xs
xsm
sm
md
lg

‘ฟิตช์’ และ ‘มูดี้ส์’ บอกว่า ‘หุ้นจีนตกฮวบ’ไม่กระทบ ‘เศรษฐกิจ’

เผยแพร่:   โดย: เอเชียอันเฮดจ์

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

Fitch, Moody’s say China stock drop won’t affect economy
By Asia Unhedged
16/07/2015

บริษัทเครดิตเรตติ้งระดับยักษ์ใหญ่ของโลก 2 ราย คือ ฟิตช์ และ มูดี้ส์ ต่างออกรายงานในวันพฤหัสบดี (16 ก.ค.) แสดงความคิดเห็นตรงกันว่า การที่ตลาดหลักทรัพย์ของจีนผันผวนและไหลรูดอย่างแรงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จะไม่ส่งผลกระทบกระเทือนอะไรต่อเศรษฐกิจโดยรวมของแดนมังกร

บริษัทเครดิตเรตติ้งระดับยักษ์ใหญ่ 2 รายซ้ำ ออกมาแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (16 ก.ค.) ว่า การขึ้นลงอย่างวูบวาบของตลาดหุ้นจีนในระยะหลังๆ นี้ ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสี่ยงเชิงระบบต่อเศรษฐกิจหรือระบบการเงินของแดนมังกร

ทั้ง “ฟิตช์” (Fitch) และ “มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส” (Moody’s Investors Service) ซึ่งตั้งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ แจกแจงว่า เนื่องจากพวกธนาคารจีนนั้นแทบไม่ได้มีการเกี่ยวข้องพัวพันโดยตรงกับพวกหลักทรัพย์ในตลาด ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะทำให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงการคาดการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมของจีน

ในระยะไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นคอมโพสิตของตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ได้ไหลรูดลงถึงราว 30% ภายหลังไต่ขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน กระนั้น ตามตัวเลขข้อมูลที่ สำนักงานสถิติแห่งชาติ (National Bureau of Statistics) ของจีน แถลงออกมาเมื่อวันพุธ (15 ก.ค.) ปรากฏว่าในช่วงไตรมาส 2 (เม.ย.-มิ.ย.) ของปีนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนยังคงมีอัตราเติบโตขยายตัวอยู่ที่ 7%

ในรายงาน (ดูรายละเอียดได้ที่ http://news.xinhuanet.com/english/2015-07/16/c_134418927.htm) ที่นำออกเผยแพร่วันพฤหัสบดี (16 ก.ค.) ฟิตช์ระบุว่า ตัวเลขอัตราเติบโตของจีดีพีในไตรมาส 2 นี้ สนับสนุนความเห็นของทางบริษัทเครดิตเรตติ้งแห่งนี้ ที่ว่าความปั่นป่วนผันผวนของตลาดหลักทรัพย์ จะแทบไม่ส่งผลกระทบกระเทือนภาคเศรษฐกิจแท้จริง

รายงานฉบับนี้ชี้ว่า การลงทุนโดยตรงในหลักทรัพย์นั้น มีมูลค่ายังไม่ถึง 1% ของสินทรัพย์ของบรรดาธนาคารจีน ทั้งนี้ตามตัวเลข ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2014 ด้วยเหตุนี้จึงแทบไม่ส่งผลกระทบกระเทือนอะไรต่อพอร์ตการลงทุนของแบงก์เหล่านี้

“ฟิตช์ไม่คาดหมายว่า การปรับฐานของตลาดหลักทรัพย์คราวนี้ จะส่งผลกระทบอย่างสำคัญอะไรต่องบดุลของพวกธนาคารจีน หรือก่อให้เกิดความเสี่ยงเชิงระบบต่อภาคธนาคารของจีน ธนาคารทั้งหลายยังไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยกู้โดยตรงแก่ลูกค้าในลักษณะของการให้กู้แบบมาร์จิน (margin lending) อีกด้วย” รายงานบอก

ทางด้าน มูดี้ส์ แสดงความคิดเห็นทำนองเดียวกันนี้ ในรายงานของตนซึ่งนำออกเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (16 ก.ค.) เช่นกัน

รายงานของมูดี้ส์กล่าวว่า ความปั่นป่วนวูบวาบของตลาดหุ้นจะไม่ส่งผลกระทบกระเทือนการคาดการณ์ของบริษัทเรตติ้งแห่งนี้ที่ว่า อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของจีนจะทำได้ในระหว่าง 6.5% ถึง 7.5% ในปีนี้ และเป็น 6% ถึง 7% ในปี 2016

“ผลกระทบโดยตรงที่จะมีต่ออัตราเติบโตขยายตัวของผลผลิตในภาคการเงิน สืบเนื่องจากความผันผวนที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดหลักทรัพย์ของจีนนั้น จะอยู่ในระดับจำกัด เวลาเดียวกัน ผลกระทบโดยอ้อมที่จะมีต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค, การจ้างงาน, และการลงทุนของภาคบริษัท สืบเนื่องจากความไม่แน่นอนของตลาด ก็จะแทบไม่มีน้ำหนักอะไรเช่นกัน” ไมเคิล เทย์เลอร์ (Michael Taylor) กรรมการจัดการผู้หนึ่งของมูดี้ส์ อีกทั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อซึ่งดูแลด้านเอเชียแปซิฟิก ของบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือยักษ์ใหญ่แห่งนี้ กล่าวกับสำนักข่าวซินหวา (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://news.xinhuanet.com/english/2015-07/16/c_134418113.htm)

ธนาคารพาณิชย์ของจีนมีการเกี่ยวข้องพัวพันโดยตรงต่อตลาดหลักทรัพย์ภายในประเทศในระดับต่ำ และการทรุดลงของตลาดหุ้นจีนจะไม่ส่งกระทบอย่างสำคัญอะไรต่อคุณภาพของสินเชื่อ มูดี้ส์บอกในรายงานของตน

ในวันพฤหัสบดี (16 ก.ค.) ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นคอมโพสิตของเซี่ยงไฮ้ปิดตลาดโดยขยับสูงขึ้น 0.49% ขณะเดียวกัน ดัชนีหุ้นหั่งเส็งของฮ่องกงก็ปิดตลาดโดยบวกขึ้นมา 0.43% หลังจากที่เกิดการเทขายถอยกรูดลงมาในวันพุธ 15 ก.ค.)

(จากคอลัมน์ Asia Unhedged ในเอเชียไทมส์)
กำลังโหลดความคิดเห็น