่อยม็อบเข้าโจมตีสถานทูตรัสเซีย โดยที่อเมริการ่วมกดดันเคียฟให้คุ้มครองสำนักงานการทูตของต่างชาติอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ดี วอชิงตันยืนยันพร้อมร่วมกับกลุ่มจี7 เพิ่มมาตรการลงโทษแดนหมีขาว หากมอสโกยังไม่ยุติการหนุนหลังและสนับสนุนอาวุธให้แก่กลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกของยูเครน ด้านประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ลั่นยูเครนจะจัดการกับกลุ่มกบฏที่ยิงเครื่องบินทหารตกมีผู้เสียชีวิต 49 คนเมื่อวันเสาร์ (14 มิ.ย.) อย่างสาสม

รัฐบาลยูเครนประกาศให้วันอาทิตย์ (15) เป็นวันไว้อาลัยทหาร 49 คนที่เสียชีวิตในวันเสาร์ (14) เมื่อเครื่องบินขนส่งที่พวกเขานั่งมาถูกพวกกบฏโจมตีในบริเวณเมืองลูกันสก์ ทางภาคตะวันออกของประเทศ พร้อมกันนี้ ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ของยูเครนซึ่งมีแนวทางสนับสนุนตะวันตก ก็ประกาศจะจัดการกับกลุ่มกบฏที่ก่อเหตุอย่างสาสม อันเป็นการบ่งชี้แนวโน้มว่าการปราบปรามกลุ่มกบฏที่สนับสนุนรัสเซีย จะดำเนินไปอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการกองกำลังของยูเครนในเมืองลูกันสก์ที่ถูกกลุ่มกบฏยึดครองตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ยังได้นำซากเครื่องบินขนส่งแบบอิลยูชิน-76 ที่ถูกยิงตกกลางทุ่งห่างจากสนามบินที่ยังเป็นพื้นที่ควบคุมของกองทัพยูเครนกว่า 10 กิโลเมตร มาแสดงด้วย

ทางด้าน จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ โทรศัพท์ถึงนายกรัฐมนตรีอาร์เซนีย์ ยัตเซนยุคของยูเครน เพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่า อเมริกาและพันธมิตรกลุ่ม 7 ชาติอุตสาหกรรมของโลก (จี7) จะเพิ่มมาตรการลงโทษ หากรัสเซียไม่ระงับการส่งอาวุธข้ามแดนและตัดสัมพันธ์กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน
กลุ่มผู้ประท้วงชาวยูเครนในกรุงเคียฟรวมตัวกันหน้าสถานเอกอัครราชทูตรัสเซีย เพื่อแสดงความโกรธแค้นที่กลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียทางภาคตะวันออกยิงเครื่องบินของกองทัพยูเครนตกจนมีทหารเสียชีวิตไปถึง 49 ราย โดยกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีราว 300 คนได้ร่วมกันปาไข่ และระเบิดเพลิงใส่กำแพงสถานเอกอัครราชทูต และทุบทำลายกระจกหน้าต่าง ตลอดจนปลดธงชาติรัสเซียลงมาจากตัวอาคาร
เคร์รียังโทรหาเซียร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย แสดงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับเหตุการณ์ล่าสุดนี้ พร้อมเรียกร้องให้มอสโกยุติการจัดส่งอาวุธหนักและนักรบข้ามแดนเข้าสู่ภาคตะวันออกของยูเครน

วันเดียวกันนั้น องค์การสนธิสัญญาปกป้องแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ได้เผยแพร่ภาพรถถังต้องสงสัยในลูกันสก์ โดยรถถังเหล่านั้นไม่ได้ติดเครื่องหมายหรือสีพรางแบบรถถังยูเครน ซึ่งนำไปสู่ข้อกล่าวหาที่ว่า มอสโกกำลังให้ความสนับสนุนการก่อความไม่สงบทางภาคตะวันออกของยูเครน ทว่า เครมลินยังคงยืนกรานปฏิเสธเรื่องนี้

ในส่วนของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี และประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ของฝรั่งเศส ได้แสดงความกังวลอย่างมากต่อความรุนแรงที่ลุกลามในยูเครน ระหว่างหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย รวมทั้งระบุว่า จำเป็นต้องมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนตะวันออกโดยเร็ว โดยตัวเลขล่าสุดนั้นระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจากการลุกฮือก่อความวุ่นวายของกลุ่มกบฏในพื้นที่ดังกล่าวอย่างน้อย 320 คน

ขณะเดียวกัน วิลเลียม เฮก รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ แถลงว่า นานาชาติพร้อมเพิ่มมาตรการลงโทษ หากเครมลินยังคงส่งเสริมให้เกิดความวุ่นวายในยูเครน

เหตุการณ์โจมตีเครื่องบินทหารในลูกันสก์ ยังส่งผลให้ชาวยูเครนหลายร้อยคนไม่พอใจและพากันไปประท้วงหน้าสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียในกรุงเคียฟเมื่อวันเสาร์ และการประท้วงได้ลุกลามถึงขั้นมีการทำลายกระจกของสถานทูต พลิกคว่ำรถยนต์หรูของเจ้าหน้าที่สถานทูต ถอดธงชาติรัสเซียลง และปาระเบิดขวดเข้าใส่กำแพงสถานทูต
พนักงานดับเพลิงระดมฉีดโฟมใส่รถยนต์คันหนึ่งที่จอดอยู่หน้าสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเครน ท่ามกลางกลุ่มผู้ประท้วงที่มารวมตัวกันแสดงความแค้นเคืองอย่างเนืองแน่น
รัสเซียได้ออกมาประณามตำรวจเคียฟที่ปล่อยให้ผู้ประท้วงก่อความรุนแรง ซึ่งถือเป็นการละเมิดพันธะข้อผูกพันที่ยูเครนมีต่อนานาชาติ

ทางด้าน เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาตำหนิเคียฟเช่นเดียวกัน โดยเรียกร้องให้รัฐบาลยูเครนปฏิบัติตามข้อผูกพันของอนุสัญญาเวียนนาในการให้ความคุ้มครองสำนักงานการทูตต่างชาติอย่างเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม ปัญหาของยูเครนไม่ได้มีเฉพาะเรื่องสถานการณ์ความรุนแรงเท่านั้น แต่เคียฟยังกำลังถูกมอสโกคุกคามทางเศรษฐกิจ ในการเจรจาจัดทำข้อตกลงจัดส่งก๊าซกันใหม่ โดยที่มีสหภาพยุโรป (อียู) เป็นคนกลาง

ความต้องการใช้พลังงานยูเครนนั้น ครึ่งหนึ่งทีเดียวต้องพึ่งพาก๊าซจากรัสเซีย นอกจากนั้นก๊าซรัสเซียที่ผ่านสายท่อส่งในยูเครนต่อไปยังชาติต่างๆ ในยุโรป ยังคิดเป็นปริมาณเชื้อเพลิง 15% ที่ชาติยุโรปต้องใช้ด้วย แต่นับจากเดือนกุมภาพันธ์ที่อดีตประธานาธิบดีวิกเตอร์ ยานูโควิช ที่สนับสนุนเครมลินถูกปลด มอสโกก็ประกาศขึ้นราคาก๊าซที่ส่งให้ยูเครนเกือบเท่าตัว

ในการประชุมเมื่อวันเสาร์ เคียฟเผยว่า พร้อมจ่ายเงินชำระค่าก๊าซจำนวน 1,950 ล้านดอลลาร์ตามที่มอสโกเรียกร้องในเช้าวันจันทร์ (16) หากรัสเซียยอมลดราคาให้จาก 485.50 ดอลลาร์ต่อ 1,000 ลูกบาศก์เมตร เหลือ 326 ดอลลาร์ ทว่า รัสเซียยืนกรานราคาสุดท้ายที่ 385 ดอลลาร์ ซึ่งหากไม่สามารถตกลงกันได้ มอสโกอาจเริ่มระงับการส่งก๊าซให้ยูเครนตั้งแต่วันจันทร์ ในเวลา 6.00 น.(เวลามาตรฐานกรีนิช) หรือตรงกับ 13.00 น.เวลาเมืองไทย
กลุ่มผู้ประท้วงชาวยูเครนที่ไม่พอใจการกระทำของกลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซียทางภาคตะวันออกของประเทศ ระดมกำลังกันพลิกรถยนต์องนักการทูตแดนหมีขาว ซึ่งจอดอยู่หน้าสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียในกรุงเคียฟ
สมาชิกกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียมองดูสภาพความเสียหายของเครื่องบินลำเลียง อิลยูชิน-76 ของกองทัพยูเครน ซึ่งถูกกลุ่มติดอาวุธโปรรัสเซียยิงตกในชานเมืองลูกันสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อวันเสาร์ (14 มิ.ย.) เป็นผลให้มีนายทหารเสียชีวิตทั้งหมด 49 ราย

กำลังโหลดความคิดเห็น