เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – ฝรั่งเศส ถูกบริษัทเครดิตเรตติ้งยักษ์ใหญ่ “เอสแอนด์พี” หั่นลดอันดับความน่าเชื่อถือลงมา 1 ขั้นเหลือแค่ AA ในวันนี้ (8 พ.ย.) กลายเป็นปัจจัยลบซึ่งลดทอนความหวังที่จะได้เห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแดนน้ำหอมและของยูโรโซนโดยรวม อย่างไรก็ตาม ทางด้านรัฐบาลฝรั่งเศสเองแสดงปฏิกิริยาในลักษณะท้าทาย ระบุว่าจะยังเดินหน้าไปตามยุทธศาสตร์ของตน
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) 1 ใน 3 บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับบิ๊กเบิ้มของโลก อธิบายเอาไว้ในคำแถลงชี้แจงการลดเครดิตเรตติ้งรัฐบาลฝรั่งเศสของตนคราวนี้ว่า การที่หนี้สาธารณะของแดนน้ำหอมอยู่ในระดับที่สูง ขณะที่มีการขึ้นอัตราภาษีขึ้นไปลิ่วๆ และอัตราการว่างงานยังเลวร้าย เหล่านี้กำลังเป็นการลดทอนลู่ทางซึ่งรัฐบาลจะสามารถขยับขยายหานโยบายมารับมือ อีกทั้งตอกย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการปฏิรูปเชิงโครงสร้างให้ลงลึกยิ่งขึ้นอย่างเร่งด่วน
“การลดอันดับคราวนี้เป็นการสะท้อนความคิดเห็นของเราที่ว่า วิธีการที่รัฐบาลฝรั่งเศสใช้อยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปฏิรูปทางงบประมาณและการปฏิรูปทางโครงสร้าง, ไปจนถึงระบบการจัดเก็บภาษี, ตลอดจนการจัดการกับตลาดผลิตภัณฑ์, ตลาดบริการ, และตลาดแรงงาน ต่างก็ไม่เห็นว่าจะเป็นโอกาสทำให้อัตราเติบโตในระยะกลางของฝรั่งเศสเพิ่มสูงขึ้น” เอสแอนด์พี ระบุ
“ยิ่งไปกว่านั้น เรายังมองเห็นว่า ความยืดหยุ่นทางด้านการคลังของฝรั่งเศสกำลังอยู่ในอาการตึงตัว จากความเคลื่อนไหวของรัฐบาลชุดแล้วชุดเล่าในการเพิ่มอัตราภาษีซึ่งเดิมก็สูงอยู่แล้ว และจากสิ่งที่เรามองว่าเป็นการไร้ความสามารถของรัฐบาลในการลดทอนการใช้จ่ายของรัฐบาลโดยรวมลงมาให้ได้อย่างเป็นเนื้อเป็นหนัง” คำแถลงกล่าวต่อ
อย่างไรก็ตาม เอสแอนด์พียังคงอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ของพวกธนาคารฝรั่งเศสเอาไว้คงเดิม
การลดเกรดฝรั่งเศสจาก “AA+” ลงมาเหลือแค่ระดับ “AA” ของเอสแอนด์พีในครั้งนี้ เกิดขึ้น 3 วันหลังจากคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) ก็ได้ออกมาเตือนฝรั่งเศสว่า กำลังตกอยู่ในอันตรายจากการให้คำมั่นสัญญาเอาไว้สูงเกินกว่าที่จะเป็นจริงได้ ในเรื่องการหั่นลดการขาดดุลงบประมาณของตน
ทางด้านประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ของฝรั่งเศส แสดงปฏิกิริยาต่อข่าวนี้ในลักษณะท้าทาย โดยเขากล่าวว่าจะยังคงยึดมั่นใน “ยุทธศาสตร์” ของเขา และเดินหน้าใช้นโยบายเศรษฐกิจไปตามเส้นทางของเขา
ขณะที่รัฐมนตรีคลัง ปิแอร์ มอสโกวิซิ ตำหนิ “การวินิจฉัยอย่างมุ่งจับผิดและอย่างไม่ถูกต้อง” ของเอสแอนด์พี ส่วนนายกรัฐมนตรี ฌอง-มาร์ก เอย์โรต์ แสดงความไม่พอใจที่การตัดสินของบริษัทเครดิตเรตติ้งแห่งนี้ “ไม่ได้มีการพิจารณาถึงการปฏิรูปต่างๆ ทั้งหมด” ที่รัฐบาลฝรั่งเศสได้ดำเนินการ
อันที่จริงแล้ว เอสแอนด์พี แสดงความข้องใจว่าการปฏิรูปต่างๆ เหล่านี้น่าจะยังไม่เพียงพอ แต่กระนั้นก็ยังให้น้ำหนักอยู่เหมือนกัน ดังเห็นได้จากการที่ให้เรตติ้งทิศทางอนาคตในระดับ “คงที่” ซึ่งหมายความว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะยังไม่ปรับเปลี่ยนอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสอีกในระยะ 2 ปีข้างหน้า โดยที่ให้คำอธิบายว่า เนื่องจากเศรษฐกิจของแดนน้ำหอมยังคงมีปัจจัยแข็งแกร่งจำนวนมากแฝงฝังอยู่ภายใน
กระนั้นก็ตาม การลดอันดับความน่าเชื่อถือเช่นนี้ ก็เป็นการส่งผลกระทบทางลบต่อการฟื้นตัวของเขตยูโรโซนโดยรวม ในเวลาที่พวกประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรเหล่านี้กำลังอยู่ในอาการโซซัดโซเซออกมาจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยเท่านั้น และยังหาความแน่นอนหรือความเข้มแข็งไม่ได้ ทั้งนี้ฝรั่งเศสเป็นชาติที่เศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของยูโรโซน เป็นรองเพียงเยอรมนี
ทั้งนี้ ยูโรโซนทำท่าคึกคักขึ้นมามากในวันพฤหัสบดี (7 พ.ย.) ภายหลังที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของตนลงมาอย่างนอกเหนือความคาดหมาย 0.25% เหลืออยู่ที่ 0.25%
ความเคลื่อนไหวเช่นนี้ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยทั่วทั้งยูโรโซนต่ำลงมา ทว่าภาวะเช่นนี้เกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ ในฝรั่งเศส ซึ่งภาครัฐยังต้องออกตราสารหนี้เพื่อกู้ยืมเงินจำนวนมหึมาอยู่ทุกๆ สัปดาห์ เป็นการหาเงินมาอุดการขาดดุลงบประมาณ
