วิกฤตการเมืองยูเครนระอุสุดขีดในรอบ 2 เดือน ผู้ประท้วงสังเวยชีวิตอย่างน้อย 2 คน จากการปะทะกับตำรวจกลางกรุงเคียฟเช้าวันพุธ (22 ม.ค.) นายกรัฐมนตรีอาซารอฟออกมากล่าวหาทันทีว่า ผู้นำฝ่ายค้านต้องรับผิดชอบการสูญเสียครั้งนี้ พร้อมยืนยันตำรวจไม่ได้ใช้กระสุนจริง ด้านฝ่ายค้านแถลงโต้กลับ โจมตีผู้นำเผด็จการสังหารประชาชน
พนักงานอัยการของยูเครนยืนยันว่า มีผู้ประท้วงเสียชีวิตไป 2 คน โดยถูกยิงด้วยกระสุนจริง ภายหลังจากที่ โอเลห์ มูซีย์ ผู้ประสานงานหน่วยแพทย์ของกลุ่มผู้ประท้วงยูเครน ระบุว่าชายคนหนึ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหลังจากตกจากที่สูงในสนามฟุตบอลของสโมสร ไดนาโม เคียฟ อีก 2 คนเสียชีวิตจากบาดแผลถูกยิง
ทางด้านนายกรัฐมนตรีไมโคลา อาซารอฟของยูเครน กล่าวหาทันทีว่า ผู้นำฝ่ายค้านต้องรับผิดชอบการเสียชีวิตของผู้ประท้วง พร้อมกับอ้างว่า ตำรวจไม่มีกระสุนจริง
ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน อาซารอฟได้ออกมาเตือนว่า รัฐบาลอาจใช้กำลังสลายการชุมนุม หากยังมีการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง
การปะทะล่าสุดเกิดขึ้นในช่วงเช้าวันพุธ เมื่อตำรวจยกกำลังเข้าจับกุมผู้ประท้วง ทำลายสิ่งกีดขวางและพยายามบุกเข้าไปในพื้นที่ที่ผู้ประท้วงยึดครองอยู่ บริเวณด้านหลังของซากรถที่ถูกเผาที่มีน้ำแข็งปกคลุมและใกล้ๆ กับอาคารที่ทำการรัฐบาล
ฝ่ายผู้ประท้วงตอบโต้ด้วยระเบิดขวดและก้อนหิน สู้กับระเบิดแสงและกระสุนยางจากตำรวจ
อย่างไรก็ดี ในที่สุดตำรวจก็ล่าถอยกลับสู่ตำแหน่งเดิมก่อนการปะทะ และเมื่อถึงช่วงเที่ยง ผู้ชุมนุมหลายพันคนที่สวมหน้ากากปิดหน้าและหมวกนิรภัยได้ช่วยกันสร้างแนวรั้วใหม่ด้วยถุงหิมะใบใหญ่ ห่างจากแนวตำรวจหลายเมตร
กระทั่งล่าสุด ตำรวจยังไม่ได้เคลื่อนเข้าสู่จัตุรัสเอกราชที่เป็นที่ตั้งค่ายหลักของผู้ชุมนุม และไม่เป็นที่ชัดเจนว่า กองกำลังความมั่นคงกำลังวางแผนจู่โจมรอบใหม่หรือไม่
พนักงานอัยการของยูเครนยืนยันว่า มีผู้ประท้วงเสียชีวิตไป 2 คน โดยถูกยิงด้วยกระสุนจริง ภายหลังจากที่ โอเลห์ มูซีย์ ผู้ประสานงานหน่วยแพทย์ของกลุ่มผู้ประท้วงยูเครน ระบุว่าชายคนหนึ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหลังจากตกจากที่สูงในสนามฟุตบอลของสโมสร ไดนาโม เคียฟ อีก 2 คนเสียชีวิตจากบาดแผลถูกยิง
ทางด้านนายกรัฐมนตรีไมโคลา อาซารอฟของยูเครน กล่าวหาทันทีว่า ผู้นำฝ่ายค้านต้องรับผิดชอบการเสียชีวิตของผู้ประท้วง พร้อมกับอ้างว่า ตำรวจไม่มีกระสุนจริง
ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน อาซารอฟได้ออกมาเตือนว่า รัฐบาลอาจใช้กำลังสลายการชุมนุม หากยังมีการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง
การปะทะล่าสุดเกิดขึ้นในช่วงเช้าวันพุธ เมื่อตำรวจยกกำลังเข้าจับกุมผู้ประท้วง ทำลายสิ่งกีดขวางและพยายามบุกเข้าไปในพื้นที่ที่ผู้ประท้วงยึดครองอยู่ บริเวณด้านหลังของซากรถที่ถูกเผาที่มีน้ำแข็งปกคลุมและใกล้ๆ กับอาคารที่ทำการรัฐบาล
ฝ่ายผู้ประท้วงตอบโต้ด้วยระเบิดขวดและก้อนหิน สู้กับระเบิดแสงและกระสุนยางจากตำรวจ
อย่างไรก็ดี ในที่สุดตำรวจก็ล่าถอยกลับสู่ตำแหน่งเดิมก่อนการปะทะ และเมื่อถึงช่วงเที่ยง ผู้ชุมนุมหลายพันคนที่สวมหน้ากากปิดหน้าและหมวกนิรภัยได้ช่วยกันสร้างแนวรั้วใหม่ด้วยถุงหิมะใบใหญ่ ห่างจากแนวตำรวจหลายเมตร
กระทั่งล่าสุด ตำรวจยังไม่ได้เคลื่อนเข้าสู่จัตุรัสเอกราชที่เป็นที่ตั้งค่ายหลักของผู้ชุมนุม และไม่เป็นที่ชัดเจนว่า กองกำลังความมั่นคงกำลังวางแผนจู่โจมรอบใหม่หรือไม่