สหรัฐฯ ลองของ ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดร่อนเหนือเขตป้องกันภัยทางอากาศจีน

เอเอฟพี - เครื่องบินทิ้งระเบิด บี-52 ของสหรัฐฯ 2 ลำ บินโฉบเฉี่ยวเหนือพื้นที่พิพาทในทะเลจีนตะวันออกโดยไม่ได้แจ้งต่อปักกิ่งแต่อย่างใด จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อเมริกาในวันอังคาร (26) ปฏิบัติการที่ถือเป็นการท้าทายความพยายามของจีน สำหรับกำหนดเขตควบคุมใหม่บนน่านฟ้าเสรี

เครื่องบินที่ไม่ได้บรรจุระเบิด เทคออฟจากเกาะกวมเมื่อวันจันทร์ (25) ส่วนหนึ่งของการฝึกฝนตามปกติในพื้นที่ จากนั้นทั้งสองลำก็มุ่งกลับสู่เกาะกวม “เมื่อคืนที่ผ่านมาเราดำเนินการฝึกบินตามแผนการบินระยะไกล มันเกี่ยวข้องกับเครื่องบิน 2 ลำที่บินออกจากเกาะกวมและจากนั้นก็วกกลับมาลงจอดที่เดิม” พันเอกสตีเฟน วาร์เรน โฆษกเพนตากอนบอกกับผู้สื่อข่าว

“ไม่มีการแจ้งแผนการบินล่วงหน้าแก่จีน และภารกิจก็ดำเนินไปโดยปราศจากเหตุการณ์ใดๆ” วาร์เรนกล่าว “เครื่องบินทั้ง 2 ลำใช้เวลาอยู่ในเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ที่ประกาศฝ่ายเดียวของจีนไม่ถึง 1 ชั่วโมงและไม่มีการเผชิญหน้ากับเครื่องบินจีนใดๆ” เขากล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีเสริมว่าเครื่องบินทั้ง 2 ลำ คือ เครื่องบินทิ้งระเบิด บี-52

จีนประกาศขยายขอบเขตป้องกันภัยทางอากาศท่ามกลางข้อพิพาทด้านอาณาเขตที่ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ กับญี่ปุ่นต่อการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะหนึ่งในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งทางญี่ปุ่นเรียกว่าหมู่เกาะเซงกากุ ส่วนจีนเรียกเตี้ยวอี๋ว์ ขณะเดียวกัน พื้นที่ดังกล่าวยังรวมไปถึงเขตน่านน้ำที่อ้างโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ ซึ่งทั้งสองชาติก็แสดงความไม่พอใจต่อความเคลื่อนไหวของปักกิ่งในครั้งนี้

ภายใต้เขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของจีน กำหนดให้เครื่องบินทุกลำที่บินผ่านพื้นที่น่านฟ้าทะเลจีนตะวันออกในบริเวณที่แดนมังกรกำหนด ต้องแสดงตัวตนด้วยการระบุสัญชาติ ส่งแผนการบิน และคงการสื่อสารผ่านระบบวิทยุสองทางเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวนี้ได้เรียกเสียงประณามอย่างดุเดือดจากญี่ปุ่น สหรัฐฯ และรัฐบาลของอีกหลายชาติ

ออสเตรเลียเปิดเผยว่า ได้เรียกเอกอัครราชทูตจีนเข้าพบเพื่อแสดงความเห็นว่า จังหวะเวลาและรูปแบบการประกาศของจีนไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาคในปัจจุบัน รวมทั้งไม่ส่งเสริมเสถียรภาพของภูมิภาค ทางด้านรัฐบาลเยอรมนีขานรับว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะระหว่างจีนกับญี่ปุ่น

ก่อนหน้านั้น วอชิงตันย้ำอีกครั้งว่า หมู่เกาะเซงกากุอยู่ในขอบเขตสนธิสัญญาความมั่นคงสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น ซึ่งกำหนดให้อเมริกาเข้าแทรกแซงหากโตเกียวถูกโจมตี

“การประกาศมาตรการนี้ของรัฐบาลจีนเป็นการยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งโดยไม่จำเป็น” จอช เอิร์นเนสต์ รองโฆษกทำเนียบขาวให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวจาก “แอร์ ฟอร์ซ วัน” เครื่องบินประจำตัวประธานาธิบดีสหรัฐฯ