รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คนในวันอาทิตย์ (26) จากเหตุรุนแรงในกรุงบังกี สาธารณรัฐแอฟริกากลาง ขณะที่บรรดานักรบของกลุ่มกบฏมุสลิม “เซเลกา” เริ่มถอนกำลังออกจากเมืองหลวงแห่งนี้ที่เป็นบ้านของประชากรมากกว่า 734,350 ชีวิต
ประชาชนในแอฟริกากลางเกือบ 1 ล้านคน หรือราว 1 ใน 4 ของประชากรทั้งประเทศ ต้องละทิ้งบ้านเรือนของตนเพื่อหนีภัยการสู้รบภายในประเทศนับตั้งแต่ที่กลุ่มกบฏมุสลิมเซเลกา ทำการยึดอำนาจจากรัฐบาลของอดีตอาณานิคมฝรั่งเศสแห่งนี้เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ขณะที่กลุ่มติดอาวุธของชาวคริสต์ที่ถือเป็นชนส่วนใหญ่ของประเทศได้เริ่มจับอาวุธขึ้นต่อสู้กับกบฏมุสลิมเซเลกาในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประเมินว่า มีผู้ถูกสังหารในสาธารณรัฐแอฟริกากลางไปแล้ว มากกว่า 2,000 คน ขณะที่ทหารของฝรั่งเศส และกองกำลังรักษาสันติภาพขององค์การเอกภาพแอฟริกันที่ถูกส่งเข้ามาในประเทศนี้ก็ประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการควบคุมสถานการณ์และยุติเหตุนองเลือด
ล่าสุดในวันอาทิตย์ (26) อองตวน เอ็มบาโอ โบโก ประธานสภากาชาดแอฟริกากลางเผยว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 8 ราย รวมถึงสตรีรายหนึ่งที่ถูกเชือดคอในกรุงบังกี และพบผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 7 รายจากเหตุรุนแรงทางศาสนา
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า บรรดาแม่ทัพนายกองของพวกกบฏมุสลิมเซเลกา ได้ทยอยเดินทางด้วยขบวนรถนับสิบคันออกจากกรุงบังกีแล้ว โดยไม่ทราบจุดหมายปลายทางที่แน่ชัด โดยมีกองกำลังทหารจากประเทศเพื่อนบ้านอย่าง “ชาด” ที่เป็นส่วนหนึ่งในกองกำลังรักษาสันติภาพขององค์การเอกภาพแอฟริกัน คอยติดตามคุมเชิงอย่างใกล้ชิด
ความเคลื่อนไหวล่าสุดในสาธารณรัฐแอฟริกากลางซึ่งรวมถึงการถอนตัวออกจากเมืองหลวงของพวกนักรบเซเลกา มีขึ้นหลังจากที่เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วนางแคเธอรีน ซัมบา-ปันซา นายกเทศมนตรีกรุงบังกี ได้เข้าทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศ แทนที่มิเชล โฌโตเดีย อดีตผู้นำกลุ่มเซเลกาที่ยอมสละอำนาจเมื่อ 10 มกราคม หลังถูกกดดันหนักจากนานาชาติ จากความล้มเหลวที่เขาไม่สามารถยุติการฆ่าฟันระหว่างชาวคริสต์กับชาวมุสลิมในประเทศได้
ขณะที่นางซัมบา-ปันซา ผู้นำหญิงที่เพิ่งก้าวขึ้นครองอำนาจประกาศจะเดินหน้าเจรจากับทุกฝ่ายเพื่อนำสันติสุขกลับคืนมา