เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ออกโรงเตือน สงครามกลางเมืองในซีเรียที่ดำเนินมานาน 3 ปี อาจยืดเยื้อยาวนานนับทศวรรษ หลังจากที่ระบอบการปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดทวีความแข็งแกร่งขึ้นจากแรงหนุนของรัสเซียและอิหร่าน หาได้มีสถานะง่อนแง่นและสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียอำนาจดังเช่นเมื่อ 1 ปีก่อนหน้านี้
ดาวีด การ์เทนสไตน์-รอสส์ ผู้เชี่ยวชาญจากองค์กร “Foundation for the Defense of Democracies” ที่มีฐานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐฯ ให้ความเห็นต่อคณะกรรมาธิการต่างประเทศของวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยระบุว่า ในขณะนี้การล่มสลายของระบอบการปกครองของอัสซาดในซีเรีย แทบจะไม่มีความเป็นไปได้อีกแล้ว เนื่องจากรัฐบาลซีเรียได้รับการสนับสนุนอย่างขนานใหญ่ทั้งด้านการเงินและอาวุธจากอิหร่านและรัสเซีย อีกทั้งยังมีรัสเซียที่คอยให้การปกป้องในเวทีโลก
โดยความเข้มแข็งของรัฐบาลอัสซาดในเวลานี้ สวนทางอย่างสิ้นเชิง กับมุมมองของบรรดานักวิเคราะห์จากสำนักต่างๆเมื่อกว่า 1 ปีที่ผ่านมาที่ต่างฟันธงว่า รัฐบาลซีเรียกำลังก้าวสู่การ “นับถอยหลัง” สู่การถูกโค่นอำนาจ แต่ถึงกระนั้น การ์เทนสไตน์-รอสส์ชี้ว่าแสนยานุภาพของฝ่ายอัสซาดในเวลานี้ ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้คว้าชัยชนะในสงครามได้อย่างเบ็ดเสร็จ
การ์เทนสไตน์-รอสส์ระบุ นอกจากรัฐบาลอัสซาดจะแข็งแกร่งขึ้นแล้ว ในทางกลับกัน นักรบฝ่ายกบฏซีเรียที่เกิดจากการผนึกกำลังกันอย่างหลวมๆ ของพวก “สายกลาง” และพวก “อิสลามิสต์” ก็กำลังแตกแยกกันอย่างหนักถึงขั้นที่มีการจับอาวุธเข่นฆ่ากันเอง และเมื่อประกอบกับการเปลี่ยนจุดยืนของรัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามาที่ล้มเลิกแผนหนุนกบฏซีเรียกลางคันเพราะกลัวการขยายอิทธิพลของพวกอิสลามิสต์แล้ว ยิ่งทำให้ฝ่ายกบฏซีเรียอ่อนกำลังลงอย่างสำคัญ
ผู้เชี่ยวชาญรายนี้ยังอ้างข้อมูลจากหน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐฯล่าสุดที่ประเมินว่า การสู้รบในซีเรียอาจยืดเยื้อออกไปอีกนานกว่า 10 ปีหรือมากกว่านั้น เนื่องจากไม่มีฝ่ายใดสามารถเอาชนะอีกฝ่ายหนึ่งได้อย่างเด็ดขาด ขณะที่ความพยายามของนานาชาติในการผลักดันให้เกิดการเจรจาสันติภาพ 2 รอบที่นครเจนีวา ที่ผ่านมาก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ
ด้านบิล เบิร์นส์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่า รัฐบาลอเมริกันยังมิได้เปลี่ยนจุดยืนต่อความขัดแย้งในซีเรียโดยย้ำว่า สหรัฐฯยังคงมองระบอบการปกครองของบาชาร์ อัล-อัสซาดว่าเป็น “ภัยคุกคาม” ต่อผลประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐฯ และเชื่อว่า ความขัดแย้งในซีเรียจะไม่มีวันยุติ ตราบใดที่อัสซาดยังอยู่ในอำนาจ
อย่างไรก็ดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯปฏิเสธที่จะยอมรับว่า การคงอยู่ของรัฐบาลอัสซาดในซีเรียจะช่วยสกัดกั้นการขยายอิทธิพลของกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายก่อการร้ายระดับโลกอย่าง “อัลกออิดะห์”
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดระบุว่า สงครามกลางเมืองในซีเรียที่ดำเนินมาเกือบครบ 3 ปี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 140,000 คน ขณะที่ชาวซีเรีย 6.5 ล้านคนต้องกลายเป็นผู้อพยพหนีภัยการสู้รบภายในประเทศ และอีกมากกว่า 2.5 ล้านคนได้หนีเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่รายรอบและกลายสภาพเป็นผู้ลี้ภัยพลัดถิ่น