เอเอฟพี - ซีเรียกร้าวจะปฏิเสธผลสรุปที่มีอคติใดๆของสหประชาติต่อข้อกล่าวหาใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าพลเรือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนผลวิเคราะห์อย่างสมบูรณ์จะออกมา สถานีโทรทัศน์แห่งรัฐรายงานวันศุกร์(30) ขณะที่จีน ก็ย้ำกับฝรั่งเศสว่าจำเป็นต้องรอผลสอบสวนของยูเอ็นเพื่อสนับสนุนข้อกล่าวหาที่มีต่อรัฐบาลประนาธิบดีอัสซาด หลังจากก่อนหน้านี้ผู้นำของปารีส ยืนยันว่าจะเดินหน้าโจมตีแม้อังกฤษ ชาติพันธมิตรถูกคัดค้านจากรัฐสภา
สำนักข่าวแห่งรัฐรายงานโดยอ้างคำกล่าวที่นายวาลิด มูอัลเลม รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย บอกกับนายบันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติผ่านโทรศัพท์ว่าประเทศของตนขอปฏิเสธรายงานที่มีอคติใดๆของเลขาธิการสหประชาชาติก่อนคณะผู้ตรวจสอบจะเสร็จสิ้นภารกิจและผลวิเคราะห์ตัวอย่างเป็นที่กระจ่างชัดแล้ว
เวลานี้คณะผู้ตรวจสอบของสหประชาชาติอยู่ในซีเรียและกำลังตรวจสอบข้อกล่าวหามีการใช้อาวุธเคมีโจมตีแถบชานกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม และทางคณะมีกำหนดเดินทางออกจากซีเรียในตอนเช้าวันเสาร์(31) ก่อนจะเข้ารายงานเรื่องนี้โดยตรงกับนายบัน
ทั้งนี้พวกเขาจะส่งหลักฐานสำคัญที่รวบรวมมาได้ระหว่างลงตรวจสอบพื้นที่ที่ถูกกล่าวอ้างว่ามีการใช้อาวุธเคมีและพื้นที่อื่นๆ ให้กับห้องปฏิบัติการเพื่อนำไปวิเคราะห์อย่างสมบูรณ์ต่อไป ซึ่งขั้นตอนนี้คาดหมายว่าน่าจะใช้เวลาหลายสัปดาห์
รัฐบาลชาติตะวันตกกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของรัฐบาลนายบาชาร์ อัล-อัสซาด แต่ประธานาธิบดีรายนี้ปฏิเสธอย่างแข็งกร้าว พร้อมกับกล่าวโทษว่าฝ่ายกบฏคือผู้อยู่เบื้องหลัง ขณะเดียวกันก็เริ่มมีคำถามมากขึ้นเรื่อยๆเกี่ยวกับคุณภาพของข้อมูลข่าวกรองที่เชื่อมโยงนายอัสซาดกับการโจมตีดังกล่าว และหลายฝ่ายแนะนำว่าชาติตะวันตกควรรอผลวิเคราะห์ของสหประชาชาติ ก่อนที่จะตัดสินใจปฏิบัติการลงโทษทางทหารต่อซีเรีย
ในความไม่ชัดเจนนี้เองจึงมีรายงานว่านายบัน ตัดสินใจตัดทอนโปรแกรมเยือนยุโรป และจะเข้าพบกับผู้แทนของอังกฤษ จีน ฝรั่งเศส รัสเซียและสหรัฐ 5 ชาติสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันศุกร์(30) เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตอาวุธเคมีซีเรีย "เขามีความตั้งใจนัดหมายพูดคยกับชาติสมาชิกต่อสถานการณ์ในซีเรีย ซึ่งจะเริ่มในช่วงบ่ายวันนี้เลย(16.00จีเอ็มที ตรงกับเมืองไทย 23.00น.) ด้วยการพบปะกับสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงฯ" มาร์ติน เนเซอร์กีกล่าว
สหรัฐฯและชาติพันธมิตรตะวันตก กำลังพิจารณาใช้กำลังทหารโจมตีซีเรีย แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกคัดค้านอย่างดุเดือดจากทั้งรัสเซียและจีน โดยในวันศุกร์(30) นายหวัง ยี่ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หารือประเด็นวิกฤตซีเรียกับโลรองต์ ฟาเบียส รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส พร้อมกับย้ำว่าข้อกล่าวหาใดๆต่อการใช้อาวุธเคมีจำเป็นต้องมีหลักฐานจากการสืบสวนของคณะผู้ตรวจสอบของยูเอ็นสนับสนุนเสียก่อน
คำพูดของนายหวัง ยี่ มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ โอลลองด์ ยืนยันว่าการที่สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษคัดค้านมติส่งกองทหารเข้าโจมตีซีเรีย จะไม่กระทบกระเทือนต่อเจตนารมณ์ของฝรั่งเศส ที่จะปฏิบัติการโจมตีรัฐบาลของบาชาร์ อัล-อัสซาด เพื่อลงโทษที่ใช้อาวุธเคมีทำร้ายประชาชน
โอลลองด์ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์รายวันเลอมงด์ว่า เขาจะยังคงสนับสนุนให้มีปฏิบัติการลงโทษ “ที่หนักแน่น” ต่อรัฐบาลซีเรียที่ก่อให้เกิดอันตราย “อย่างไม่อาจแก้ไขฟื้นฟูได้” ต่อประชาชนชาวซีเรีย และกล่าวว่าเขาจะร่วมทำงานกับบรรดาชาติพันธมิตรของฝรั่งเศสอย่างใกล้ชิด ความคิดเห็นนี้ถือเป็นการเพิ่มแรงฮึดต่อแผนของสหรัฐฯ หลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลอังกฤษ ปฏิเสธความเกี่ยวข้องใดๆต่อปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย
อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีต่างประเทศของจีนย้ำกับฝรั่งเศสว่าจำเป็นต้องมีหลักฐานที่มั่นคงว่าใครเป็นคนใช้อาวุธเคมี พร้อมกับเรียกร้องให้วางตัวอย่างระมัดระวังต่อประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสงครามและสันติภาพ กระนั้นทางฝ่ายนายฟาเบียส เร่งเร้าให้ยูเอ็นเร่งมือการสืบสวนและยืนยันถึงมุมมองของฝรั่งเศสที่ว่าประชาคมนานาชาติควรใช้มาตรการที่จำเป็นตอบโต้การใช้อาวุธเคมีใดๆ