เอเอฟพี – เลขาธิการสหประชาชาติ บัน คีมูน ยอมรับว่ารู้สึก “อึดอัดอย่างยิ่ง” หลังได้รับรายงานเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน “ขั้นร้ายแรง” ในเกาหลีเหนือ และหวังว่าข้อมูลดังกล่าวจะกระตุ้นให้นานาชาติตระหนักถึงปัญหานี้มากขึ้น
รายงานซึ่งจัดทำโดยคณะกรรมาธิการสอบสวน (ซีโอไอ) กรณีเกาหลีเหนือ เปิดเผยถึงประวัติการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน, การสังหาร, การจับเป็นทาส, การทรมาน, การกักขังหน่วงเหนี่ยว, การข่มขืน, การบังคับทำแท้ง และความรุนแรงทางเพศอีกหลายรูปแบบ โดยบอกเล่ารายละเอียดครอบคลุมทุกด้าน
ถ้อยแถลงจากยูเอ็นวานนี้ (18) ระบุว่า บัน “มีความกังวลมากเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรมในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี... ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงรู้สึกอึดอัดอย่างยิ่งเมื่อได้ทราบรายงานจากคณะกรรมาธิการสอบสวนด้านสิทธิมนุษยชนที่นั่น”
บันชี้ว่า คณะกรรมาธิการสอบสวน “ซึ่งแต่งตั้งโดยคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ” มีการทำงานเป็นอิสระไม่ขึ้นตรงกับยูเอ็น ดังนั้น บัน “จึงหวังว่ารายงานชิ้นนี้จะกระตุ้นให้นานาชาติได้ตระหนักถึงการล่วงละเมิดต่อค่านิยมเหล่านั้นอย่างร้ายแรงในเกาหลีเหนือ”
เลขาธิการยูเอ็นยังเรียกร้องให้รัฐบาลโสมแดง “ร่วมมือกับประชาคมโลก เพื่อยกระดับสิทธิมนุษยชนและความเป็นอยู่ของพลเมืองเกาหลีเหนือ”
ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือปฏิเสธไม่ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมาธิการสอบสวน โดยอ้างว่าหลักฐานทั้งหลายที่พบเป็น “เรื่องกุขึ้น”
ซีโอไอระบุด้วยว่า ผู้นำระดับสูงของเกาหลีเหนือควรถูกนำตัวไปขึ้นศาลระหว่างประเทศฐานก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ แต่ผู้สังเกตการณ์ส่วนใหญ่มองว่าแนวคิดเช่นนี้เป็นไปได้ยาก
การที่ประชาคมโลกจะตอบโต้เกาหลีเหนืออย่างเป็นรูปธรรมได้นั้นจะต้องได้รับความร่วมมือจาก “จีน” ซึ่งเป็นมหามิตรของโสมแดงเสียก่อน ทว่า จีนก็ประกาศชัดเจนแล้วว่า ไม่เห็นด้วยกับการส่งตัวผู้นำเกาหลีเหนือไปขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี)