เอเอฟพี/รอยเตอร์ - “ดมิทโทร บูลาตอฟ” (Dmytro Bulatov) นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลยูเครนที่ได้บินออกนอกประเทศเพื่อการรักษาตัวหลังจากโดนลักพาตัว ได้เปิดเผยเมื่อวานนี้ (6) ว่า เขาถูกกลุ่มคนลักพาตัวที่เชื่อว่าเป็นตำรวจลับรัสเซียทรมานโดยการเฉือนหู และใช้ตะปูตรึงมือไว้กับประตูไม้เพื่อให้ยอมลับว่าเป็น “สายลับสหรัฐฯ”
“ดมิทโทร บูลาตอฟ” (Dmytro Bulatov) นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลยูเครน ผู้นำกลุ่ม “Automaidan” ได้เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (6) ว่า กลุ่มลักพาตัวเขาที่บูลาตอฟเชื่อว่าตำรวจลับรัสเซีย ได้บังคับให้เขายอมรับต่อหน้ากล้องวิดีโอว่า บูลาตอฟ ได้รับเงินจำนวน 50,000 ดอลลาร์ จากเอกอัคราชทูตสหรัฐฯ ในการจัดการประท้วงเพื่อโค่นล้มรัฐบาลยูเครนของประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช
“ผมต้องโกหกพวกเขาเพื่อให้ยุติการทรมาน....และจากจุดหนึ่งผมขอร้องให้พวกเขาฆ่าผมเสียดีกว่าเพราะผมทนต่อไปอีกไม่ได้แล้ว” บูลาตอฟ วัย 35 ปี เผยในระหว่างที่เขารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล Vilnius University Emergency Hospital ในลิทัวเนีย
บูลาตอฟ ถูกพบตัวในสภาพโชกเลือด และบาดเจ็บสาหัสในป่านอกกรุงเคียฟ ในวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา โดยผู้นำกลุ่ม “Automaidan” ได้เปิดเผยว่า คนร้ายใช้ตะปูตรึงมือเขาเข้ากับประตูไม้ และได้ทุบตีเขาตลอดช่วงเวลา 8 วันที่บูลาตอฟ ถูกคุมตัวไว้ ซึ่งบูลาตอฟ เปิดเผยความรู้สึกเมื่อตอนถูกทุบตีว่า เหมือนกับมีเหล็กร้อนมากๆ มานาบบนใบหน้าของเขา และเขาต้องการให้หยุดการทรมาน
และนอกจากนี้ บูลาตอฟ ยังเปิดเผยว่า กลุ่มลักพาตัวที่เขาเชื่อว่าเป็นตำรวจลับรัสเซียได้เฉือนหูของเขาออกมา “พวกนั้นเฉือนบางส่วนของหูของผม และนำชิ้นส่วนนั้นมาคลึงกับใบหน้าของผม มันน่ากลัวมาก” บูลาตอฟเผย และยังเสริมต่อว่า การกระทำของกลุ่มผู้ลักพาตัวที่พูดภาษารัสเซียนั้นเป็นลักษณะของ “มืออาชีพ”
และบูลาตอฟ ยังเชื่อว่า วิคเตอร์ เมดเวดชัค (Viktor Medvedchuk) นักการเมือง และนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลของยูเครนต้องมีส่วนในการลักพาตัวเขาไป
ผู้นำในสหภาพยุโรปได้เสนอตัวเข้าช่วยเหลือบูลาตอฟ หลังจากที่ตำรวจยูเครนดำเนินคดีต่อเขาในข้อหา “ก่อกวนความสงบประเทศ” ในเหตุการประท้วงยูเครน โดยบูลาตอฟ สามารถเดินทางออกจากยูเครนได้ในวันอาทิตย์ (2) ถึงแม้ว่ายังมีคดีติดตัวอยู่หลังจากที่ศาลยูเครนอนุญาต
โดยบูลาตอฟ ได้บรรยายถึงประสบการณ์ถูกลักพาตัว และนำไปทรมานว่า เป็นฝันร้ายที่สุดเท่าที่เขาเคยมี ในขณะนี้บูลาตอฟ ยังมีอาการปวดศีรษะ และมึนงง
ภาพในวิดีโอของบูลาตอฟ ที่อยู่ในสภาพโชกเลือดถูกฉายวนไปมาในช่องสถานีโทรทัศน์ของฝ่ายต่อต้านในยูเครน ซึ่งสร้างความโกรธแค้นให้แก่ผู้ประท้วงยูเครนที่ยังคงปักหลักอยู่ที่จัตุรัสเอกราช และสถานที่ราชการของยูเครนในกรุงเคียฟ
และบูลาตอฟ ปฏิเสธที่จะเดินทางกลับไปยังยูเครน จนกว่าเขาจะได้รับการยืนยันว่าจะไม่โดนดำเนินคดีตามกฏหมาย “ผมต้องการให้รัฐบาลยูเครนรับปากต่อรัฐบาลประชาคมโลกว่าผมจะไม่โดนจับกุมในข้อหาการเมือง” บูลาตอฟกล่าว
นอกจากนี้ คุณพ่อลูก 3 วัย 35 ปี ผู้นี้ยังกล่าวต่อว่า “รัฐบาลยูเครนควรยกเลิกข้อกล่าวหาต่อนักเคลื่อนไหวทั้งหมดที่มีส่วนร่วมในการประท้วงครั้งนี้ รวมถึงตัวผมด้วย”