xs
xsm
sm
md
lg

“โอบามา” เร่งกล่อม “รัฐสภา” ที่ยังข้องใจสงสัยกันมากว่าสหรัฐฯ ควรจะเข้าโจมตี “ซีเรีย”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และพวกผู้ช่วยระดับท็อปของเขา เปิดฉากการรุกทางการเมืองแบบเต็มอัตราเมื่อวานนี้ (1 ก.ย.) เพื่อโน้มน้าวเกลี้ยกล่อมให้รัฐสภาอเมริกันซึ่งยังมีท่าทีสงสัยข้องใจ ตกลงอนุมัติการโจมตีทางทหารต่อซีเรีย อย่างไรก็ตาม จากบรรยากาศที่ปรากฏอยู่ในเวลานี้บ่งชี้ว่า ผู้นำสหรัฐฯต้องเดินหน้าต่อสู้อย่างหนักหน่วงเพื่อที่จะเอาชนะใจสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิกของทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน ตลอดจนสาธารณชนชาวอเมริกันซึ่งเหน็ดเหนื่อยเบื่อหน่ายสงคราม

โอบามา ตลอดจนรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน, และประธานเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับพวกสมาชิกของ 2 สภาหลายรายเมื่อวานนี้ และมีกำหนดการที่จะหารือกับสมาชิกรัฐสภารายอื่นๆ ต่อไปอีกในวันนี้ (2 ก.ย.) และวันพรุ่งนี้ นับเป็นการตอกย้ำถึงภารกิจที่คณะรัฐบาลชุดนี้กำลังเผชิญอยู่ ก่อนหน้าที่จะสามารถเดินหน้าใช้กำลังทหารเพื่อตอบโต้รัฐบาลซีเรียผู้ถูกกล่าวหาว่าใช้อาวุธเคมี
รัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคร์รี ของสหรัฐฯ
ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคร์รี ได้เดินสายไปพูดตามรายการทอล์กโชว์เช้าวันอาทิตย์ของเครือข่ายโทรทัศน์ต่างๆ ของสหรัฐฯ โดยที่เขากล่าวอ้างอิงถึงอาชญากรรมต่างๆ ของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และซัดดัม ฮุสเซน พร้อมกับเตือนถึงภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้นกับอิสราเอล 1 วันหลังจากประธานาธิบดีโอบามาแถลงเลื่อนการโจมตีต่อเป้าหมายต่างๆ ในซีเรียออกไปก่อน เพื่อรอให้รัฐสภาลงมติในข้อเสนอของเขา

เคร์รีระบุว่า จากการตรวจสอบตัวอย่างเส้นผมและเลือดของเหยื่อเคราะห์ร้าย ซึ่งสหรัฐฯเองได้มาจากพวกเจ้าหน้าที่เหตุฉุกเฉินที่อยู่ในที่เกิดเหตุในบริเวณชานกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม อเมริกาจึงแน่ใจว่ามีการใช้ก๊าซซาริน ซึ่งเป็นอาวุธเคมีที่มีอานุภาพในการทำลายระบบประสาทอย่างร้ายแรง คำพูดเช่นนี้ของเขาถือเป็นครั้งแรกที่คณะรัฐบาลโอบามาได้ระบุอย่างเจาะจงเกี่ยวกับชนิดของอาวุธเคมีซึ่งใช้ในการโจมตีครั้งนี้ ที่พวกหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯบอกว่าได้สังหารผู้คนไปมากกว่า 1,4000 คน โดยเหยื่อเหล่านี้จำนวนมากเป็นเด็กๆ
แพตริก ลีฮี (กลาง) สมาชิกวุฒิสภาสังกัดพรรคเดโมแครต พูดกับผู้สื่อข่าวภายหลังเข้ารับฟังการบรรยายสรุปของทีมงานความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ณ อาคารรัฐสภาสหรัฐฯในกรุงวอชิงตันเมื่อวันอาทิตย์ (1ก.ย.)
ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อวานนี้ทีมงานความมั่นคงแห่งชาติของโอบามายังจัดการบรรยายสรุปว่าด้วยซีเรีย ให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาจำนวนหลายสิบคน ซึ่งบางคนยังใส่เสื้อเล่นเทนนิสหรือสวมเสื้อเชิ้ตใส่สูทแต่ไม่ผูกไท ขณะเดินอยู่ตามระเบียงของอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน เนื่องจากต้องตัดทอนเวลาพักผ่อนยาวช่วงฤดูร้อน และรีบเดินทางเข้ามารับฟัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพวกเขาออกจากที่ประชุมในเวลาอีกเกือบ 3 ชั่วโมงต่อมา ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ในเฉพาะหน้าซึ่งแสดงให้เห็นว่า พวกที่ยังข้องใจสงสัยจำนวนมากในรัฐสภาอเมริกันได้เปลี่ยนความคิดของพวกเขาแล้ว สมาชิกรัฐสภาเหล่านี้หลายต่อหลายคนตั้งคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาของญัตติที่โอบามากำลังเสนอให้พิจารณา โดยเห็นว่ายังกว้างขวางเกินไป และจำเป็นต้องทำให้แคบลงมา เป็นต้นว่า ควรต้องมีการระบุระยะเวลาในการปฏิบัติการอย่างเข้มงวดชัดเจน, มีการให้หลักประกันว่าจะไม่มีการส่งทหารสหรัฐฯ เข้าไปในซีเรีย และไม่มีการผูกโยงการอนุมัติในคราวนี้เข้ากับการปฏิบัติการทางทหารใดๆ ต่อไปในอนาคตเมื่อรัฐบาลซีเรียมีการใช้อาวุธเคมีอีก

“ประธานาธิบดีโอบามาบอกว่าการปฏิบัติการนี้จะมีขอบเขตจำกัด ทว่าข้อเสนอที่มีเนื้อหาให้อำนาจแบบปลายเปิดถึงขนาดนี้ ไม่เห็นว่าจะเกี่ยวอะไรกับสิ่งที่เขาบอกว่าต้องการเลย” ทอม ฮาร์คิน สมาชิกวุฒิสภาพรรคเดโมแครตให้ความเห็น

“ญัตติฉบับนี้ตามที่มีเนื้อหาในปัจจุบันนั้นมีลักษณะปลายเปิดเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นการให้อำนาจแบบครอบคลุมไปหมดและไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาใดๆ คุณจึงไม่สามารถยอมรับได้เมื่อมันยังมีเนื้อหาอย่างที่เป็นอยู่เวลานี้” ส.ส.เดนนิส รอสส์ ของพรรครีพับลิกัน กล่าว “ตอนนี้เราจะต้องพิจารณาว่าเรามียุทธศาสตร์การในถอนตัวออกมาอย่างไร เมื่อเราเข้าโจมตีแล้ว และผมยังไม่ทราบเลยว่าเรากำลังจะเข้าโจมตีหรือเปล่า”

เจนิส ฮาห์น ส.ส.มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สังกัดพรรคเดโมแครต กล่าวว่า เธอมีความกังวลมากในเรื่องการนำอเมริกาเข้าสู่สงครามอีกครั้งหนึ่งกับประเทศซึ่งไม่ได้โจมตีสหรัฐฯแต่อย่างใด เธอพูดถึงบรรยากาศในระหว่างรับฟังการบรรยายสรุปว่า พวกผู้เข้าร่วมดูเหมือน “แตกออกเป็นสองฝ่าย แต่ละฝ่ายมีจำนวนใกล้ๆ กัน” ในเรื่องที่ว่าจะอนุมัติตามคำขอของโอบามาหรือไม่

ผู้เข้าร่วมฟังส่วนใหญ่ดูเหมือนแน่ใจว่ารัฐบาลซีเรียเกี่ยวข้องพัวพันกับการใช้อาวุธเคมีจริง ทว่าความน่าเชื่อถือของข่าวกรองของคณะรัฐบาลอเมริกัน กำลังกลายเป็นเรื่องรองและประเด็นที่สำคัญกว่าในเวลานี้ก็คือ ขนาดขอบเขตตลอดจนคุณประโยชน์ของการตอบโต้ที่โอบามาจะสั่งให้ปฏิบัติการ

สมาชิกรัฐสภาจำนวนไม่น้อยตั้งคำถามว่าการโจมตีแบบจำกัดขนาดขอบเขตเช่นนี้จะมีประสิทธิภาพในการบรรลุสัมฤทธิผลที่อเมริกาต้องการมากน้อยแค่ไหน นอกจากนั้นพวกเขาหลายคนข้องใจเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่การโจมตีดังกล่าวอาจเกิดผลต่อเนื่องอย่างไม่ตั้งใจซึ่งจะลากดึงเอาสหรัฐฯเข้าไปในการสู้รบขัดแย้งในตะวันออกกลางอีกศึกหนึ่งที่ยังไม่ทราบว่าจะยุติลงเมื่อใด ตลอดจนตั้งปุจฉาว่าเป็นการฉลาดแล้วหรือที่จะลงมือปฏิบัติการโดยไม่มีความสนับสนุนอันกว้างขวางกว่านี้จากนานาชาติเพื่อช่วยในการแบ่งเบาภาระ รวมทั้งแสดงกังวลว่าสาธารณชนชาวอเมริกันเวลานี้กำลังเหน็ดเหนื่อยเบื่อหน่ายสงคราม

ทั้งนี้ ผลการสำรวจความคิดเห็นของสำนักต่างๆ แสดงให้เห็นว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่คัดค้านการที่สหรัฐฯ จะใช้ปฏิบัติการทางทหาร
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ขณะแถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อวันเสาร์ (31 ส.ค.) ซึ่งเขากล่าวว่าจะโจมตี สั่งสอน ซีเรีย แต่จะรอการอนุมัติของรัฐสภาอเมริกันก่อน
ถึงแม้พวกผู้ช่วยรายสำคัญๆ ของโอบามา รวมทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศเคร์รี ต่างทำนายว่าโอบามาจะได้รับอนุมัติจากรัฐสภาตามที่ต้องการ แต่การที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นเรื่อยๆ จากฝ่ายต่างๆ หลายหลากในรัฐสภา ไล่ตั้งแต่ชาวพรรคเดโมแครตหัวเสรีนิยมที่ไม่นิยมการใช้กำลังทหาร ไปจนถึงชาวพรรครีพับลิกันกลุ่มทีปาร์ตี้ ซึ่งเป็นพวกอนุรักษนิยมสุดขั้ว ก็เป็นการวาดภาพให้เห็นว่าผู้นำฝ่ายบริหารอเมริกันจะต้องต่อสู้ลงแรงอย่างหนักแค่ไหนในการฝ่าฟันเอาชนะ

ทั้งนี้ ในรัฐสภาเวลานี้มีความคิดเห็นเป็นเอกฉันท์กันว่า โอบามามีโอกาสดีที่จะได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากอยู่ ทว่าสำหรับสภาผู้แทนราษฎรที่พรรครีพับลิกันควบคุมอยู่นั้น เสียงยังก้ำกึ่งคู่คี่จนยากจะชี้ไปในทางใด โดยที่พวกผู้นำรีพับลิกันในสภาล่างซึ่งได้เคยทำศึกทางการเมืองกับโอบามามาหลายยกก่อนหน้านี้ ย่อมไม่ละเลยโอกาสอันหาได้ยากในการสกัดขัดขวางเขา

ทำเนียบขาวมีกำหนดนัดหมายที่จะหารือกับพวก ส.ส.พรรคเดโมแครตทางโทรศัพท์ต่อไปอีกในวันนี้ (2 ก.ย.) โดยที่โอบามาก็จะพบปะพูดคุยกับพวกผู้นำของคณะกรรมาธิการชุดหลักๆ ของทั้งสองสภาในวันอังคาร (3 ก.ย.)
กำลังโหลดความคิดเห็น