เอเอฟพี – สายการบินแควนตัสของออสเตรเลีย ประกาศแผนเลิกจ้างนักบินหลายสิบชีวิตเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี เพื่อกอบกู้สถานะทางการเงินหลังประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก
หลังจากประกาศปลดพนักงาน 5,000 ตำแหน่งไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุด แควนตัส เตรียมขอความร่วมมือจากกัปตันโบอิ้ง 747 และโบอิ้ง 767 ที่พร้อมยื่นใบลาออกโดยสมัครใจ
โฆษกสายการบินชี้ว่า แควนตัส ยังไม่ได้ระบุจำนวนนักบินที่จะถูกปลด โดยจะรอให้กระบวนการยื่นใบลาออกโดยสมัครใจเสร็จสิ้นเสียก่อน แต่มีรายงานเบื้องต้นว่า อาจมีนักบินถูกเลิกจ้างสูงสุด 100 คน หรือไม่ถึงร้อยละ 20 ของจำนวนนักบิน 550 ชีวิตที่ควบคุมฝูงบินโบอิ้ง 747 และ 767
ทั้งนี้ แควนตัส มีนักบินอยู่ทั้งหมดประมาณ 2,000 คน
แควนตัส เคยระบุว่าจะปลดระวางฝูงบินโบอิ้ง 747 และ 767 ที่ใช้งานมานาน เพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ลดรายจ่าย 2,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียภายในเวลา 3 ปี โดย อลัน จอยซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบิน ยอมรับว่า แควนตัส กำลังเผชิญ “สถานการณ์ยากลำบากที่สุด” เท่าที่เคยประสบมา
ด้านสมาคมนักบินออสเตรเลียและนานาชาติ (AIPA) แถลงว่า การปลดนักบินครั้งนี้ถือเป็น “เรื่องน่าเสียใจ” แต่ก็พร้อมที่จะร่วมมือกับ แควนตัส เพื่อให้กระบวนการดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนต่อตัวนักบินน้อยที่สุด
“ในมุมมองของทางสมาคม เราคิดว่าการขอความร่วมมือจากนักบินอาวุโสซึ่งพร้อมลาออกโดยสมัครใจ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการเลิกจ้างนักบินรุ่นใหม่ๆ” นาธาน เซฟ ประธาน AIPA ให้สัมภาษณ์ต่อ ออสเตรเลียน บรอดคาสติง คอร์ปอเรชัน พร้อมยืนยันว่า ตนไม่รู้สึกกังวลแม้แต่น้อยว่าการทำเช่นนี้อาจส่งผลให้สายการบินขาดแคลนนักบินที่มีประสบการณ์
“ยังมีนักบินประสบการณ์สูงๆ อีกหลายคนซึ่งอาจจะไม่ยอมรับข้อเสนอนี้ หรือไม่อยู่ในข่ายถูกเลิกจ้าง” เซฟ กล่าว
แควนตัส แถลงผลประกอบการขาดทุนในช่วงครึ่งหลังของปี 2013 สูงถึง 235 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย และร้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลแคนเบอร์รา แต่ปรากฏว่ารัฐบาลยืนยันจะไม่นำเงินภาษีประชาชนมาอุ้มโดยเด็ดขาด แต่จะผ่อนคลายข้อจำกัดในกฎหมาย Qantas Sale Act ซึ่งปัจจุบันยังกำหนดให้ต่างชาติถือหุ้นได้ไม่เกิน 49%