เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขซาอุดีอาระเบียแถลงเมื่อวันพุธ (30 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ตะวันออกกลาง เพิ่มเติมอีก 2 ราย เช่นเดียวกับผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 16 คน ส่งผลให้ยอดตายรวมพุ่งเป็น 107 ศพแล้ว ขณะที่แพทย์ ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ลาออกไปแล้วถึง 4 ราย เนื่องจากกลัวติดเชื้อจนไม่กล้ารักษาคนไข้
กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า ชายวัย 41 ปี จากเมืองทาบัค ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือและผู้สูงวัยอายุ 88 ปีในกรุงริยาด คือเหยื่อ 2 รายล่าสุดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ตะวันออกกลาง (MERS) ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 107 ศพ นับตั้งแต่ตรวจพบโรคติดต่อมรณะนี้เป็นครั้งแรกในประเทศแห่งนี้เมื่อเดือนกันยายน 2012
ในเวลาเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขของซาอุดีอาระเบียเผยด้วยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วประเทศเพิ่มอีก 16 ราย ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 361 คน ขณะที่มีรายงานพบเชื้อมรณะชนิดนี้แพร่ระบาดไปทั่วโลกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ประชาชาทั่วไปเริ่มมีความหวาดวิตกต่อการแพร่ระบาดของไวรัส MERS มากยิ่งขึ้น เหตุเมื่อไม่นานมานี้ แพทย์ของโรงพยาบาลกษัตริย์ฟาฮัดในเมืองเจดดาห์ 4 ราย ได้ยื่นจดหมายลาออกเมื่อต้นเดือนเมษายน เพราะไม่ต้องการรักษาคนไข้ที่ติดเชื้อ MERS
นายอะเดล ฟาคิช รักษาการกระทรวงสาธารณสุขบอกเมื่อวันอังคาร (29) ว่าจะแถลงมาตรการระงับการแพร่ระบาดของไวรัส MERS ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจากชาติตะวันตกและตัวแทนจากองค์การอนามัยโลก มีกำหนดพบปะหารือกันในสัปดาห์นี้
MERS ถูกจัดอยู่ในตระกูลเดียวกับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน (SARS) ซึ่งเคยแพร่ระบาดในเอเชียเมื่อปี 2003 โดยครั้งนั้นมีผู้ติดเชื้อไวรัสซาร์สมากถึง 8,273 คน และร้อยละ 9 เสียชีวิต
จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัส MERS เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่เดือนก่อนจะถึงพิธีฮัจญ์ ซึ่งจะมีชาวมุสลิมนับล้านๆ คนเดินทางมาแสวงบุญยังนครเมกกะและมะดีนะห์ โดยพิธีฮัจญ์ปีนี้จะตรงกับช่วงเดือนกันยายน
เวลานี้นักวิทยาศาสตร์ยังอยู่ระหว่างศึกษาต้นตอและการแพร่กระจายของไวรัสชนิดนี้ ที่ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน