แม่ทัพใหญ่นาโตเผย อาจส่งกำลังทหารไป “ประจำถาวร” ในยุโรปตะวันออกรับมือ “ภัยคุกคามรัสเซีย”

รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เตรียมพิจารณาการส่งกำลังทหารไปประจำการ “เป็นการถาวร” ในหลายส่วนของยุโรปตะวันออก หลังเกิดวิกฤตความตึงเครียดหนักระหว่างรัสเซียและยูเครน ทั้งนี้ เป็นการเปิดเผยของ พล.อ.อ.ฟิลิป บรีดเลิฟ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองกำลังนาโต ที่ออกมาเปิดเผยในวันอังคาร (6)

บรีดเลิฟ วัย 58 ปี นายพลระดับ 4 ดาวแห่งกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลังนาโตตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ออกมายอมรับต่อผู้สื่อข่าว หลังเดินทางเข้าร่วมการประชุมด้านความมั่นคงที่กรุงออตตาวา เมืองหลวงของแคนาดาในวันอังคาร (6) โดยยอมรับว่าการส่งกำลังทหารนาโตเข้าไปประจำการถาวรในยุโรปตะวันออกถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่จะต้องถูกนำมาพิจารณาอย่างจริงจัง และคาดว่าประเด็นนี้จะถูกหยิบยกไปหารือกันอย่างเป็นทางการในการประชุมสุดยอดนาโตที่จะจัดขึ้นใน “แคว้นเวลส์” ของสหราชอาณาจักรในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้

ท่าทีล่าสุดของแม่ทัพใหญ่นาโตมีขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้องค์กรความร่วมมือด้านการทหารที่ใหญ่ที่สุดของโลกตะวันตกแห่งนี้ตัดสินใจส่งกองกำลังขนาดย่อมทั้งทางบก ทางอากาศและทางเรือเข้าไปยังลิทัวเนีย ลัตเวีย เอสโตเนีย โปแลนด์ และโรมาเนีย เพื่อเข้าร่วม “การซ้อมรบ” โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นเพื่อเป็นการสร้างความอุ่นใจให้กับประเทศสมาชิกนาโตที่อยู่ในยุโรปตะวันออกว่าดินแดนของตนจะได้รับการปกป้องให้รอดพ้นภัยคุกคามจากรัสเซีย

อย่างไรก็ดี การส่งกำลังขนาดย่อมของนาโตเข้าไปซ้อมรบในยุโรปตะวันออกซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดลงในสิ้นปีนี้ ถูกมองว่าเป็นเพียงการ “ขยับตัว” เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของนาโตในการแสดงจุดยืนปกป้องสมาชิกของตน จากวิกฤตด้านความมั่นคงที่กำลังเกิดขึ้นในยุโรปตะวันออกเท่านั้น หาใช่มาตรการสร้างหลักประกันระยะยาวด้านความมั่นคงแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (5) พล.อ.อ.บรีดเลิฟออกมาระบุว่า โดยส่วนตัวแล้วเขาไม่เชื่อว่า รัฐบาลรัสเซียภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จะส่งกำลังทหารเข้าไปในภาคตะวันออกของยูเครน และจะไม่ทำการผนวกดินแดนอื่นใดของยูเครนเพิ่มเติม นอกเหนือไปจาก “ไครเมีย”

ขณะเดียวกัน แม่ทัพใหญ่นาโตชาวอเมริกันผู้นี้ยังปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุว่าการปรับยุทธศาสตร์เชิงนโยบายครั้งใหญ่ของรัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามาที่ต้องการ “ปักหมุดในเอเชีย” นั้น ส่งผลกระทบอย่างเลวร้ายต่อขีดความสามารถของสหรัฐฯ ในการดูแลความมั่นคงของยุโรป จากการที่รัฐบาลอเมริกันต้องทุ่มเท “ทรัพยากร” ทุกๆ ด้าน รวมถึงทรัพยากรทางทหารไปในเอเชียแทน

“ผมขอยืนยันว่าความพยายามในการปักหมุดของผู้นำสหรัฐฯ ในเอเชียนั้นไม่มีผลกระทบใดๆต่อพันธสัญญาด้านความมั่นคงที่สหรัฐฯมีต่อพันธมิตรในยุโรป” พล.อ.อ.บรีดเลิฟกล่าว

ทั้งนี้มีรายงานว่า การปรับยุทธศาสตร์ของรัฐบาลโอบามาเพื่อปักหมุดในเอเชียนั้น ส่งผลให้จำนวน “ทหารอเมริกัน” ที่ประจำการอยู่ในยุโรปถูกปรับลดลงถึง “3 ใน 4” จากกำลังทหารอเมริกันในยุโรปช่วง “สงครามเย็น”