เอเอฟพี - โครงการสอดแนมข้อมูลโทรศัพท์ โดยสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) ละเมิดความเป็นส่วนตัวของพลเมืองอเมริกันจนอาจเข้าขั้นขัดรัฐธรรมนูญ ผู้พิพากษาศาลสหรัฐฯ มีคำวินิจฉัยวานนี้ (16)
ตำคัดสินของผู้พิพากษาศาลแขวงวอชิงตัน ยังเปิดโอกาสให้มีการอุทธรณ์ได้ แต่หากศาลอุทธรณ์ยืนตามคำตัดสินนี้ เอ็นเอสเอ อาจถูกสั่งห้ามมิให้กระทำการรวบรวมข้อมูลโทรศัพท์ของพลเมืองนับล้านโดยไม่เลือกหน้าอีก
แม้คำตัดสินยังไม่ถือเป็นที่สุด แต่ก็ทำให้ เอ็นเอสเอ ต้องเตรียมต่อสู้คดีที่คาดว่าจะยืดเยื้อเพื่อปกป้องเครือข่ายสอดแนมที่โยงใยสู่หลายประเทศทั่วโลก ขณะที่อดีตพนักงานจอมแฉ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ก็ไม่รอช้าที่จะใช้คำพิพากษานี้ยืนยันสถานะตนเองว่าเป็น “ผู้เปิดโปงความจริง” มิใช่คนทรยศที่เป็นภัยต่อประเทศชาติดังที่รัฐบาลสหรัฐฯ อ้าง
“ผมไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า จะมีอะไรที่เป็นการรุกล้ำอย่างกว้างขวาง และกำกวมเท่ากับการรวบรวมข้อมูลสื่อสารของพลเมืองแต่ละบุคคลด้วยระบบสอดแนมไฮเทคนี้” ผู้พิพากษา ริชาร์ด เลียน กล่าว พร้อมระบุว่า แม้แต่อดีตประธานาธิบดี เจมส์ แมดิสัน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่างรัฐธรรมนูญอเมริกันก็จะต้อง “ตกตะลึง” หากทราบว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ทุกวันนี้ละเมิดความเป็นส่วนตัวของประชาชนราวกับ “เผด็จการออร์เวล”
แลร์รี เคลย์แมน และ ชาร์ลส สเตรนจ์ ทำหน้าที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องรัฐบาลประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ หลังจาก สโนว์เดน เปิดโปงเครือข่ายสอดแนมที่กว้างขวางของเอ็นเอสเอ
เอกสารลับที่ สโนว์เดน วัย 30 ปี มอบให้หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน ของอังกฤษ ระบุว่า เอ็นเอสเอ มีคำสั่งให้บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เวอไรซอน ส่งมอบข้อมูล “เมตะดาตา” ของลูกค้า เช่น วันเวลา สถานที่ ปลายทาง แต่ไม่รวมเนื้อหาของการสนทนา และต่อมา สโนว์เดน ยังได้เผยแพร่เอกสารฉบับอื่นๆ ที่ยืนยันว่า ผู้ให้บริการโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ตอีกหลายรายให้ความร่วมมือกับ เอ็นเอสเอ โดยส่งมอบข้อมูลของลูกค้าทั้งใน และต่างประเทศแก่หน่วยงานนี้
คำตัดสินของผู้พิพากษา เลียน จะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่สามารถสอดแนมข้อมูลเมตะดาตาได้อีกโดยปราศจากคำสั่งศาล แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้สั่งให้งดเว้นกระทำการโดยสิ้นเชิง (injunction) ซึ่งก็แปลว่า คงจะมีการยื่นอุทธรณ์กันต่อไป
สหรัฐฯ ประณามการกระทำของ สโนว์เดน ว่าไม่ต่างจากคนทรยศชาติ และชี้ว่าการเก็บรวบรวมข้อมูลเมตะดาตา ซึ่งหมายถึง เวลา ระยะเวลาการโทร. และเลขหมายปลายทาง ไม่เป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ขณะที่หัวหน้าหน่วยข่าวกรองก็อ้างเหตุผลสนับสนุนว่า การเชื่อมโยงข้อมูลโทรศัพท์เหล่านี้ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถสกัดกั้นภัยคุกคามต่ออเมริกาได้แล้วหลายครั้ง
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (13) คณะทำงานของรัฐบาลได้ส่งรายงานลับว่าด้วยการทบทวนโครงการสอดแนมระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ เอ็นเอสเอ ต่อประธานาธิบดี โอบามา โดยได้ให้คำแนะนำกว่า 40 ข้อเพื่อป้องกัน และจำกัดขอบเขตการสอดแนมให้แคบลง
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าสหรัฐฯ คงจะยังไม่จำกัดภารกิจของ เอ็นเอสเอ ลงมากนัก แม้จะต้องเสี่ยงกับความโกรธเกรี้ยวของชาติพันธมิตรก็ตาม อีกทั้ง สโนว์เดน ซึ่งเป็นผู้แฉความลับก็ยังหลบหนีลอยนวลอยู่ในความคุ้มกันของรัสเซีย