เอเอฟพี - คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ออกมติประณามเกาหลีเหนือวานนี้ (28) และเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประกาศบทลงโทษต่อบุคคลทุกกลุ่มทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติในดินแดนโสมแดง
คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนยูเอ็นซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 47 ประเทศ ลงมติประณาม “การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบและกว้างขว้าง” ในเกาหลีเหนือ โดยมติซึ่งได้รับการโหวตสนับสนุน 30 เสียง คัดค้าน 6 เสียง และงดออกเสียง 11 เสียง ยังเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น “เอาผิดกับบุคคลที่กระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน และผู้ที่อาจเข้าข่ายก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติด้วย”
คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนยังขอให้ขยายระยะเวลาทำงานของผู้เสนอรายงานพิเศษยูเอ็น ซึ่งรับหน้าที่สอบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ ออกไปอีก 1 ปี
เซ เปียงโซ ผู้แทนเกาหลีเหนือซึ่งไม่ได้เป็นรัฐสมาชิก กล่าวโจมตีมติของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนว่าเป็นการ “เย้ยหยันคณะมนตรีเอง และยังดูหมิ่นประชาคมโลก” พร้อมระบุด้วยว่า “สหรัฐฯและพวกพลังชั่วร้ายเพียงแต่ต้องการปกปิดประวัติอันนองเลือดของตัวเองเท่านั้น”
แมรี ฮาร์ฟ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาแถลงในเวลาต่อมาว่า มติของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนยูเอ็นแสดงให้เห็นว่า นานาชาติมีความเห็นตรงกันว่า “คณะผู้นำเกาหลีเหนือต้องรับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบและกว้างขวางในประเทศของตน”
จีนซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านและมหามิตรเก่าแก่ของเกาหลีเหนือได้ออกโรงปกป้องเปียงยาง โดยชี้ว่ารายงานความยาว 400 หน้ากระดาษที่ใช้เป็นพื้นฐานในการออกมติประณามเกาหลีเหนือครั้งนี้ “ยังไม่ผ่านการสอบทานความจริง” ขณะที่ ทากาชิ โอกาดะ ผู้แทนญี่ปุ่นประจำองค์การสหประชาชาติ แสดงท่าทีเห็นด้วยกับฝ่ายตะวันตก
รายงานที่คณะผู้ตรวจสอบยูเอ็นเผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้วให้รายละเอียดเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนหลากหลายรูปแบบในเกาหลีเหนือ เช่น การกำจัดแบบขุดรากถอนโคน (extermination), การจับเป็นทาส และความรุนแรงทางเพศ โดยคณะผู้ตรวจสอบยังเรียกร้องให้นำตัวคณะผู้ปกครองเกาหลีเหนือไปขึ้นศาลระหว่างประเทศเพื่อตอบคำถามเรื่องนี้
ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า ยังมีนักโทษการเมืองถูกขังอยู่ในค่ายกักกันของเกาหลีเหนือราว 80,000-120,000 คน