เอเจนซี-- จีนและรัสเซีย ได้ลงนามสัญญาป้อนก๊าซ ทำให้ยักษ์ใหญ่ผู้บริโภคพลังงานอย่างจีน ได้ซับพลายพลังงานแห่งใหม่ และรัสเซียได้ตลาดแห่งใหม่มาช่วยเศรษฐกิจในยามที่ถูกชาติตะวันตกโดดเดี่ยวทางการทูตเนื่องจากวิกฤตยูเครน
ในวันนี้(21 พ.ค.) การปิโตรเลียมแห่งจีน คือ ไชน่า เนชั่นนัล ปิโตรเลียม คอร์ป (China National Petroleum Corp/ CNPC) และการปิโตรเลียมแห่งรัสเซีย ก๊าซพรอม (Gazprom) ได้ลงนามข้อตกลงที่เจรจามาราธอนกันนานถึง 30 ปี คือสัญญาการส่งก๊าซธรรมชาติไปยังประเทศจีน ที่นครเซี่ยงไฮ้ โดยมีประจักษ์พยานการลงนามฯ คือ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และ ผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน
แถลงการณ์ของการปิโตรเลียมจีน CNPC ระบุ “นี่คือความสำเร็จครั้งหลักหมายของความร่วมมือด้านพลังงานยุทธศาสตร์ระหว่างจีนและรัสเซีย”
ตามสัญญาฯ หมีขาวจะส่งก๊าซให้แก่จีนปีละ 38,000 ล้านคิวบิคเมตร (bcm) เป็นเวลานาน 30 ปี สัญญามีมูลค่า กว่า 400,000 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ก๊าซที่พญาหมีขาวจะป้อนแก่จีนตามสัญญาฉบับนี้นั้น มีปริมาณเพียงกว่าครึ่งของข้อตกลงกรอบงานที่สองฝ่ายเจรจากันในปี 2552 ปริมาณก๊าซที่ทั้งสองคุยกันเมื่อ 5 ปี ที่แล้ว คือ 70,000 ล้านคิวบิคเมตร
การขนส่งก๊าซจะผ่านท่อขนส่งแห่งใหม่ที่เชื่อมระหว่างบ่อแก็สไซบีเรียไปยังจุดต่างๆตามแนวชายฝั่งที่เป็นศูนย์กลางบริโภคหลักของจีน
ก๊าซพรอมไม่ยอมเผยราคาก๊าซที่ได้ตกลงกันในสัญญาฯ โดยราคาก๊าซนี้เองที่เป็นอุปสรรค ที่ทำให้การเจรจาฯยืดเยื้อมาถึง 30 ปี
ช่วงไม่กี่ปีมานี้ รัสเซียพยายามเข้าหาจีน เพื่อที่จะเปิดตลาดพลังงานแห่งใหม่ในเอเชีย ขณะที่แดนหมีขาวมีแหล่งสำรองพลังงานมหาศาล ผู้นำมังกรก็ดิ้นรนหาทรัพยากร ที่จะมาขับเคลื่อนการเติบโตเศรษฐกิจ แต่ทั้งสองก็ไม่สามารถตกลงกันเรื่องราคามาเป็นเวลานับสิบๆปี
ในเชิงสัญลักษณ์ สำหรับปูติน การลงนามข้อตกลงเป็นชัยชนะในการแสวงหาคู่หุ้นส่วนหน้าใหม่ในเอเชีย ในขณะที่ผู้บริโภคอย่างยุโรปพยายามลดการพึ่งพิงก๊าซรัสเซียสืบเนื่องจากวิกฤตในยูเครน
การลงนามฯนี้จะช่วยเศรษฐกิจหมีขาว ขณะที่วอชิงตันและอียูซัดมาตรการ ได้แก่ ห้ามวีซ่าและอายัดทรัพย์ของเจ้าหน้าที่และกลุ่มบริษัทรัสเซียหลายราย เป็นการโต้ตอบวิกฤตยูเครน นอกจากนี้ ยังเป็นการสนับสนุนผู้นำหมีขาวที่กำลังถูกโดดเดี่ยวทางการทูต อีกทั้งกระชับสัมพันธ์กับเอเชีย