รอยเตอร์ - ทหารเคียฟสังหารกลุ่มกบฏนิยมรัสเซียเสียชีวิตไป 5 คนในวันพฤหัสบดี (24) ขณะที่พวกเขาเคลื่อนไหวเข้าประชิดป้อมปราการของพวกนักรบประสงค์แบ่งแยกดินแดนทางตะวันออก ปฏิบัติการที่ทำให้รัสเซียเดือดจัดและจัดซ้อมใกล้ชายแดนเป็นการตอบโต้ท่ามกลางความกังวลว่ามอสโกอาจส่งทหารลุยเข้ามาในดินแดนของยูเครน
ภายใต้ข้อตกลงนานาชาติที่ลงนามในเจนีวาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มติดอาวุธที่ผิดกฎหมาย ในนั้นรวมถึงพวกกบฏที่บุกยึดอาคารราชการหลายสืบแห่งตามเมืองต่างๆ ทางภาคตะวันออกของยูเครน ต้องวางอาวุธและออกจากอาคารเหล่านั้น
อย่างไรก็ตาม ผ่านมาเกือบราว 1 สัปดาห์ ยังไม่พบเห็นสัญญาณว่าพวกแบ่งแยกดินแดนจะดำเนินการตามข้อตกลง และในวันพฤหัสบดี (24) ทางกระทรวงมหาดไทยยูเครนเปิดเผยว่ากองกำลังความมั่นคงของพวกเขาที่ได้รับการสนับสนุนจากทหาร เข้ารื้อถอนจุดตรวจ 3 แห่งที่จัดวางโดยกลุ่มติดอาวุธในเมืองสลาเวียนส์ก ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน
“ระหว่างการปะทะกันด้วยอาวุธ พวกก่อการร้าย 5 คนถูกกำจัด” กระทรวงมหาดไทยยูเครนระบุในถ้อยแถลง พร้อมบอกว่าฝ่ายกองกำลังของรัฐบาลได้รับบาดเจ็บ 1 นาย อย่างไรก็ตาม ทางโฆษกของฝ่ายกบฏบอกว่ามีนักรบของพวกเขาเสียชีวิตในเหตุปะทะแค่ 2 คน
เครมลินเสริมกำลังทหารหลายหมื่นนายตามแนวชายแดนของยูเครน ซึ่งทางนาโตคาดหมายว่าน่าจะราวๆ 40,000 นาย และยืนกรานถึงสิทธิ์ในการปกป้องพลเรือนพูดภาษารัสเซียหากตกเป็นเป้าโจมตี เหตุผลที่พวกเขานำมาเป็นข้ออ้างผนวกแหลมไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเมื่อเดือนก่อน
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เตือนว่าหากเจ้าหน้าที่ในเคียฟใช้กำลังทหารกับฝ่ายต่อต้าน จะกลายเป็นการก่ออาชญากรรมร้ายแรงกับประชาชนของตนเอง
ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าพบเห็นยูเครนเสริมกำลังด้วยยานยนต์หุ้มเกราะบรรทุกกำลังพล 5 คน เข้าควบคุมจุดตรวจแห่งหนึ่งบนถนนทางเหนือของเมืองสลาเวียนส์ก ในช่วงสายของวันพฤหัสบดี (24) หลังจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนล่าถอยออกไป โดยจุดไฟเผายางอำพรางเส้นทางหลบหนี
กระนั้นอีก 2 ชั่วโมงต่อมา ทหารก็ยกพลกลับและยังไม่ชัดเจนว่าเคียฟจะเสี่ยงบุกจู่โจมเมืองสลาเวียนส์กหรือไม่ หลังจากเมืองที่มีประชากร 130,000 คนแห่งนี้ กลายเป็นป้อมปราการในความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักรบที่ประสงค์ผนวกดินแดนอุตสาหกรรมทางตะวันออกของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของมอสโก
ข้อตกลงเจนีวา ที่ลงนามโดยรัสเซีย สหรัฐฯ ยูเครนและสหภาพยุโรป ต้องเจอกับปัญหาใหญ่สืบเนื่องจากปฏิบัติการยึดคืนเมืองทางตะวันออกของเคียฟ ด้วยมอสโกและชาติตะวันตกต่างโยนภาระให้แก่กันในการทำตามข้อตกลง โดยประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่สหรัฐฯ ขู่จะคว่ำบาตรรอบใหม่ หากเครมลินไม่ยอมดำเนินการอย่างฉับพลันในการยุติเหตุเผชิญหน้าทางอาวุธ อย่างไรก็ตาม ปูติน ก็ตอบโต้ว่ามาตรการคว่ำบาตรเหล่านั้นน่าอัปยศและรังแต่จะทำร้ายเศรษฐกิจโลก
ด้านกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย เปิดเผยว่าพวกเขาได้เริ่มต้นซ้อมรบใกล้ชายแดนของยูเครนแล้ว เพื่อตอบโต้กลไกทางทหารของยูเครนและความเคลื่อนไหวของนาโตในยุโรปตะวันออก
อนึ่ง ในวิกฤตของยูเครน วอชิงตันกล่าวหามอสโกว่ายุยงความไม่สงบทางภาคตะวันออก แต่รัสเซียปฏิเสธ พร้อมกับตอบโต้ว่ายุโรปและสหรัฐฯ กำลังให้การสนับสนุนรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมทางกฎหมายของเคียฟ
อีกด้านหนึ่งในวันพฤหัสบดี (24) นายสตีเฟน มูลล์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำโปแลนด์ แถลงเมื่อวันพุธ ว่าทหารอเมริกัน 150 นาย จากกองพันทหารอากาศที่ 173 เดินทางจากฐานทัพในเมืองวิเซนซา ทางตอนเหนือของอิตาลี ถึงเมืองสวิดวิน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโปแลนด์แล้ว เพื่อร่วมภารกิจซ้อมรบกับกองทัพโปแลนด์ ภายใต้การดูแลขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต)
ทั้งนี้ ทหารกลุ่มนี้เป็นเพียงชุดแรกเท่านั้น ในอีก 2-3 วันข้างหน้า ทหารอเมริกันอีกราว 450 นายจะเดินทางมาสมทบที่เมืองเดียวกัน นอกจากนี้ ทหารอเมริกันจะเข้าร่วมภารกิจซ้อมรับกับลิทัวเนีย ลัตเวีย และเอสโตเนีย ในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย เพื่อเสริมศักยภาพของกองทัพและบูรณาการนโยบายด้านความมั่นคงระหว่างกัน
ถ้อยแถลงของเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงวอร์ซอมีขึ้นไม่นาน หลังนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ “อาร์ที” ซึ่งเป็นสถานีข่าวภาคภาษาอังกฤษของรัสเซีย กล่าวอย่างมีนัยยะว่า หากมีผู้เจตนาทำลายผลประโยชน์ “โดยชอบธรรม” ของมอสโกในยูเครน รัสเซียจะขอตอบโต้อย่างเต็มที่และอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายสากล