xs
xsm
sm
md
lg

ทหารเคียฟรุกใหญ่ยูเครนตะวันออก ระบุกบฏตาย-เจ็บ “จำนวนมาก” แต่เฮลิคอปเตอร์ถูกสอยร่วง 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพซึ่งถ่ายจากคลิปวิดีโอเผยแพร่ทางโทรทัศน์ รอสเซีย 24 ของรัสเซีย แสดงให้เห็นว่านักบินเฮลิคอปเตอร์กองทัพยูเครนผู้ได้รับบาดเจ็บ กำลังได้รับการช่วยเหลือจากพวกนักเคลื่อนไหวนิยมรัสเซีย ภายหลังเฮลิคอปเตอร์ของเขาถูกยิงตกที่เมืองสโลเวียนสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน เมื่อวันศุกร์ (2 พ.ค.)
เอเจนซีส์ – กองกำลังฝ่ายนิยมรัสเซีย ได้ยิงเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์กันชิปของกองทัพยูเครนตก 2 ลำในวันศุกร์ (2 พ.ค.) ขณะที่รักษาการประธานาธิบดียูเครน โอเล็คซานเดอร์ ตูร์ชีนอฟ แถลงว่า ฝ่ายกบฏจำนวนมากเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บตลอดจนถูกจับกุม จากการที่รัฐบาลชั่วคราวในกรุงเคียฟของเขาซึ่งเป็นฝ่ายฝักใฝ่ตะวันตก เปิดฉากการรุกใหญ่ครั้งแรกเพื่อปราบปรามกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่ได้เข้ายึดอาคารรัฐบาลตามเมืองต่างๆ ทั่วภาคตะวันออกของยูเครน

ทางด้านมอสโกระบุว่า การเปิดการรุกโจมตีของเคียฟเพื่อปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบเช่นนี้ เท่ากับเป็นการทำลายข้อตกลงเจนีวาอายุ 2 สัปดาห์ ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน-สหรัฐฯ-อียู ซึ่งมุ่งที่จะบรรเทาความร้อนแรงของวิกฤตยูเครนคราวนี้ นายกรัฐมนตรี ดมิตรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย ยังออกมาเรียกร้องพวกผู้นำรัฐบาลในกรุงเคียฟ ให้ “ยุติการเข่นฆ่าพลเมืองของพวกเขา” และบอกว่า การรุกโจมตีเช่นนี้ คือ “สัญญาณของความรู้สึกสิ้นหวังของอาชญากร”

ขณะที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐฯ แถลงสวนทันควันว่า ความจริงกำลังปรากฏชัดแก่ทุกๆ คนในเวลานี้แล้วว่า พวกกองกำลังอาวุธนิยมรัสเซียในยูเครนตะวันออกนั้น ไม่ได้เป็นผู้ทำการประท้วงอย่างสันติเลย

ส่วนทางด้านคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นก็เปิดการประชุมวาระฉุกเฉินในเรื่องยูเครน ตามคำร้องขอของรัสเซีย

มีรายงานว่าการสู้รบได้ระเบิดขึ้นตอนรุ่งสางวันศุกร์ ในบริเวณใกล้ๆ เมืองสโลเวียนสก์ เมืองขนาดประชากร 160,000 คนซึ่งตั้งอยู่ห่างจากพรมแดนรัสเซียประมาณ 160 กิโลเมตร และกำลังกลายเป็นจุดโฟกัสของการก่อกบฏของฝ่ายนิยมมอสโก ตามคำบอกเล่าของทั้งสองฝ่าย เฮลิคอปเตอร์กันชิป 2 ลำของฝ่ายรัฐบาลเคียฟได้ถูกยิงตก และลูกเรือมีทั้งที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ ขณะที่กองกำลังฝ่ายนิยมรัสเซียก็มีผู้ถูกสังหารเช่นกัน

รักษาการประธานาธิบดี ตูร์ชีนอฟ ระบุว่า ทหารยูเครนถูกฆ่าไป 2 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 7 รายในการปะทะกันเมื่อวันศุกร์ ขณะที่ฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบได้รับความสูญเสียอย่างสำคัญ โดยจำนวนมากถูกฆ่า ได้รับบาดเจ็บ และถูกจับกุม เขาบอกด้วยว่าเมื่อถึงตอนบ่ายๆ กองทัพรัฐบาลเคียฟก็สามารถควบคุมด่านตรวจทุกๆ แห่งรอบๆ เมืองสโลเวียนสก์ไว้ได้ทั้งหมดแล้ว

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานโดยอ้างโฆษกของฝ่ายก่อความไม่สงบที่ระบุว่า จากการที่กองทัพรัฐบาลเคียฟโจมตีสโลเวียนสก์ ทำให้ฝ่ายกบฏเสียชีวิตไป 3 คน และมีพลเรือนถูกสังหารไปอีก 2 คน

ทางด้านกองบัญชาการความมั่นคงของยูเครนแถลงว่า เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำที่ตกนั้น มีลำหนึ่งถูกยิงด้วยจรวดแบบยิงจากภาคพื้นสู่อากาศ พร้อมกับเสริมว่าอาวุธอันซับซ้อนทันสมัยเช่นนี้ย่อมบั่นทอนน้ำหนักคำกล่าวอ้างของรัสเซียที่ว่า เมืองแห่งนี้ตกอยู่ใต้การควบคุมของชาวบ้านท้องถิ่นติดอาวุธเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงแล้ว กองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลยูเครนกำลังสู้รบกับ “คนของกองทัพต่างประเทศที่มีทักษะสูง” อยู่ในสโลเวียนสก์

รักษาการรัฐมนตรีมหาดไทย อาร์เซน อาวาคอฟ ของยูเครน ก็กล่าวสำทับเอาไว้ในหน้าเฟซบุ๊กของเขาว่า พวกกบฏได้ใช้จรวดแบบประทับบ่ายิงเฮลิคอปเตอร์ของรัฐบาลตก “มันเป็นการสู้รบในสมรภูมิแท้ๆ โดยที่เรากำลังต่อสู้กับพวกทหารรับจ้างมืออาชีพ”

ทั้งนี้ นักบินเฮลิคอปเตอร์อย่างน้อยคนหนึ่งไม่ได้เสียชีวิต แต่ได้รับบาดเจ็บ โดยตามคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ รอสเซีย 24 ของรัสเซียนั้น นักบินผู้นี้กำลังได้รับความช่วยเหลือจากกองกำลังฝ่ายนิยมมอสโก

ทหารรัฐบาลยูเครน รักษาการณ์ที่ด่านตรวจแห่งหนึ่งบริเวณนอกเมืองสโลเวียนสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน เมื่อวันศุกร์ (2 พ.ค.) หลังจากที่กองกำลังรัฐบาลเปิดการรุกใหญ่ครั้งแรกเพื่อปราบปรามพวกนิยมรัสเซียซึ่งได้ยึดอาคารรัฐบาลตามเมืองต่างๆ ราว 10 แห่ง
สำหรับพื้นที่กลางเมืองสโลเวียนสก์ พวกผู้สื่อข่าวและช่างภาพของหลายสำนักต่างรายงานว่า ยังคงอยู่ในกำมือของกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย โดยที่พวกเขาได้ควบคุมตัวผู้ทำงานด้านข่าวชาวต่างประเทศจำนวนมากเอาไว้อยู่หลายชั่วโมงในวันศุกร์ ก่อนที่จะปล่อยตัวในเวลาต่อมา

นอกจากที่สโลเวียนสก์แล้ว มีรายงานว่ายังเกิดการปะทะกันในค่ำวันศุกร์ ระหว่างฝ่ายนิยมรัสเซียกับฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลเคียฟ ณ เมืองโอเดสซา ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญริมชายฝั่งทะเลดำทางภาคใต้ของยูเครน และอยู่ห่างจากพื้นที่ปั่นป่วนวุ่นวายทางภาคตะวันออกประมาณ 550 กิโลเมตร

เท่าที่ผ่านมา โอเดสซาไม่ค่อยประสบเหตุความไม่สงบอะไรนัก นับแต่ที่ฝ่ายนิยมตะวันตกในกรุงเคียฟทำการโค่นล้ม วิกตอร์ ยานูโควิช ประธานาธิบดีนิยมรัสเซียที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ตามคำแถลงของกระทรวงมหาดไทยยูเครน มีบุคคลผู้หนึ่งเสียชีวิตหลังจากได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงในระหว่างการปะทะกันคราวนี้

รักษาการประธานาธิบดี ตูร์ชีนอฟ ได้ออกมายอมรับก่อนหน้านี้ในสัปดาห์นี้ว่า รัฐบาลกรุงเคียฟได้สูญเสียอำนาจในการควบคุมภาคตะวันออกของประเทศ โดยที่กองทหารและตำรวจฝ่ายรัฐบาลบางส่วน “หากไม่ได้กำลังเข้าช่วยเหลือพวกองค์กรก่อการร้าย ก็กำลังให้ความร่วมมือกับพวกนี้” เขาระบุว่าสิ่งที่รัฐบาลกำลังพยายามกระทำคือ การหาทางสกัดกั้นไม่ให้ความปั่นป่วนวุ่นวายแพร่กระจายจากภาคตะวันออก ไปสู่พื้นที่ตอนกลางๆ อย่างเช่นเมืองโอเดสซา

ในส่วนท่าทีของฝ่ายมอสโก ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แถลงว่า การเปิดการรุกใหญ่ของยูเครนคราวนี้ “มีผลเท่ากับเป็นการทำลายความหวังสุดท้ายที่จะมีการปฏิบัติตามข้อตกลงเจนีวา” ซึ่งเป็นข้อตกลงที่มุ่งหมายจะปลดชนวนวิกฤต กระนั้นก็ตาม โฆษกผู้นี้บอกว่า รัสเซีย “ยังคงสืบต่อดำเนินความพยายามในการลดทอนความรุนแรงของสถานการณ์”

ก่อนหน้านี้ 1 วัน นั่นคือในวันพฤหัสบดี (1) ตัวปูตินเองก็ได้ออกมาเตือนยูเครนว่า อย่าได้เคลื่อนกำลังเข้าปราบปรามพวกผู้ก่อความสงบ พร้อมกับเสนอว่า เคียฟควรที่จะถอนกำลังทหารของตนออกจากเขตต่างๆ ทางภาคตะวันออกและทางภาคใต้ของประเทศ

ยูเครน ซึ่งมีประชากรราว 46 ล้านคน เป็นประเทศที่กำลังเกิดการแตกแยกกันอย่างรุนแรง ระหว่างประชากรซึ่งอาศัยอยู่ทางภาคตะวันตกที่ปรารถนาจะกระชับสายสัมพันธ์กับสหภาพยุโรป (อียู) กับประชากรผู้พูดภาษารัสเซียจำนวนมากในภาคตะวันออกซึ่งนิยมรัสเซีย ยูเครนกล่าวหารัสเซียว่ากำลังหนุนหลังพวกผู้ก่อความไม่สงบที่ได้เข้ายึดอาคารรัฐบาลตามเมืองต่างๆ ในภาคตะวันออกราว 10 เมือง รวมทั้งแสดงความหวาดเกรงว่ามอสโกกำลังมองหาข้ออ้างบังหน้าเพื่อส่งกองทัพเข้ามารุกราน โดยที่ในปัจจุบันฝ่ายตะวันตกและเคียฟกล่าวหาว่ารัสเซียได้ชุมนุมทหารเอาไว้ราว 40,000 คนแล้วในพื้นที่ใกล้ๆ ชายแดนยูเครน

ข้อตกลงที่ทำกันในเจนีวาเมื่อเดือนที่แล้ว กำหนดให้พวกที่เข้ายึดอาคารรัฐบาลต่างๆ ในยูเครน ต้องถอนตัวออกมา และลดระดับความตึงเครียด ซึ่งได้ส่งผลให้สหรัฐฯและอียูประกาศใช้มาตรการลงโทษรัสเซียมาแล้ว 2 รอบ ถึงแม้มีเสียงวิจารณ์ว่าการลงโทษเหล่านี้ยังไม่สั่นสะเทือนผลประโยชน์อันสำคัญของแดนหมีขาวเท่าใดนัก

ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ได้กล่าวหารัฐบาลรักษาการของยูเครนว่า กำลังใช้ “พวกผู้ก่อการร้าย” จากองค์กรชาตินิยมขวาจัดและกระทั่งพวกนาซีใหม่ มาดำเนินการปฏิบัติการทางทหาร นอกจากนั้นฝ่ายรัสเซียยังอ้างว่า รัฐบาลเคียฟได้ส่งขบวนรถถังและเฮลิคอปเตอร์เข้าปฏิบัติการยิงจรวดใส่ผู้ประท้วงในยูเครนตะวันออก ทว่ายังไม่มีฝ่ายใดในยูเครนรายงานว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาเลย

สำนักข่าวเอพีบอกว่า รัสเซียยังอ้างคำกล่าวของพวกผู้ก่อความไม่สงบในยูเครนที่พูดว่า กองกำลังฝ่ายรัฐบาลที่รุกโจมตีเข้ามานั้น มีบางคนพูดภาษาอังกฤษ

ผู้สื่อข่าวรายหนึ่งของเอเอฟพีรายงานว่า ได้เห็นขบวนยานยนต์หุ้มเกราะขบวนหนึ่ง กำลังบุกทลายด่านตรวจแห่งหนึ่งที่ถูกฝ่ายกบฎยึดเอาไว้ ตรงบริเวณติดด้านใต้ของเมืองสโลเวียนสก์ รวมทั้งได้ยินเสียงระเบิดและเสียงยิงอาวุธปืนขนาดเล็กอยู่เป็นระยะๆ ขณะที่เฮลิคอปเตอร์หลายลำบินวนเวียนอยู่เหนือศีรษะ
กองกำลังอาวุธฝ่ายนิยมรัสเซีย รับฟังผู้บังคับบัญชาของพวกเขา (คนซ้าย) ที่รถตำรวจซึ่งจอดอยู่ด้านหลังแนวเครื่องกีดขวางในเมืองสโลเวียนสก์ เมื่อวันศุกร์ (2 พ.ค.)
กองกำลังอาวุธฝ่ายนิยมรัสเซีย รับฟังคำแนะนำจากผู้บังคับบัญชา (คนกลาง) ที่บริเวณด้านหลังแนวเครื่องกีดขวางในเมืองสโลเวียสก์ เมื่อวันศุกร์ (2พ.ค.)
วยาเชสลาฟ โปโนมาร์ยอฟ พวกนิยมรัสเซียผู้ประกาศตัวเองเป็นนายกเทศมนตรีสโลเวียนสก์ ได้กล่าวในคลิปวิดีโอซึ่งโพสต์อยู่บนเว็บไซต์ท้องถิ่นแห่งหนึ่ง เรียกร้องให้ “ผู้หญิง, เด็กๆ, และผู้เกษียณอายุ อยู่แต่ภายในบ้านเรือนของตน” ส่วน “ชายที่มีอาวุธทั้งหลาย” ขอให้ช่วยสู้รบต้านทานการโจมตีของรัฐบาลเคียฟ

“เราจะป้องกันเมืองของเรา และเราจะชนะ” นายกเทศมนตรี ผู้แต่งกายด้วยชุดพรางของทหาร สวมเสื้อเกราะกันกระสุนและหมวกเหล็ก กล่าวในคลิปวิดีโอ

ขณะที่ วลาดิมีร์ ปาเดอร์ ชาวเมืองสโลเวียนสก์ผู้หนึ่ง บอกกับสถานีโทรทัศน์รัสเซียว่า “ทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นพวกกบฏหรือชาวเมืองสโลเวียนสก์ ต่างมีความมุ่งมั่นว่าจะไม่ยอมจำนน ไม่ยอมเสียเมืองนี้ไป”

เอเอฟพีรายงานด้วยว่า ที่ด่านตรวจของกองทัพยูเครนแห่งหนึ่งตรงบริเวณทางเข้าสโลเวียนสก์ ขบวนยานยนต์หุ้นเกราะ 12 คัน และทหารคอมมานโดหลายสิบคน ได้เข้าผลักดันขับไสพวกชาวบ้าน ผู้แสดงความโกรธเกรี้ยวต้องการให้ทหารเหล่านี้ถอยกลับไป
กำลังโหลดความคิดเห็น