xs
xsm
sm
md
lg

“บก.ข่าว เดอะการ์เดียน” แจง คณะกรรมาธิการสภาล่างอังกฤษ “เผยแพร่ข้อมูลจากเอกสารลับสโนว์เดนแค่ 1%”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้(3) อลัน รัสบริดเจอร์ บรรณาธิการข่าวของเดอะ การ์เดียน ได้กล่าวปกป้องสำนักพิมพ์เดอะการ์เดียนในการเข้าชี้แจงกับ คณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฏร์อังกฤษด้านนโบาย การเงิน และ การกำกับดูแลกิจการภายใน (Home Affairs Select Committee) ว่า มีเพีงแค่ 1% เท่านั้นที่ทางสำนักพิมพ์ได้เผยแพร่ข้อมูลที่ได้รับจากเอกสารลับของ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตนักวิเคราะห์ข้อมูลของNSA สหรัฐฯ

บรรณาธิการข่าวแห่งหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน อลัน รัสบริดเจอร์ ได้เข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฏรอังกฤษด้านนโบาย การเงิน และ การกำกับดูแลกิจการภายใน (Home Affairs Select Committee) ว่า หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนไม่ใช่หนังสือพิมพ์ที่ขาดหลักการ โดยรัสบริดเจอร์ยืนยันว่า “เดอะการ์เดียน” นั้น “รักชาติ” และตัวเขาเชิดชูระบอบประชาธิปไตยแบบอังกฤษและเสรีภาพของสื่อ

ทางด้านโฆษกรัฐบาลอังกฤษกล่าวภายหลังว่า ทางรัฐบาลของ เดวิด คาเมรอน ยังคงเชื่อมั่นว่าการตีพิมพ์เอกสารลับของหน่วยงาน NSAนั้นถือเป็นบ่อนทำลายความมั่นคงอังกฤษ

ซึ่งรัสบริดเจอร์กล่าวโต้ว่า บรรดาข้าราชการอังกฤษ รัฐบาลสหรัฐฯ และคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาสูงสหรัฐฯ ได้บอกกับทางเดอะการ์เดียนเองว่า “ยังไม่มีความเสียหาย” อะไรเกิดขึ้นหลังจากที่ได้ตีพิมพ์ไปแล้ว นอกจากนี้เขากล่าวต่อไปว่า การวิพากษ์เกี่ยวกับควมมั่นคงอังกฤษว่าได้ตกอยู่ในอันตรายนั้นออกมาจากปากผู้อำนวยการหน่วยงานความมั่นคงอังกฤษ GCHQ ที่แจงข้อมูลกับคณะกรรมาธิการคนละชุดกันในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมันเป็นการกล่าวหาที่ “ไร้น้ำหนักและไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้องอย่างแท้จริงง” และเขายังกล่าวต่อไปว่า “มีมุมมองที่หลากหลายสำหรับเรื่องนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะประเมินเพราะไม่มีใครสามารถแสดงหลักฐานที่แท้จริงออกมา ”

และต่อคำถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ คีธ วาซ ที่ว่า บรรณาะการข่าวแห่งเดอะการ์เดียนผู้นี้รักชาติหรือไม่ รัสบริดเจอร์กล่าวตอบว่า “ผมรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่ถูกถามด้วยคำถามลักษณะแบบนี้” โดยรัสบริดเจอร์ยืนยันว่า “เขาและเดอะการ์เดียนรักชาติ และสิ่งหนึ่งที่พวกเขารักและจงรักภักดีต่ออังกฤษคือ “ลักษณะประชาธิปไตยแบบอังกฤษ” และสื่อเสรี ซึ่งความจริงแล้วนั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมคนในสังคมอังกฤษจึงสามารถที่จะถกเถียงและรายงานเอกสารลับพวกนี้ได้”

นอกจากนี้รัสบริดเจอร์ยังเสริมต่อว่า “ยังมีอีกหลายประเทศที่ยังไม่ได้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่สื่อไม่มีอิสระมากพอที่จะพิมพ์เกี่ยวกับเรื่องนั้นเรื่องนี้ได้ และยังคงเป็นประเทศที่ทางราชการต้องคอยกำกับบก.ข่าวของสำนักพิมพ์ว่าต้องลงข่าวประเภทไหนบ้าง แต่นั่นไม่ใช่อังกฤษที่พวกเขาอาศัยอยู่ … และมันเป็นหนึ่งในอีกหลายสิ่งที่พวกเขา “เดอะการ์เดียน” รักในอังกฤษ”

และรัสบริดเจอร์ยังกล่าวต่อไปว่า เขาไม่ใช่ทนายความ ดังนั้นจึงไม่สามารถตอบคำถามที่ตั้งโดยสส.พรรคอนุรักษ์นิยมอังกฤษ ไมเคิล เอลลิส ได้ เกี่ยวกับว่าตัวเขาตระหนักหรือไม่ว่าได้ละเมิดกฏหมายก่อการร้ายของอังกฤษโดยการแชร์ข้อมูลที่แสดงรายชื่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงต่างชาติกับหนังสือพิมพฉบับอื่น โดยรัสบริดเจอร์ยืนยันว่า ทางสำนักพิมพ์มี “วิจารญาณเป็นของตนเอง” ในการเลือกที่จะตีพิมพ์จากไฟล์ข้อมูลของสโนว์เดน และไมุเคยเปิดเผยชื่อเจ้าหน้าที่ความมั่นคงใดๆ

“เดอะการ์เดียนได้พิพม์แค่ 26 เรื่อง จากทั้งหมด 58,000 เรื่องที่ผมเห็น” โดยรัสบริดเจอร์ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ข้อมูลที่ลงตีพิมพ์ใน เดอะการ์เดียน, นิวยอร์กไทม์ , วอชิงตันโพสต์ และแดร์ ชปีเกิล นั้นล้วนเป็นเรื่องราวที่ต้องการให้สังคมโลกตั้งคำถามถึงขอบเขตการหาข่าวของฝ่ายความมั่นคง และรวมไปถึงเปิดโปงข้อจำกัดของกฏหมายที่เกิดขึ้นก่อนยุคเอินเตอร์เนตเฟื่องฟู

เรื่องที่หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนเปิดโปงนั้นรวมไปถึง การที่หน่วยความมั่นคงสามารถแอบสอดแนมเครือข่ายการสื่อสารอินเตอร์เนตของบุคคลธรรมดา รวมไปถึงการที่ หน่วยงานNSAสหรัฐฯดักฟังโทรศัพท์ของเหล่าผู้นำ 35 ชาติ และสถานทูตต่างประเทศได้ตกเป็นเป้าหมายดักฟังของสายลับจากสหรัฐฯ เป็นต้น โดยรัสบริดเจอร์ยืนยันว่า “ทางหนังสือพิมพ์ได้ทำสิ่งที่การกำกับดูแลนั้นล้มเหลวลง”

นอกจากนี้ บรรณาธิการข่าวของเดอะ การ์เดียนยังกล่าวต่อไปว่า “หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนอยู่ภายใต้การกดดันจากเจ้าหน้าที่อังกฤษ ซึ่งเป็นสิ่งที่ “ไม่คาดฝัน” ว่าจะเกิดขึ้นได้ในสหรัฐฯ นอจากนี้เขายังให้ข้อมูลต่อคณะกรรมธิการว่า “มีข้อมูลเกี่ยวกับ อิรัก อัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางเรา “เดอะการ์เดียน” ไม่เคยคิดที่จะสนใจ และนั่นไม่ใช่สิ่งที่ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ทำเมื่อเขาต้องการให้นักข่าวที่มีความรับผิดชอบได้เข้าถึงเอกสารลับที่สำคัญ ซึ่งทางสำนักพิมพ์ทำงานอย่างรอบคอบมาก และรับผิดชอบในการเข้าถึงเอกสารลับชิ้นนี้ พร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่เก่งที่สุดในโลก และแหล่งข่าวจากหน่วยงานและรัฐบาลจำนวนนับร้อย ซึ่งทางสำนักพิมพ์จะยังคงขอคำปรึกษากับพวกเขาแต่ทางสำนักพิมพ์จะไม่หยุดเพียงเพราะรู้สึกโดนคุกคาม แต่กระนั้นจะยังทำงานด้วยความไม่ประมาท”

และในแถลงการณ์หลังจากการเข้าให้ปากคำได้สิ้นสุดลง โฆษกของคณะกรรมาธิการกล่าวว่า “ไม่มีสิงใดที่ทางคณะกรรมาธิการได้จากการเข้าให้ปากคำของ อลัน รัสบริดเจอร์ จะสามารถทำให้เปลี่ยนจุดยืนของรัฐบาลอังกฤษไปได้ การตีพิมพ์ของหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน และข้อมูลลับที่ทางสำนักพิมพ์ได้เก็บไว้นั้นได้ส่งผลอันตรายต่อความมั่นคงอังกฤษที่จะสามารถเป็นไปได้”

หลังจากนั้นผู้บัญชาการตำรวจสก็อตแลนด์ยาร์ด เครสซิดา ดิก ได้กล่าวกับคณะกรรมาธิการว่า เขาได้ตรวจเอกสารที่ได้ยึดมาจากคู่สมรสของอดีตนักข่าวเดอะการ์เดียน เกลน กรีนวาล์ด ที่สนามบินนานาชาติฮีทโธรว์ อังกฤษ ในเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมาเพื่อดูว่าจะมีความเป็นไปได้ที่จะแจ้งข้อกล่าวหาหากมีการทำกระทำผิดเกิดขึ้น
“สโนว์เดน” ยืนยัน “ไม่ได้นำเอกสารลับเข้ารัสเซีย  - เลือกสื่อเพราะไม่ไว้ใจ “การตรวจสอบภายในรัฐบาลสหรัฐฯ”
“สโนว์เดน” ยืนยัน “ไม่ได้นำเอกสารลับเข้ารัสเซีย - เลือกสื่อเพราะไม่ไว้ใจ “การตรวจสอบภายในรัฐบาลสหรัฐฯ”
อดีตนักวิเคราะห์ข้อมูลNSA เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดนได้เผยผ่านการสัมภาษณ์พิเศษของหนังสือพิมพ์ นิวยอร์กไทม์ เมื่อวานนี้(17)ว่า เขาไม่ได้นำเอกสารลับของหน่วยงาน NSA เข้ารัสเซีย และยืนยันว่าสายลับจีนและรัสเซียไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลพวกนี้ได้ ในขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนเผยว่า สโนว์เดนเลือกที่จะเปิดเผยความลับโครงการแดรกเนต (Dragnet) ของ NSA กับสื่อมากกว่าที่จะร้องเรียนตามขั้นตอนของการตรวจสอบภายในของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยอ้างว่า “กลัวถูกสหรัฐฯทำลายและความลับที่ต้องการเปิดเผยจะโดนฝังไปพร้อมกัน”
กำลังโหลดความคิดเห็น