เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรียูเครน มีโคลา ฮาซารอฟ ได้กล่าวเตือนกลุ่มผู้ประท้วงยูเครนที่หนุนสหภาพยุโรปในวันอังคาร (21) ว่า รัฐบาลยูเครนอาจพิจารณาใช้กำลังเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเข้าสลายกลุ่มผู้ประท้วงหลังจากที่มีการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลและผู้ประท้วง 2 คืน ก่อนหน้านั้น และมีผลให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนหลายร้อยคน ในขณะที่รัสเซียหนุนและเตือนว่าการประท้วงยูเครนนั้นอาจ “เกินความควบคุมไปแล้ว”
นายกรัฐมนตรียูเครน มีโคลา ฮาซารอฟ ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์รัสเซียที่รัฐบาลรัสเซียเป็นเจ้าของในวันอังคาร (21) และเปิดเผยว่า “หากกลุ่มผู้ประท้วงยังไม่หยุดการยั่วยุ” เจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการชุมนุมประท้วงของยูเครนอาจต้องใช้กำลังเข้าสลายการประท้วง โดยกฎหมายฉบับนี้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (21) มีจุดประสงค์เพื่อห้ามการชุมนุมประท้วงขนาดใหญ่ในกรุงเคียฟ
การให้สัมภาษณ์ของฮาซารอฟ มีขึ้นหลังจาก Dzerkalo สื่อที่ทรงอิทธิพลในยูเครนได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยูเครนวางแผนที่จะเข้าควบคุมจุดรปะะทะระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลยูเครน ซึ่งได้กลายเป็นสมรภูมิรบกลางเมืองหลวงของยูเครน
ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซียร์เกย์ ลาฟรอฟ ได้หนุนและเตือนว่า ระวังว่าการประท้วงในยูเครนจะลุกลามจนควบคุมไม่ได้ โดยเขาให้คำนิยามการประท้วงของกลุ่มผู้ฝักใฝ่อียูว่า “น่ากลัว และละเมิดต่อทุกมาตรฐานปฏิบัติที่อียูใช้”
ซึ่งการประท้วงนี้กินเวลายาวนานร่วม 2 เดือนแล้วหลังจากที่ประธานาธิบดีวิกตอร์ ยานูโควิช แห่งยูเครน ไม่ทำข้อตกลงการค้ากับกลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนชาวยูเครนที่ฝักใฝ่ในสหภาพยุโรป
การปะทะได้เกิดขึ้นที่กลางกรุงเคียฟจนกระทั่งรุ่งเช้าเมื่อวานนี้ (21) โดยที่เหล่าฝูงม็อบได้ปาระเบิดขวด โมโลตอฟ ค็อกเทล และก้อนหินเข้าใส่ตำรวจปราบจลาจลยูเครนที่ตอบโต้กลุ่มผู้ประท้วงกลับด้วย ระเบิดส่องสว่าง (stun grenade) ที่ทำให้มีเสียงดังและแสงเกิดขึ้น กระสุนยาง และแก๊สน้ำตา ในขณะที่สถานการณ์ในช่วงกลางวันเมื่อวานนี้ (21) ดูสงบ แต่การปะทะเริ่มเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงกลางดึกของวันอังคาร (21) นักข่าวเอเอฟพีประจำกรุงเคียฟรายงาน
“หากกลุ่มผู้ประท้วงไม่หยุดการยั่วยุ ทางเจ้าหน้าที่คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้อง “ใช้กำลัง” ภายใต้กฎหมายประท้วงฉบับใหม่เพื่อให้ประชาชนยูเครนมั่นใจในความปลอดภัย” ฮาซารอฟให้สัมภาษณ์กับ Vesti 24 สถานีโทรทัศน์ข่าวของรัสเซียที่มีรัฐบาลรัสเซียเป็นเจ้าของ
กฎหมายฉบับใหม่ที่ห้ามการประท้วงเกือบทุกรูปแบบ ได้รับการเผยแพร่อย่างเป็นทางการในหนังสือพิมพ์ของรัฐสภายูเครนแล้วในวันอังคาร โดยมีบทลงโทษจำคุกผู้ที่กีดขวางการเข้าออกอาคารสาธารณะ สูงสุด 5 ปี และให้อำนาจเจ้าหน้าที่ “จับกุมผู้ประท้วงที่สวมหน้ากากหรือหมวกปกปิดใบหน้า” อีกทั้งยังห้ามการใส่ร้ายป้ายสีบนอินเทอร์เน็ต
นอกจากนี้ ฮาซารอฟยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมอีกว่า เขาหวังว่าจะไม่ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ในการเข้าสลายม็อบ “จากสามัญสำนึกทางรัฐบาลยูเครนหวังว่า กลุ่มผู้ประท้วงต้องเข้าใจว่าพวกเขากำลังกำลังยื่นงื่อนไขความรุนแรงให้กับทางเจ้าหน้าที่รัฐเข้าจัดการ”