เอเจนซีส์ - ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ตามรอยเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-52 ของอเมริกัน โดยต่างเรียงหน้าออกมาแถลงในวันพฤหัสบดี (28 พ.ย.) ว่า ได้ส่งเครื่องบินทหารของพวกตนบินผ่านบริเวณที่จีนประกาศเป็นเขตป้องกันภัยทางอากาศในทะเลตะวันออก ขณะที่สื่อแดนมังกรหัวเสีย และพยายามกดดันให้ปักกิ่งใช้มาตรการแข็งกร้าวจัดการผู้ล่วงละเมิด ส่วนทางด้านฟิลิปปินส์แสดงความวิตกพญามังกรสยายปีกควบคุมน่านฟ้าเสรีเหนือทะเลจีนใต้ต่อ
เขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) เหนือทะเลจีนตะวันออกที่จีนประกาศบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (23) ครอบคลุมหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ที่จีนอ้างสิทธิ์ แต่อยู่ในความควบคุมของญี่ปุ่นซึ่งเรียกชื่อว่า เซงกากุ
ทั้งนี้ เขต ADIZ ไม่ใช่น่านฟ้าหรือเขตอธิปไตย และก็ไม่ใช่เขตห้ามบิน แต่เป็นมาตรการที่ชาติใหญ่จำนวนหนึ่งประกาศ โดยอ้างว่าเพื่อจุดประสงค์ที่จะมีเวลาเตรียมตัวรับมือเมื่อมีอากาศยานไม่ทราบฝ่ายบินตรงเข้ามา โดยที่สหรัฐฯได้ประกาศพื้นที่เช่นนี้รวม 4 เขต ได้แก่ รอบๆ ดินแดนของสหรัฐฯบนภาคพื้นทวีป, อะแลสกา, ฮาวาย, และเกาะกวม เช่นเดียวกับญี่ปุ่นซึ่งประกาศเขต ADIZ มาตั้งแต่ทศวรรษ 1960 รวมทั้งเพิ่งขยายเขตดังกล่าวไปทางตะวันตกอีกราว 22 ก.ม.เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาด้วย
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวเอเอฟพีบอกว่ามีข้อแตกต่างระหว่างเขต ADIZ ของจีนและญี่ปุ่นตรงที่ว่า แดนมังกรกำหนดให้เครื่องบินทุกลำที่บินผ่านเขตดังกล่าวของตนในทะเลจีนตะวันออก ต้องแสดงตนด้วยการระบุสัญชาติ ส่งแผนการบินให้จีน และคงการสื่อสารผ่านระบบวิทยุสองทางเอาไว้ ขณะที่แดนอาทิตย์อุทัยไม่ได้เรียกร้องเช่นนี้ เว้นแต่เครื่องบินที่กำลังจะลงจอดในญี่ปุ่น
ความเคลื่อนไหวเช่นนี้ของจีนจุดชนวนให้สหรัฐฯและญี่ปุ่นกล่าวหาแดนมังกรว่าแสดงพฤติการณ์ยั่วยุ ขณะที่ทั่วโลกต่างรู้สึกวิตกกังวลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทรวงกลาโหมอเมริกันยัง “ลองของ” ด้วยการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ บี-52 จำนวน 2 ลำ บินผ่านเหนือหมู่เกาะเซงกากุ โดยระบุว่าเป็นการฝึกซ้อมตามปกติ และไม่มีการแจ้งให้ฝ่ายจีนทราบล่วงหน้า ซึ่งปักกิ่งมิได้มีแสดงปฏิกิริยาตอบโต้เผชิญหน้าแต่อย่างใด
ถึงวันพฤหัสบดี (28) โยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งในระบบการเมืองของแดนปลาดิบถือเป็นตำแหน่งทรงอิทธิพลรองลงมาจากนายกรัฐมนตรีทีเดียว ได้แถลงว่า เครื่องบินตรวจการณ์ของกองกำลังรักษาชายฝั่ง และเครื่องบินเตือนภัยของกองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศ (กองทัพอากาศ) ญี่ปุ่น ได้ออกปฏิบัติการตามปกติในเขตดังกล่าวโดยไม่ได้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของปักกิ่ง และไม่พบปัญหาแต่อย่างใด
นอกจากนี้คณะกรรมการด้านนโยบายของพรรคลิเบอรัล เดโมเครติก ปาร์ตี้ของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ยังผ่านญัตติเรียกร้องให้จีนยกเลิก ADIZ เนื่องจากเป็นการสะท้อนลัทธิแผ่แสนยานุภาพอย่างไร้เหตุผล
ทางด้านกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงในวันเดียวกันว่า ไม่พบการต่อต้านเช่นกัน เมื่อเครื่องบินทหารของตนลำหนึ่งเข้าสู่เขต ADIZ ของปกกิ่งซึ่งทับซ้อนกับ ADIZ ของโซล ในวันอังคาร (26) ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ บี-52 สองลำของสหรัฐฯ บินผ่านเหนือหมู่เกาะเซงกากุ ทั้งนี้การท้าทายเช่นนี้ของของวอชิงตัน บังเกิดขึ้นก่อนที่รองประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเดินทางตระเวนเยือนเอเชียตะวันออกในสัปดาห์หน้า โดยเป็นที่แน่นอนว่า เขาจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นหารือด้วยในระหว่างแวะปักกิ่ง
ในส่วนของกระทรวงกลาโหมจีนนั้น ได้ออกคำแถลงหลังจากอเมริกาเปิดเผยถึงภารกิจของบี-52 ดังกล่าว 11 ชั่วโมงว่า กองทัพจีนได้ตรวจพบและติดตามตลอดระยะเวลาที่บี-52 บินผ่าน โดยที่มิได้มีการใช้ถ้อยคำอันแสดงถึงความเสียใจหรือความขุ่นเคืองใดๆ รวมทั้งไม่มีการข่มขู่ที่จะลงมือปฏิบัติการอะไร
อย่างไรก็ดี โกลบัล ไทมส์ หนังสือพิมพ์ที่ใกล้ชิดกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนและมักเสนอข่าวปลุกเร้ากระแสรักชาติ ได้ออกบทบรรณาธิการในวันพฤหัสบดี วิพากษ์วิจารณ์ปฏิกิริยาของกองทัพแดนมังกรว่า “เชื่องช้าเกินไป” พร้อมกับระบุว่าทางเจ้าหน้าที่จีนจำเป็นต้องแสดงปฏิกิริยาตอบโต้สงครามจิตวิทยาจากอเมริกา
ไชน่า เดลี่ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ของรัฐบาลจีน ก็กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของวอชิงตันเสี่ยงที่จะกระตุ้นพฤติกรรมกระหายสงครามของญี่ปุ่น รวมทั้งยั่วยุให้จีนและอเมริกาเผชิญหน้ากัน
นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศจีนยังตอบโต้ว่า วอชิงตันและโตเกียวสองมาตรฐาน เนื่องจากต่างก็ประกาศ ADIZ เช่นกัน ดังนั้น จึงควรหยุดกล่าวหาจีนโดยไม่รับผิดชอบ และสำทับว่า ผู้ยั่วยุตัวจริงคือญี่ปุ่น
แต่เมื่อถูกถามถึงเครื่องบินของเกาหลีใต้ ปรากฏว่า ฉิน กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนตอบว่า ปักกิ่งตรวจพบและติดตามเครื่องบินทุกลำที่บินผ่าน ADIZ
ฉินยังปฏิเสธคำขอของโซลให้ยกเลิก ADIZ เพียงแต่ย้ำว่า เขตดังกล่าวไม่ได้มีเป้าหมายที่จะขัดขวางเที่ยวบินพาณิชย์ระหว่างประเทศ
ในส่วนของโสมขาวนั้น รัฐมนตรีช่วยกลาโหม เบ็ก ซองจู แถลงในวันพฤหัสบดีว่า เกาหลีใต้เสียใจอย่างมากกับการประกาศ ADIZ ของจีน ซึ่งทำให้เกิดความตึงเครียดทางทหารในภูมิภาค
ทางด้านออสเตรเลีย ก็ได้ออกมาแถลงปฏิเสธไม่ยอมยุติการแสดงความเห็นวิจารณ์ ADIZ ของจีน หลังจากที่เมื่อต้นสัปดาห์นี้ได้เรียกเอกอัครราชทูตจีนเข้ารับฟังการประท้วง แล้วถูกทางการแดนมังกรตอบโต้อย่างโกรธเคือง
ส่วนที่กรุงมะนิลา อัลเบิร์ต เดล โรซาริโอ รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ ออกมาแสดงความกังวลว่า จีนอาจขยายการควบคุมน่านฟ้ามาถึงทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนมีกรณีพิพาทด้านอธิปไตยทั้งกับฟิลิปปินส์และอีกหลายประเทศในบริเวณดังกล่าว