เอเอฟพี - บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจด้านสาธารณสุขของซาอุดีอาระเบียประกาศวันนี้ (5 พ.ค.) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ตะวันออกกลาง (MERS) พุ่งขึ้นเป็น 115 รายแล้ว นับตั้งแต่โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจชนิดนี้ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในราชอาณาจักรเมื่อปี 2012
กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียระบุในเว็บไซต์ของหน่วยงานว่า พบชาวซาอุฯ 3 รายเสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ (4) หลังติดเชื้อไวรัส MERS ในเมืองท่าเจดดาห์ ซึ่งในจำนวนนี้ 1 คนเป็นชายวัย 54 ปี ขณะที่อีก 2 คนเป็นหญิงวัย 50 และ 54 ปี
กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า นอกจากนี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2) ก็มีชายวัย 77 ปีคนหนึ่งเสียชีวิตจากโคโรนาไวรัสกลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันในตะวันออกกลาง (MERS-CoV) ที่กรุงริยาด
กระทรวงรายงานด้วยว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัส MERS ในเวลานี้ได้ขยับขึ้นสู่ 414 คน ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในโลก
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2) เหล่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอเมริกันยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัส MERS รายแรกในสหรัฐฯ เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยซึ่งเคยเดินทางไปทำงานที่กรุงริยาด
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อียิปต์ก็พบผู้ติดเชื้อรายแรกเช่นกัน หลังผลเลือดของพลเมืองรายหนึ่งซึ่งเดินทางกลับจากซาอุดีอาระเบียเป็นบวก
ทั้งนี้ เชื้อไวรัสชนิดนี้จัดว่าอันตรายร้ายแรงกว่าโรคซาร์ส แต่มีโอกาสติดต่อน้อยกว่า โดย ซาร์ส ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสในตระกูลเดียวกันเคยแพร่ระบาดในเอเชียเมื่อปี 2003 จนมีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 8,273 คน และมีผู้ป่วย 9 เปอร์เซ็นต์เสียชีวิต
นักวิทยาศาสตร์ยังอยู่ระหว่างศึกษาต้นตอและช่องทางการแพร่ระบาดของไวรัสร้ายแรงชนิดนี้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันได้ และคร่าชีวิตผู้ป่วยไปกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ โดยจากการศึกษาวิจัยเมื่อไม่นานมานี้พบว่า ไวรัส MERS พบได้ทั่วไปในอูฐมาอย่างน้อย 20 ปีแล้ว และอาจมีการแพร่เชื้อโดยตรงจากสัตว์ชนิดนี้สู่คน