xs
xsm
sm
md
lg

S&P คงความน่าเชื่อถือ “สหรัฐฯ” แค่ AA+ หลังหลุดบัลลังก์ “ทริปเปิลเอ” มา 4 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - บริษัทเครดิตเรตติ้งยักษ์ใหญ่ของโลก สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ประกาศคงระดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ไว้ที่ AA+ เมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.) โดยอ้างถึงภาระหนี้สินที่ยังสูงอยู่ ประกอบกับนโยบายเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งนับว่าล่วงเข้าปีที่ 4 หลังจากที่ เอสแอนด์พี ได้หั่นเรตติ้ง “ทริปเปิลเอ” ของสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อปี 2011

สถาบันจัดเรตติ้งแห่งนี้ยอมรับว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มที่จะฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้น และเห็นความพยายามของวอชิงตันในการลดภาระหนี้ที่เคยพุ่งสูงลิ่วในช่วงวิกฤตการเงินโลกเมื่อปี 2008 แต่อย่างไรก็ตาม ระดับหนี้สุทธิของรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงสูงถึง 80% ของจีดีพี และคาดว่าจะคงในระดับนี้ต่อไปจนถึงปี 2018 ก่อนจะค่อยๆ ขยับสูงขึ้นอีกครั้ง

เอสแอนด์พียังอ้างถึงวังวนปัญหา “เพดานหนี้” ของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะกลับมาสร้างความปั่นป่วนต่อนโยบายเศรษฐกิจอีกครั้ง

การงัดข้อในสภาคองเกรสว่าด้วยเรื่องเพิ่มเพดานก่อหนี้เพื่อให้รัฐบาลสหรัฐฯ มีเงินมาใช้จ่าย คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ เอสแอนด์พี ลดเครดิตของวอชิงตันจากระดับสูงสุด “AAA” ลงมาเหลือแค่ AA+ เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ปี 2011 และยังนำมาซึ่งเกิดวิกฤต “ชัตดาวน์” ปิดหน่วยงานบางแห่งของรัฐบาลสหรัฐฯ ในช่วงเดือนตุลาคม ปี 2013

เอสแอสด์พีได้อ้างถึงปัจจัยเสี่ยงทั้ง 2 อย่างเพื่ออธิบายเหตุผลที่ยังไม่คืนเรตติ้งสูงสุดให้กับสหรัฐฯ ในเวลานี้

“ระดับหนี้สินของรัฐบาลและความไม่ลงรอยระหว่างพรรคการเมืองในสภาคองเกรส ทำให้สหรัฐฯ ได้แต่เพียงกำหนดนโยบายระยะสั้นเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระดับความน่าเชื่อถือ” เอสแอนด์พีระบุ

“การที่เรายังคงเรตติ้ง AA+ เอาไว้เพราะมองว่า ส.ส.สหรัฐฯ ยังตอบสนองต่อแรงกดดันภาคการคลังสาธารณะได้ช้าและด้อยประสิทธิภาพกว่า เมื่อเทียบกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลอื่นๆ ที่มีระดับความน่าเชื่อถือสูงสุด... รวมถึงความเป็นไปได้ที่การเจรจาปรับเพิ่มเพดานก่อหนี้จะยืดเยื้อและมีอุปสรรคมาก”

เอสแอนด์พีชี้ว่า สหรัฐฯ อาจกลับมาทวงเรตติ้ง AAA คืนได้อีกครั้ง “หากมีสัญญาณบ่งชี้ว่า ทั้ง 2 พรรคการเมืองประสบความสำเร็จในการร่วมตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการคลัง หรือมีการประกาศว่าหนี้สินของรัฐบาลสหรัฐฯ ลดลง”


กำลังโหลดความคิดเห็น