เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ยอดผู้เสียชีวิตที่ตกเป็นเหยื่อสังหารโหดของกลุ่มกบฏมุสลิม “เซเลกา” ในกรุงบังกี เมืองหลวงของสาธารณรัฐแอฟริกากลางได้เพิ่มเป็นเกือบ 1,000 คนแล้ว หลังเริ่มเกิดความรุนแรงเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ เป็นการเปิดเผยขององค์การนิรโทษกรรมสากลในวันพฤหัสบดี (19)
ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดที่พุ่งสูงเกือบ 1,000 คนตามข้อมูลขององค์การนิรโทษกรรมสากลนั้น ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการคาดการณ์ขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ก่อนหน้านี้ที่ระบุ ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงในอดีตดินแดนอาณานิคมของฝรั่งเศสแห่งนี้ น่าจะมีจำนวนประมาณ 600 ราย โดยแบ่งเป็นราว 450 รายในกรุงบังกี และอีกราว 150 รายในพื้นที่อื่นของประเทศ
รายงานข่าวระบุว่า ต้นตอของความรุนแรงล่าสุดเกิดขึ้นเพราะกองกำลังติดอาวุธของชาวคริสต์ได้ก่อเหตุบุกสังหารชายชาวมุสลิมในหลายเขตของกรุงบังกี เป็นเหตุให้มีชายชาวมุสลิมถูกพวกชาวคริสต์สังหารไปอย่างน้อย 60 ราย
จากนั้นบรรดาสมาชิกของอดีตกลุ่มกบฏมุสลิม “เซเลกา” ที่เคยเคลื่อนไหวต่อสู้กับรัฐบาลมาก่อนหน้านี้ แต่ได้ยุติบทบาทไปตั้งแต่ช่วงกลางปี ได้ตัดสินใจจับอาวุธอีกครั้งและลงมือก่อเหตุสังหารหมู่ชาวคริสต์เพื่อเป็นการ “แก้แค้น” โดยจำนวนผู้ที่ถูกพวกมุสลิมเซเลกาสังหารนั้นได้พุ่งสูงเป็นเกือบ 1,000 คน ภายในระยะเวลาเพียง 2 วัน
ความรุนแรงระลอกล่าสุดในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ส่งผลให้ดินแดนแห่งนี้ กลับเข้าสู่วังวนแห่งความขัดแย้งอีกครั้ง หลังจากที่รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โบซิเซ ถูกกลุ่มกบฏมุสลิมโค่นอำนาจเมื่อเดือนมีนาคมก่อนที่กลุ่มเซเลกาจะประกาศยุติบทบาทของตนในเวลาต่อมา
แม้สถานการณ์โดยทั่วไปในสาธารณรัฐแอฟริกากลางหลังจากที่รัฐบาลของโบซิเซถูกโค่นอำนาจ จะค่อนข้างสงบเรียบร้อย แต่ก็เกิดความรุนแรงขึ้นเป็นระยะโดยเฉพาะการปะทะกันของกลุ่มติดอาวุธชาวคริสต์กับชาวมุสลิม เป็นเหตุให้องค์การสหประชาชาติต้องร้องขอให้ฝรั่งเศสที่เป็นอดีตประเทศเมืองแม่ส่งทหารจำนวน 1,600 นายเข้ามาช่วยควบคุมสถานการณ์
ด้านกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรต์วอทช์ เผยว่า ขณะนี้เฉพาะที่เมืองบอสซังกัว ทางภาคเหนือของประเทศเพียงแห่งเดียว ก็มีชาวคริสต์มากกว่า 40,000 คนแล้วที่ต้องละทิ้งบ้านเรือนของตน หลบหนีการล้างแค้นของพวกนักรบมุสลิม ส่งผลให้สาธารณรัฐแอฟริกากลางกำลังเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี