เอเอฟพี - 1 ใน 3 ของหญิงชาวยุโรปเคยมีประสบการณ์ถูกทำร้ายร่างกาย และล่วงละเมิดทางเพศ ขณะที่มีผู้หญิง 5 เปอร์เซ็นต์ถูกข่มขืน รายงานระดับกว้างชิ้นใหม่ ที่เปิดโปงปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวางทั่วทั้งสหภาพยุโรป เปิดเผยวันนี้ (5 มี.ค.)
นอกจากนี้ สตรีมากกว่า 1 ใน 10 เผยว่า พวกเธอเคยถูกผู้ใหญ่ทารุณกรรมทางเพศในบางรูปแบบ ขณะที่พวกเธอยังมีอายุไม่ถึง 15 ปี ผลสำรวจขนาดใหญ่ที่จัดทำโดยสำนักงานสิทธิขั้นพื้นฐานของสหภาพยุโรป (FRA) ระบุ
รายงานบาปชิ้นนี้ “แสดงให้เห็นว่า การใช้ความรุนแรงต่อสตรีทั้งทางร่างกาย ทางเพศ และทางจิตใจ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) เป็นวงกว้าง” มอร์เตน เคแยร์รัม ผู้อำนวยการของสำนักงานดังกล่าวชี้
1 ใน 10 ของหญิงในอียูต่างเคยประสบกับการใช้ความรุนแรงทางเพศบางรูปแบบ ตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี ยิ่งไปกว่านั้นมี 1 ใน 20 คนเคยถูกข่มขืน และกว่า 1 ใน 5 รายเคยถูกประทุษร้ายทางร่างกาย และ/หรือถูกทารุณกรรมทางเพศ ทั้งโดยคนรักเก่าและปัจจุบัน รายงานของ FRA องค์การซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงเวียนนาเปิดเผย
เคแยร์รัม ได้เรียกร้องให้มี “ยกระดับ” มาตรการรับมือกับการใช้ความรุนแรงต่อสตรีตั้งแต่ตอนนี้
ในการจัดทำรายงานฉบับนี้ FRA ซึงทำการสัมภาษณ์ผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 74 ปี ใน 28 ชาติสมาชิกอียู ทั้งสิ้น 42,000 คน ได้ชี้ว่ารายงานฉบับนี้มีความครอบคลุมที่สุดในยุคสมัย ทั้งในสหภาพยุโรป และทั่วโลก
“สิ่งที่ปรากฏให้เห็นคือภาพการกระทำทารุณที่แผ่ขยายลุกลาม ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้หญิงจำนวนมาก แต่ไม่มีการแจ้งให้ทางการรับทราบ เคแยร์รัมกล่าว
FRA ได้ตรวจสอบประวัติของผู้หญิงเหล่านี้ ซึ่งเคยเผชิญกับการใช้ความรุนแรงทั้งทางร่างกาย ทางเพศ และทางจิตใจ เป็นต้นว่า ความรุนแรงในครอบครัว การสะกดรอยตาม การล่วงละเมิดทางเพศ ประสบการณ์ในวัยเด็ก และอื่นๆ ที่เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามามีบทบาท
“กระนั้น มีผู้หญิงเพียง 14 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่แจ้งตำรวจ เมื่อถูกคนใกล้ชิดทำร้ายร่างกายขั้นรุนแรงที่สุด และมี 13 เปอร์เซ็นต์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ หลังถูกบุคคลที่ไม่ใช่คู่ครองทำร้ายอย่างรุนแรงที่สุด” เคแยร์รัมระบุ
นอกจากนั้นเขายังบอกด้วยว่า “การใช้ความรุนแรงกับสตรี และความรุนแรงที่มีบ่อเกิดมาจากความไม่เท่าเทียมทางเพศภาวะโดยเฉพาะ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้หญิงอย่างรุนแรงนั้น เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในระดับกว้างขวางมากจนอียูไม่สามารถควบคุมจัดการได้”
การใช้ความรุนแรงทางร่างกายและทางเพศ อาจส่งผลกระทบต่อสภาพอารมณ์และจิตใจ “เป็นเวลานาน และฝังลึกจนเกินเยียวยา” แบบสำรวจระบุ
หญิงที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศกว่า 1 ใน 5 คน เคยถูกจู่โจมจนเสียขวัญ ขณะที่กว่า 1 ใน 3 กลายเป็นโรคซึมเศร้า และผู้หญิง 43 เปอร์เซ็นต์กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธอมีปัญหาด้านความสัมพันธ์
อย่างไรก็ตาม เมื่อนำผลการสำรวจมาแบ่งออกเป็นประเทศ พบว่าข้อมูลของแต่ละประเทศแตกต่างกันมากพอสมควร
เมื่อพิจารณาจากกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป ซึ่งมีสตรีถูกละเมิดสิทธิมากที่สุด พบว่าเดนมาร์กที่มีผู้หญิงถูกทารุณกรรมทั้งทางร่างกายและทางเพศมากถึง 52 เปอร์เซ็นต์ครองอันดับหนึ่ง รองลงมาคือฟินแลนด์ 47 เปอร์เซ็นต์ และสวีเดน 46 เปอร์เซ็นต์
สำหรับชาติอียูที่มีสตรีถูกทำร้ายน้อยที่สุด คือ โปแลนด์ โดยมีผู้หญิงประสบปัญหาเดียวกัน 19 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วย ออสเตรีย 20 เปอร์เซ็นต์ และโครเอเชีย 21 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ รายงานฉบับนี้ระบุว่า ผู้หญิงในบางประเทศที่มีความเท่าเทียมทางเพศสูง มีแนวโน้มที่จะกล้าเปิดเผยว่าถูกทำร้ายมากกว่า
นอกจากนี้ รายงานฉบับนี้ยังอ้างอิงผลการศึกษาขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในหัวข้อ “ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการดื่มสุราของผู้กระทำผิด กับประสบการณ์การตกเป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครัวของสตรี” โดยตั้งข้อสังเกตว่า รูปแบบการดื่มสุราที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศมีส่วนต่อปัญหาการใช้ความรุนแรงต่อสตรีในบางรูปแบบ