สหรัฐฯออกโรงสำทับให้ปักกิ่งแจกแจงรายละเอียด หรือไม่ก็ปรับการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนต่างๆ ในทะเลจีนใต้ให้มีความสอดคล้องกับกฎหมายสากล พร้อมกับชี้ว่าพฤติกรรมของพญามังกรสะท้อนความพยายามในการทึกทักเข้าควบคุมน่านน้ำดังกล่าว แม้ถูกคัดค้านจากเพื่อนบ้าน ดังนั้นจึงส่งผลให้สถานการณ์ภายในภูมิภาคตึงเครียดยิ่งขึ้น
แดนนี รัสเซลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกของสหรัฐฯ แถลงต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยเอเชียและแปซิฟิก แห่งคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรอเมริกัน เมื่อวันพุธ (5 ก.พ.) ว่า การอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนในทะเลจีนใต้ของแดนมังกร ซึ่งอิงอยู่กับแผนที่แสดงอาณาเขตแบบคร่าวๆ ฉบับหนึ่งที่เรียกขานกันว่า “แผนที่เส้นประ 9 เส้น” นั้น ถือว่าขัดแย้งกับกฎหมายระหว่างประเทศ ดังนั้น จีนควรที่จะอธิบายหรือปรับการอ้างสิทธิ์ดังกล่าวให้สอดคล้องกับหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
รัสเซลล์ยังสนับสนุนสิทธิ์ของฟิลิปปินส์ ที่ได้ยื่นฟ้องร้องเรียนจีน ต่อศาลว่าด้วยกฎหมายทะเลของสหประชาชาติเมื่อปีที่แล้ว โดยเขาระบุว่านี่เป็นส่วนหนึ่งความพยายามแสวงหาทางออกโดยสันติวิธี
“การขาดความกระจ่างของจีนเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในภูมิภาคดังกล่าว และจำกัดแนวโน้มการบรรลุวิธีแก้ปัญหาที่ตกลงกันได้ร่วมกัน หรือการดำเนินการพัฒนาร่วมกันที่มีความเท่าเทียม”
ทัศนะเช่นนี้ของรัสเซลล์บ่งชี้ให้เห็นว่า อเมริกามีจุดยืนเกี่ยวกับทะเลจีนใต้ แบบที่มุ่งเป็นฝ่ายรุกมากขึ้น หลังจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศในขณะนั้นได้ประกาศระหว่างเยือนเวียดนามว่า เสรีภาพในการเดินเรือคือผลประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐฯ ในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสินค้ากว่าครึ่งหนึ่งของโลก
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สหรัฐฯกำลังส่งเสริมกระชับสัมพันธ์ทางทหารกับพวกชาติพันธมิตรในเอเชียทั้งญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ แต่วอชิงตันย้ำมาตลอดว่า วางตัวเป็นกลางในข้อพิพาทด้านอธิปไตยในเอเชีย และจุดยืนนี้ได้รับการตอกย้ำอีกครั้งโดยรัสเซลล์
แดนนี รัสเซลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกของสหรัฐฯ แถลงต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยเอเชียและแปซิฟิก แห่งคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรอเมริกัน เมื่อวันพุธ (5 ก.พ.) ว่า การอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนในทะเลจีนใต้ของแดนมังกร ซึ่งอิงอยู่กับแผนที่แสดงอาณาเขตแบบคร่าวๆ ฉบับหนึ่งที่เรียกขานกันว่า “แผนที่เส้นประ 9 เส้น” นั้น ถือว่าขัดแย้งกับกฎหมายระหว่างประเทศ ดังนั้น จีนควรที่จะอธิบายหรือปรับการอ้างสิทธิ์ดังกล่าวให้สอดคล้องกับหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
รัสเซลล์ยังสนับสนุนสิทธิ์ของฟิลิปปินส์ ที่ได้ยื่นฟ้องร้องเรียนจีน ต่อศาลว่าด้วยกฎหมายทะเลของสหประชาชาติเมื่อปีที่แล้ว โดยเขาระบุว่านี่เป็นส่วนหนึ่งความพยายามแสวงหาทางออกโดยสันติวิธี
“การขาดความกระจ่างของจีนเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในภูมิภาคดังกล่าว และจำกัดแนวโน้มการบรรลุวิธีแก้ปัญหาที่ตกลงกันได้ร่วมกัน หรือการดำเนินการพัฒนาร่วมกันที่มีความเท่าเทียม”
ทัศนะเช่นนี้ของรัสเซลล์บ่งชี้ให้เห็นว่า อเมริกามีจุดยืนเกี่ยวกับทะเลจีนใต้ แบบที่มุ่งเป็นฝ่ายรุกมากขึ้น หลังจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศในขณะนั้นได้ประกาศระหว่างเยือนเวียดนามว่า เสรีภาพในการเดินเรือคือผลประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐฯ ในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสินค้ากว่าครึ่งหนึ่งของโลก
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สหรัฐฯกำลังส่งเสริมกระชับสัมพันธ์ทางทหารกับพวกชาติพันธมิตรในเอเชียทั้งญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ แต่วอชิงตันย้ำมาตลอดว่า วางตัวเป็นกลางในข้อพิพาทด้านอธิปไตยในเอเชีย และจุดยืนนี้ได้รับการตอกย้ำอีกครั้งโดยรัสเซลล์