บีบีซี - เหล่าผู้นำชาติตะวันตกเผยในวันศุกร์ (25) กำลังพิจารณามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม ต่อความล้มเหลวในการบรรเทาวิกฤตยูเครน คำขู่ที่ดูเหมือนจะไร้ผลหลังมีข่าวว่ากองทัพมอสโกเคลื่อนพลห่างจากแนวชายแดนไม่ถึง 1 กิโลเมตร หลังประกาศซ้อมรบตอบโต้เคียฟสังหารกลุ่มกบฏนิยมรัสเซียตายไป 5 ศพเมื่อวันก่อน
ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐฯ อังกฤษ และอิตาลี กล่าวหารัสเซียว่าไม่เคารพต่อข้อตกลงปลดอาวุธกลุ่มแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่มอสโกที่บุกยึดอาคารราชการต่างๆ ทางตะวันออกของยูเครน อย่างไรก็ตามเครมลินปฏิเสธ พร้อมกล่าวหาตะวันตกกำลังต้องการยึดครองยูเครน
กองกำลังรัสเซียหลายหมื่นนายถูกส่งเข้าประจำการตามแนวชายแดนติดกับยูเครน เพื่อตอบโต้กลไกทางทหารของยูเครนและความเคลื่อนไหวของนาโตในยุโรปตะวันออก และในวันพฤหัสบดี (24) กระทรวงกลาโหมของรัสเซีย เปิดเผยว่าพวกเขาได้เริ่มต้นซ้อมรบใกล้ชายแดนของยูเครนแล้ว ขณะที่เคียฟเตือนว่าการข้ามผ่านพรมแดนใดๆ เข้ามาของทหารรัสเซียจะถือว่าเป็นการรุกรานทางทหารทันที
ในวันศุกร์ (25) มิคฮาอิล โควาล รักษาการรัฐมตรีกลาโหมยูเครน บอกว่ากองทัพรัสเซียเคลื่อนพลเข้ามาประชิดแล้ว โดยอยู่ห่างจากแนวชายแดนในรัศมี 1 กิโลเมตรเท่านั้น ขณะที่นายกรัฐมนตรี อาร์เซนีย์ ยัตเซนยุค กล่าวหามอสโก ต้องการ “เปิดฉากสงครามโลกครั้งที่ 3 ด้วยการรุกรานทั้งทางทหารและทางการเมือง รวมถึงกำลังปลุกปั่นความขัดแข้งที่จะแผ่ลามไปทั่วยุโรป”
ความตึงเครียดรอบล่าสุดนี้เกิดขึ้น 1 สัปดาห์หลังจากยูเครนและรัสเซียบรรลุข้อตกลงในเจนีวา เรียกร้องกลุ่มแบ่งแยกดินแดนวางอาวุธและออกจากอาคารราชการ โดยในนั้นมีเงื่อนไขนิรโทษกรรมบุคคลที่ยอมล่าถอยออกไปอย่างสันติ
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ล่มไม่เป็นท่า ด้วยมอสโกและชาติตะวันตกต่างโยนภาระให้แก่กัน แถมยังถูกซ้ำเติมจากปฏิบัติการยึดคืนเมืองของกองทัพยูเครนที่สังหารพวกกบฏเสียชีวิตไป 5 คน ปฏิบัติการที่ทำให้รัสเซียเดือดจัดและเป็นอีกเหตุหนึ่งที่กระตุ้นให้จัดซ้อมใกล้ชายแดนเป็นการตอบโต้ ท่ามกลางความกังวลว่ามอสโกอาจส่งทหารลุยเข้ามาในดินแดนของยูเครน
ในวันศุกร์ (25) ทำเนียบขาวเปิดเผยว่าประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้หารือสถานการณ์ในยูเครนกับฟรังซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี รวมถึงนายกรัฐมนตรีของทั้งอังกฤษและอิตาลี “เหล่าผู้นำเห็นพ้องว่าต้องร่วมมือกันให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ผ่านทางจี7และสหภาพยุโรป เพื่อกำหนดมาตรการต่างๆเพิ่มเติมที่รัสเซียต้องชดใช้”
ทำเนียบขาวระบุต่อไปว่า “เหล่าผู้นำยังเห็นพ้องด้วยว่ารัสเซียไม่ยอมยื่นหมูยื่นแมว ในนั้นรวมถึงไม่ยอมสนับสนุนข้อตกลงเจนีวา ไม่เรียกร้องให้กลุ่มนักรบยอมวางอาวุธและออกจากอาคารราชการที่พวกเขาบุกยึด แถมในข้อเท็จจริงยังคงปลุกปั่นให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายผ่านโวหารที่น่ากังวลและขู่ซ้อมรบทางทหารตามแนวชายแดนยูเครน”
ทางฝรั่งเศส ได้ออกถ้อยแถลงเพิ่มเติมว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครน ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 25 พฤษภาคม ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเปิดทางให้ชาวยูเครนตัดสินอนาคตของตนเองอย่างอิสระและโปร่งใส ส่วนนางแมร์เคิล เสริมว่าเธอมีโอกาสพูดคุยกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ก่อนหน้านี้ และได้แสดงความไม่พอใจที่รัสเซียไม่ยอมทำตามคำสัญญา
ยูเครนปฏิบัติการทางทหารยึดคืนอาคารต่างๆ ที่ถูกฝ่ายกบฏบุกยึดในหลายเมืองทางตะวันออกของประเทศ โดยระหว่างนั้นได้เกิดเหตุปะทะในเมืองสลาเวียนส์ก ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน จนเป็นเหตุให้กบฏนิยมรัสเซียเสียชีวิต 5 คน เป็นเหตุให้นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศมอสโกออกมาประณามว่าเป็นอาชญากรมือเปื้อนเลือดที่สังหารพลเรือนตนเอง