xs
xsm
sm
md
lg

เปิดปูมประวัติ 2นักบินMH370 คนเก่งวิศวกรรม - คนดีมีศีลธรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ – เผยนักบินที่ 1 ของเที่ยวบิน MH370 สนใจในเรื่องวิศวกรรมเป็นพิเศษถึงขนาดประกอบระบบจำลองการบินเสมือนฝึกเองที่บ้าน ขณะที่ผู้ช่วยนักบินถูกเรียกขาน “คาสซาโนวาห้องนักบิน”

ซอฮารี อาหมัด ชาห์ วัย 53 ปี นักบินที่ 1 ของเที่ยวบิน MH370 ที่หายไปลึกลับตั้งแต่วันเสาร์ที่แล้ว (8 มี.ค.) ร่วมงานกับมาเลเซีย แอร์ไลน์ (เอ็มเอเอส) ตั้งแต่ปี 1981 และได้รับการยกย่องว่า เป็นนักบินที่กระตือรือร้นที่มีประสบการณ์การบินถึง 18,365 ชั่วโมง ไม่รวมการฝึกกับเครื่องจำลองการบินเสมือนที่บ้านของเขาเอง
ซอฮารี อาหมัด ชาห์ นักบินที่ 1 ของเที่ยวบินMH370
บนเพจที่อุทิศให้ซอฮารี ที่มีผู้ปรารถนาดีร่วมแสดงความคิดเห็นกว่า 400 ข้อความ รวมทั้งโชว์ภาพเครื่องจำลองการบินเสมือนอันซับซ้อนที่เจ้าตัวประกอบติดตั้งเองที่บ้าน ขณะที่ในช่องยูทูบของซอฮารี (www.youtube.com/user/catalinapby1) มีวิดีโออธิบายวิธีซ่อมเครื่องปรับอากาศ หน้าต่าง และโปรเจ็กต์การทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองอีกมากมาย

ซอฮารียังเป็นสมาชิกช่องรายการทำบอลลูนหัวใจให้สัตว์, คอมเมดี เซนทรัล และริชาร์ด ดอว์กินส์ ฟาวน์เดชัน ฟอร์ รีซัน แอนด์ ไซนส์

สื่อมาเลเซียรายงานโดยอ้างอิงการเปิดเผยของเพื่อนร่วมงานที่บอกว่า ซอฮารีเป็น “นักบินที่ยอดเยี่ยม” และยังรับหน้าที่ผู้ทดสอบนักบินด้วยระบบจำลองการบินเสมือนภายใต้การอนุญาตของกรมการบินพลเรือนมาเลเซีย

ทางการแดนเสือเหลืองเผยว่า ตำรวจได้ค้นบ้านนักบินทั้งคู่ และตรวจสอบเครื่องจำลองการบินเสมือนของซอฮารี แม้นักวิจารณ์ด้านการบินระบุว่า การมีระบบดังกล่าวที่บ้านไม่ใช่เรื่องผิดปกติสำหรับพวกนักบินแต่อย่างใด
ภาพที่เผยแพร่โดยโทรทัศน์ไนน์เน็ตเวิร์ก ในนครซิดนีย์ออสเตรเลียวันอังคาร (11) โดยที่ จอนติ รูส (ที่ 2 จากขวา) ระบุว่าเป็นภาพเหตุการณ์เมื่อปี 2011 บนเที่ยวบินภูเก็ต-กัวลาลัมเปอร์ซึ่งเธอกับเพื่อนสาวชาวแอฟริกาใต้ (ที่ 2 จากซ้าย) ได้รับการ ต้อนรับขับสู้อย่างดีจากนักบินที่ไม่ได้ระบุชื่อ (ซ้ายสุด) กับอีกคนคือ ฟาริก อับดุล ฮามิด  (ขวาสุด) ผู้ช่วยนักบิน วัย 27 ปี ของโบอิ้ง 777-200ER เที่ยวบิน MH370 ที่สูญหายแบบไร้ร่องรอยในขณะนี้
สำหรับทางด้านผู้ช่วยนักบิน ฟาริก อับดุล ฮามิด ที่อยู่ในวัย 27 ปีทำงานให้เอ็มเอเอสตั้งแต่อายุ 20 ปี หลังจบวิชาการบินจากเกาะลังกาวี

สัปดาห์ที่ผ่านมา สถานีทีวีออสเตรเลียเผยแพร่บทสัมภาษณ์สาวแอฟริกาใต้คนหนึ่งที่เล่าว่า ฟาริกและนักบินอีกคน (ไม่ใช่ซอฮารี) เคยชวนเธอและเพื่อนสาวอีกคนหนึ่ง เข้าไปในห้องนักบิน ระหว่างที่ฟาริกเป็นผู้ช่วยนักบินในเที่ยวบินจากภูเก็ตสู่กัวลาลัมเปอร์เมื่อปี 2011 หลังจากนั้นเอ็มเอเอสออกมาแถลงว่า “ตกใจมาก” กับการละเมิดกฎความปลอดภัยดังกล่าว อย่างไรก็ดี สายการบินยังไม่สามารถตรวจสอบคำกล่าวอ้างนั้นได้

ฟาริก บุตรชายข้าราชการระดับกลางจัดเป็น “คนดี” คนหนึ่ง อิหม่ามในมัสยิดใกล้บ้านฟาริกในกัวลาลัมเปอร์เผยว่า เขาไปมัสยิดเป็นประจำ

ชาราฟี อาลี อัสราห์ ซึ่งโต้เถียงว่า คำกล่าวอ้างที่ว่า ฟาริกละเมิดกฎความปลอดภัยในห้องนักบินเป็นความพยายามทำลายชื่อเสียงของฟาริกนั้น บอกว่า ฟาริกเข้าอบรมหลักสูตรอิสลามเป็นระยะๆ และยืนยันว่า เขาเป็นคนดี

กระนั้น ชื่อเสียงของฟาริกต้องมัวหมองในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อเขาไปปรากฏตัวในรายการท่องเที่ยวของซีเอ็นเอ็นที่เขาทำหน้าที่ขับเครื่องบินให้ริชาร์ด เควสต์ จากฮ่องกงไปกัวลาลัมเปอร์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

รายการดังกล่าวเล่าว่า ฟาริกไต่เต้าเป็นนักบินเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกกับเครื่องจำลองการบินเสมือน

“น่าสนใจมากกับวิธีที่เขานำเครื่องลงสู่พื้นดิน” เควสต์กล่าวบนเว็บไซต์ของซีเอ็นเอ็นโดยเรียกเทคนิคของฟาริกว่า “สมบูรณ์แบบตามตำรา”

**ข้อกังขา**

วันเสาร์ (15) นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคของมาเลเซีย แถลงว่า ข้อมูลจากดาวเทียมและเรดาร์บ่งชี้ชัดเจนว่า ระบบการสื่อสารอัตโนมัติของ MH370 ถูกปิดใช้งานและเครื่องบินได้เบนหัวออกนอกเส้นทางปกติและบินต่อไปอีกหลายชั่วโมง

ทั้งนี้เชื่อกันว่า เที่ยวบิน 3 ใน 4 เที่ยวที่ถูกยึดไว้ในวินาศกรรม 9/11 นั้น ผู้จี้เครื่องบินได้ปิดอุปกรณ์รับ-ส่งสัญญาณของเครื่องบินที่ส่งข้อมูลการบินกลับไปยังศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศด้วยตนเอง

นอกจากนั้น เทอร์เรนซ์ ฟาน ผู้เชี่ยวชาญการบินจากมหาวิทยาลัยการบริหารจัดการแห่งสิงคโปร์ อ้างอิงกรณีเที่ยวบิน 990 ของอียิปต์แอร์ตกในมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อเดือนตุลาคม 1999 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 217 คน เป็นตัวอย่างกรณีเครื่องบินตกที่เกิดจากนักบิน

การสอบสวนของสหรัฐฯ ระบุว่า นักบินที่ 1 ทำเครื่องบินตกหลังจากลุกไปพัก ทว่า ทางการอียิปต์ปฏิเสธเรื่องนี้

“ผมไม่ได้บอกว่า สถานการณ์นี้เกิดขึ้นกับ MH370 เราไม่มีหลักฐานใดๆ เลย แต่นี่เป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่เป็นไปได้ เพราะไม่อาจปฏิเสธได้ว่า นักบินมีบทบาทสำคัญอย่างมาก”
กำลังโหลดความคิดเห็น