เอเอฟพี - คณะกรรมการของสหประชาชาติ ได้เรียกร้องให้พม่ายึดมั่นต่อคำสัญญาที่ระบุว่าจะปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้
ขณะที่สหประชาชาติแสดงความยินดีต่อการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ของรัฐบาลหลังประเทศหลุดพ้นจากการปกครองของทหารที่ยาวนานหลายทศวรรษ คณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ก็ยังแสดงความวิตกต่อสถานการณ์การควบคุมตัวนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เกิดขึ้น
มติประจำปีที่มีต่อพม่า จากคณะกรรมการชาติสมาชิกทั้งหมด 193 ชาติ ได้ผ่อนคลายลงจากหลายปีก่อน เพราะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายใต้คำสั่งของประธานาธิบดีเต็งเส่ง โดยมติระบุแสดงความยินดีต่อการปล่อยตัวนักโทษการเมืองจำนวนมาก และคำมั่นของประธานาธิบดีเต็งเส่งที่ระบุว่า จะปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้
สหประชาชาติ ต้องการให้รัฐบาลพม่าดำเนินกระบวนการดังกล่าวต่อไป และทำตามคำมั่นที่ระบุว่าจะปล่อยนักโทษการเมืองภายในสิ้นปี 2556 อย่างไร้เงื่อนไข และฟื้นคืนสิทธิ และเสรีภาพของบุคคลเหล่านั้น
แม้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการพม่าได้ปล่อยนักโทษการเมืองราว 69 คน แต่นักเคลื่อนไหวระบุว่า ยังคงมีนักโทษการเมืองอีกหลายสิบคนถูกควบคุมอยู่ในเรือนจำ พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทางการยังคงดำเนินการควบคุมตัวนักโทษเพิ่มอยู่
นอกจากนั้น มติของสหประชาชาติยังแสดงความวิตกเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ยังคงมีปรากฏอยู่ ซึ่งรวมทั้งการจับกุม และควบคุมตัวนักเคลื่อนไหวทางการเมือง และผู้ปกป้องสิทธิมนุษยชน การบังคับย้ายถิ่นฐาน การยึดที่ดิน การข่มขืน และความรุนแรงทางเพศในรูปแบบอื่นๆ การกระทำทารุณโหดร้าย ซึ่งผู้แทนจากสหรัฐฯ และยุโรป เรียกร้องให้พม่าเพิ่มระดับความพยายามในการปฏิรูปมากขึ้น
ทูตสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นว่า แม้จะมีความคืบหน้าเกิดขึ้นในพม่า แต่พม่าก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่้ต้องดำเนินการ หลังประเทศถูกปกครองโดยทหารมาจนกระทั่งปี 2554
มติยังเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าให้ชาวมุสลิมโรฮิงญาสามารถเข้าถึงความเป็นพลเมือง และยุติความรุนแรงของชาวพุทธต่อชาวโรฮิงญา
ทั้งนี้ ความรุนแรงทางศาสนาในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนเสียชีวิตไปมากกว่า 240 คน ขณะที่มากกว่า 240,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวโรฮิงญาต้องหลบหนีออกจากที่อยู่อาศัยของตนเอง.