เอเจนซีส์/เอเอฟพี - เมื่อวานนี้(18) สมาชิกกองกำลังปกป้องตัวเองไครเมีย 1 คน และทหารยูเครน 1 นาย ถูกสังหารหลังจากมือสไนเปอร์เปิดฉากกราดยิงจากอาคารที่อยู่ใกล้กับศูนย์วิจัยแผนที่ทางทหารในเมืองซิมเฟโรโปล หนึ่งในมือปืนนั้นถูกจับกุมในขณะที่อีกรายสามารถหลบนี้ไปได้ และทำให้ในวันนี้(19)มีผู้ประท้วงชาวไครเมียจำนวนหนึ่งได้บุกฐานทัพเรือยูเครนในเมืองเซวาสโตโปล และได้ติดธงชาติรัสเซียที่ประตูทางเข้าฐานทัพเพื่อเรียกร้องให้ทหารยูเครนเดินทางออกไป และสำนักข่าวอินเตอร์แฟกได้รายงานล่าสุดว่า พลเรือโทอเล็กซานเดอร์ วิตโก(Aleksandr Vitko) ผู้บัญชาการกองทัพเรือรัสเซีย กองเรือทะเลดำได้เดินทางมาเจรจาเป็นเวลา 30 นาทีกับพลเรือโท เซอร์กีย์ เกย์ดุ๊ก (Sergiy Gayduk) ผู้บัญชาการฐานทัพเรือยูเครน ประจำเมืองเซวาสโตโปลที่ถูกจับกุมตัวขังไว้ภายในฐานทัพ และพบว่าหลังจากนั้น เกย์ดุ๊กได้เดินทางออกจากฐานทัพพร้อมทหารยูเครน 30 นาย
ในวันนี้(19)โฆษกฐานทัพเรือยูเครนในเซวาสโตโปล ที่อยู่บนคาบสมุทรไครเมียได้แถลงว่า ผู้ประท้วงชาวไครเมียนิยมรัสเซียจำนวน 200 คนในชุดพลเรือนที่ไม่มีอาวุธที่มาพร้อมกับกองกำลังรัสเซีย อ้างจากเอเอฟพี ได้บุกเข้าฐานทัพเรือยูเครนที่ตั้งอยู่ในเมืองเซวาสโตโปลโดยไม่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น โดยทางคนกลุ่มนี้ได้ทำการพูดคุยกับทหารยูเครนที่รักษาการ และได้ติดธงชาติรัสเซียเ 3ผืนหนือประตูทางเข้าฐานทัพ อ้างจากรอยเตอร์
ซึ่งนักข่าวอัลญะซีเราะฮ์ได้รายงานจากฐานทัพเรือที่ถูกยึดว่า ผู้ประท้วงชาวไครเมียตัดสินใจเคลื่อนไหวหลังจากมีรายงานว่า ทางหน่วยทหารยูเครนประจำอยู่ในไครเมียถูกสั่งให้สามารถใช้อาวุธยิงได้เพื่อการป้องกันตัว ซึ่งคำสั่งนี้มีขึ้นหลังจากเหตุการณ์วันอังคาร(18)ที่มีทหารยูเครนถูกยิงเสียชีวิตที่ศูนย์วิจัยแผนที่ทางทหารในเมืองซิมเฟโรโปล
และ เอเอฟพีได้รายงานว่า ผู้ประท้วงพร้อมกับพร้อมกับกองกำลังรัสเซียสามารถจับกุมพลเรือโท ตัวเซอร์กีย์ เกย์ดุ๊ก (Sergiy Gayduk) ผู้บัญชาการฐานทัพเรือยูเครน ประจำเมืองเซวาสโตโปลได้หลังจากนั้น โดยผู้ประท้วงต้องการให้ทหารยูเครนย้ายออกจากฐานทัพทางทหารแห่งนี้ไป
นอกจากนี้ ล่าสุดสำนักข่าวอินเตอร์แฟกได้รายงานว่า พลเรือโทอเล็กซานเดอร์ วิตโก(Aleksandr Vitko) ผู้บัญชาการกองทัพเรือรัสเซีย กองเรือทะเลดำได้เดินทางมาพูดคุยเป็นเวลา 30 นาทีกับเกย์ดุ๊ก และกลับออกไปโดยไม่ให้ความเห็นใด และหลังจากนั้นผู้บัญชาการฐานทัพเรือยูเครน ประจำเมืองเซวาสโตโปล พร้อมทหารยูเครนประจำฐานทัพเรือที่ไม่มีอาวุธราว 30นายได้เดินทางออกไป
โดยเมื่อวานนี้(18) เมื่อนักข่าวของ RTสื่อรัสเซีย ได้เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ กลับพบว่าที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ใกล้กับศูนย์การวิจัยทางทหารของยูเครนในไครเมียนั้นถูกล้อมไปด้วยกลุ่มชายในชุดลายพราง และสถานการณ์ทั่วไปดูเหมือน “สงบ”
ทางด้านรัฐมนตรีมหาดไทยของไครเมียได้กล่าวว่า เหตุการณ์กราดยิงนี้เกิดขึ้นที่บ้านที่กำลังก่อสร้าง ซึ่งตั้งอยู่ตรงกันข้ามศูนย์ทางทหาร และมือสไนเปอร์ได้มีเป้าประสงค์ที่จะสังหารสมาชิกกองกำลังปกป้องตัวเองไครเมีย และทหารยูเครนที่ประจำอยู่ในศูนย์วิจัยแห่งนั้น
“ในช่วงเช้าเมื่อวานนี้(18) กองกำลังปกป้องตัวเองไครเมียได้รับรายงานว่า มีการค้นพบกลุ่มติดอาวุธในอาคารร้าง และทางหน่วยได้รุดเข้าตรวจสอบ และพวกเขาโดนเปิดฉากยิงที่สัญนิษฐานว่าจะมาจากอาวุธปืนไรเฟิล และการยิงนั้นมาจาก 2ทิศทางแต่อยู่ในจุดเดียวกัน” ตำรวจไครเมียเผย
และพบว่ามีสมาชิกกองกำลังปกป้องตัวเองไครเมีย 1 คนถูกยิงเสียชีวิต และอีกคนได้รับบาดเจ็บ ตำรวจไครเมียเผยต่อ และกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้มีทหารยูเครนที่ประจำอยู่ในศูนย์วิจัยการทหารถูกยิงเสียชีวิต 1 นาย และทหารยูเครนอีก 1 นายได้รับบาดเจ็บ
ซึ่งทางตำรวจไครเมียและอัยการของไครเมียกำลังสอบสวนในคดีกราดยิงนี้
อ้างจากข้อมูลของRT สถานที่เกิดเหตุเป็นศูนย์วิจัยการทำแผนที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ซึ่งทำงานอยู่ในศูนย์แห่งนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง นอกจากนี้บริเวณของศูนย์การทางทหารแห่งนี้ยังเล็ก และมีทหารที่ประจำอยู่นั้นมีอาวุธเป็นเพียงแค่ปืนกล 6 กระบอก และปืนพกมาคารอฟอีก 3 กระบอกเพื่อรักษาความปลอดภัย และมีรายงานว่าศูนย์การวิจัยทางทหารแห่งนี้ตัดสินใจเข้าร่วมไครเมียและรัสเซีย และกำลังอยู่ในช่วงเตรียมเอกสารในการเปลี่ยนผ่าน
นอกจากนี้แหล่งข่าวของ RT ยังรายงานว่า หนึ่งในมือสไนเปอร์นั้นสามารถถูกจับกุมได้
ด้านนายกรัฐมนตรีไครเมีย เซอร์เกย์ อักสโยนอฟ ได้เผยกับโทรทัศน์ของรัสเซียช่อง 1 ว่า เหตุการณ์กราดยิงครั้งนี้คล้ายกับการยิงโดยมือปืนสไนเปอร์ที่จตุรัสเอกราช ในกรุงเคียฟ “จากเหตุการณ์กราดยิงโดยมือปืนสไนเปอร์ล่าสุดในไครเมียที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน ทำให้ผมขอสรุปได้ว่า มีบางอย่างในเหตุการณ์นี้ที่คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นที่จตุรัสเอกราช กลางกรุงเคียฟ ที่พบว่ามือสไนเปอร์ได้ยิงทั้งตำรวจปราบจลาจลยูเครนและผู้ประท้วงยูเครนในครั้งนั้น ซึ่งคล้ายกับเหตุการณ์ในไครเมียที่ทั้งสมาชิกหน่วยป้องกันตนเองของไครเมียและทหารยูเครนโดนสังหาร”
โดยอักสโยนอฟได้กล่าวโยงถึงเหตุการณ์สไนเปอร์ ที่ภายหลังมีเทปลับสนทนาระหว่างผู้นำอียูและรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเอสโตเนียรั่วออกมาที่ว่า มือปืนสไนเปอร์ที่กราดยิงทั้ง2ฝ่ายนั้นได้รับการจ้างมาจากหนึ่งในผู้นำการประท้วงยูเครน ซึ่งปัจจุบันมีอำนาจอยู่ในรัฐบาลยูเครนรักษาการ
อย่างไรก็ตามนักข่าวอัลญะซีเราะฮ์ได้เปิดเผยว่า “ได้เห็นกลุ่มมือปืนสไนเปอร์ที่เข้าใจว่าอาจจะเป็นชาวรัสเซียได้หลบออกมาจากตึกอีกแห่งเพื่อใช้ดูศูนย์การทหารซึ่งเป็นเป้าหมายการโจมตี
