“สวิส” จัดลงประชามติเลิก “เกณฑ์ทหาร” หลัง “ร้างสงคราม” มานับร้อยปี

เอเอฟพี – ประชาชนชาวสวิสพากันไปยังคูหาเลือกตั้งในวันนี้ (22 ก.ย.) เพื่อลงประชามติในเรื่องยกเลิกการเกณฑ์ทหาร โดยประชาชนส่วนใหญ่ของชาติแถบเทือกเขาแอลป์แห่งนี้คาดหวังที่จะลงคะแนนคัดค้าน ซึ่งสวนกระแสต่อต้านไม่ให้มีการเกณฑ์ทหารในยุโรป

ผลสำรวจความคิดเห็นซึ่งทำขึ้นก่อนที่จะมีการลงประชามติได้ชี้ให้เห็นว่า 2 ใน 3 ของกลุ่มประชากรตัวอย่างต่างคัดค้านญัตติเลิกเกณฑ์ทหาร ซึ่งมีกลุ่มผู้ฝักใฝ่ในสันติภาพเป็นหัวหอก และบรรดาพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายคอยหนุนหลัง ขณะที่พรรคการเมืองฝ่ายขวา รัฐสภา และรัฐบาลผสมของสวิตเซอร์แลนด์ต่างร่วมกันคัดค้านแผนการนี้

ประเทศต่างๆ ทั่วยุโรปได้พากันล้มเลิกการเกณฑ์ทหารนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็นได้ 2 ทศวรรษ และเหล่าผู้รณรงค์สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้กล่าวว่า สวิตเซอร์แลนด์ควรจะทำตาม

อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้สนับสนุนระบบของกองทัพในปัจจุบันโต้เถียงว่า ประเทศอื่นๆ ที่ยกเลิกการเกณฑ์ทหารเวลานี้กลับต้องดิ้นรนหาบุคลากรเข้ามาเติมตำแหน่งว่าง เนื่องจากทหารกลายเป็นเพียงอาชีพๆ หนึ่ง สภาวการณ์เช่นนี้ส่งผลให้การป้องกันประเทศต้องเผชิญกับความเสี่ยง

สวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้ประสบภาวะสงครามมาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1800 แม้ว่าในสงครามโลกที่เกิดขึ้นทั้งสองครั้งจะจุดชนวนให้มีการระดมกำลังทหารอย่างมหาศาลก็ตาม

“การวางตัวเป็นกลางแต่เตรียมกำลังรบไว้พร้อมสรรพ” นั้นเป็นนโยบายกลาโหมที่ชาตินี้ยึดมั่นมานานถึง 2 ศตวรรษแล้ว โดยทหารกึ่งอาชีพของสวิตเซอร์แลนด์ยังคงเก็บอาวุธไว้ที่บ้าน และมีบทบาทสำคัญในการบรรเทาสาธารณภัย หรือการรักษาความปลอดภัยในการประชุมซัมมิตระหว่างประเทศ

สวิตเซอร์แลนด์นั้นแวดล้อมด้วยบรรดาชาติที่เป็นมิตร แต่ฝ่ายที่สนับสนุนให้ดำเนินการเกณฑ์ทหารต่อไปกล่าวว่า กองทัพที่มาจากการเกณฑ์ทหาร และทหารกึ่งอาชีพนั้นมีความสำคัญในโลกที่เต็มไปด้วยภัยคุกคามเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม พวกที่รณรงค์ให้จัดการลงประชามติต่างปฏิเสธว่าภัยคุกคามที่ว่าไม่มีอยู่จริง

“ที่นี่อยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ไม่มีทางที่เราจะได้เห็นสวิตเซอร์แลนด์ถูกรุกรานอย่างอุกอาจในอีก 15-20 ปีข้างหน้านี้หรอก” โทบีส ชเนบิล จากกลุ่ม GSoA ที่เป็นพวกต่อต้านการเกณฑ์ทหารกล่าว

“การเกณฑ์ทหารนั้นเป็นเครื่องมือที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือกับสงครามในอดีต” เขากล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี

ในปัจจุบัน พลเมืองชายชาวสวิสที่มีอายุตั้งแต่ 18-32 ปีจะต้องเข้ารับการฝึกในค่ายฝึกทหาร เริ่มต้นด้วยการฝึกนาน 7 สัปดาห์ จากนั้นก็เข้ารับการฝึกเพื่อฟื้นวิชาเป็นเวลา 19 วันในปีถัดๆ ไป ตั้งแต่ปี 1992 มาก็มีการจัดตั้งโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมขึ้นสำหรับเหล่าผู้ปฏิเสธที่จะเข้ารับการฝึกทหารโดยอ้างเหตุผลทางด้านมโนธรรม

บรรดาผู้สนับสนุนกล่าวว่ากองทัพเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบ “รักษาดินแดน” ของประเทศ

“การล้มเลิกการเกณฑ์ทหารจะเป็นการทำลายสายสัมพันธ์อันแท้จริงที่ผนวกประชาชนและกองทัพให้เป็นหนึ่งเดียวกัน” อูเอลี เมาเรอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสวิตเซอร์แลนด์เน้นย้ำ

นอกจากนี้ พวกเขายังให้เหตุผลว่า การซ้อมรบช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ประเทศที่ประชากรแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตามภาษาที่ใช้ คือ เยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี อีกทั้งมีกำลังพลเรือนจำกัดแห่งนี้ด้วย

ภายในปี 2016 สวิตเซอร์แลนด์จะมีทหารรวมทั้งสิ้น 100,000 คน ซึ่งถือเป็นกองกำลังที่มีขนาดเล็กลงแต่แข็งแกร่งมากขึ้น ผู้สนับสนุนชี้

อย่างก็ตาม บรรดานักวิจารณ์กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวก็ถือว่าเป็นตัวเลขมหาศาลสำหรับดินแดนที่มีประชากรเพียงแค่ 8 ล้านคนแห่งนี้อยู่ดี

โดยพวกเขายกตัวอย่างเยอรมนี ประเทศเพื่อนบ้านที่มีประชากรมากกว่าสวิตเซอร์แลนด์ถึง 10 เท่า และมีทหารที่ประจำการอยู่ในตำแหน่ง 183,000 คน