xs
xsm
sm
md
lg

ฝรั่งเศสเตรียมเพิ่มกำลังทหารในอดีตอาณานิคม “แอฟริกากลาง” ช่วยปกป้อง รบ.จากพวกกบฏมุสลิม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นิโกลาส์ ติอองกาเย นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐแอฟริกากลาง
รอยเตอร์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ฝรั่งเศสเตรียมเพิ่มจำนวนกำลังทหารของตนในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง เป็น 1,200 นาย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลสถานการณ์ด้านความมั่นคงในอดีตดินแดนอาณานิคมของตน ทั้งนี้ เป็นการเปิดเผยของนายกรัฐมนตรีแอฟริกากลางในวันจันทร์ (25)

นิโกลาส์ ติอองกาเย นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐแอฟริกากลางออกมาเปิดเผยที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสในวันจันทร์ (25) หลังพบหารือกับโลรองต์ ฟาบิอูส์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส โดยระบุ รัฐบาลฝรั่งเศสภายใต้การนำของประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ โอลลองด์ มีแผนเพิ่มกำลังทหารจากแดนน้ำหอมในแอฟริกากลางเป็นราว 3 เท่าตัวจากระดับปัจจุบัน และการเสริมกำลังดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการทันทีหลังจากที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ลงมติสนับสนุนในสัปดาห์หน้า

“เราได้หารือกันถึงประเด็นด้านความมั่นคง โดยฝรั่งเศสซึ่งมีกำลังทหารอยู่ในกรุงบังกี เมืองหลวงของเราแล้ว 410 นายจะเพิ่มกำลังทหารเป็นราว 1,200 นาย หรืออาจมากกว่านั้นหากมีความจำเป็น” ติอองกาเยกลาวต่อผู้สื่อข่าวที่กรุงปารีส

ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นหลังจากที่สาธารณรัฐแอฟริกากลางซึ่งเป็นดินแดนที่มั่งคั่งไปด้วยทรัพยากรแร่ธาตุจำนวนมากแต่ติดอันดับประเทศที่ยากจนข้นแค้นที่สุดในโลก ต้องเผชิญกับวิกฤตด้านความมั่นคงครั้งเลวร้าย หลังจากที่กลุ่มกบฏ “เซเลกา” ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักรบที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านทั้งซูดานและชาด ทำการโค่นอำนาจของประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ โบซิเซ เมื่อเดือนมีนาคม จนส่งผลให้แอฟริกากลางที่เป็นบ้านของประชากรราว 4.6 ล้านคนก้าวเข้าสู่ภาวะไร้เสถียรภาพที่สุดในรอบหลายปี

ทั้งนี้ กลุ่มกบฏเซเลกาซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกนักรบมุสลิมหัวรุนแรง ถูกระบุว่า เป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่ใหญ่หลวงที่สุดของแอฟริกากลางที่มีประชากรนับถือศาสนาคริสต์กว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ ขณะที่ประชากรมุสลิมในประเทศนี้มีเพียง 15 เปอร์เซ็นต์

นายกรัฐมนตรีติอองกาเยของแอฟริกากลางเผยว่า กำลังทหารชุดใหม่ของฝรั่งเศส จะช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับทางหลวงสายหลักของประเทศที่เชื่อมต่อระหว่างกรุงบังกี กับประเทศเพื่อนบ้านคือ แคเมอรูน เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวมีความสำคัญยิ่งต่อการขนส่งลำเลียงอาหารและสินค้าต่างๆเข้ามายังแอฟริกากลาง ซึ่งไม่มีทางออกสู่ทะเล

ก่อนหน้านี้ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ผ่านร่างมติที่เปิดทางให้ฝรั่งเศสสามารถเข้าแทรกแซงสถานการณ์ในแอฟริกากลางได้ หลังจากเป็นที่แน่ชัดว่า รัฐบาลของแอฟริกากลางไม่สามารถปกป้องตนเองจากภัยคุกคามของพวกกบฏมุสลิมได้

ข้อมูลจากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯประเมินว่ามีประชาชนเกือบ 400,000 คน อพยพหนีภัยการสู้รบในแอฟริกากลาง โดยมีกว่า 68,000 คนที่หนีเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่โดยรอบจนก่อให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เลวร้าย





กำลังโหลดความคิดเห็น