เอเอฟพี - 3 ปีผ่านไปหลังจากเหตุการณ์เหมืองถล่มที่ชิลี ซึ่งนำมาสู่ปฏิบัติการช่วยชีวิต 33 คนงานที่ติดอยู่ภายในโพรงใต้ดินลึกร่วมกิโลเมตรที่ทั่วโลกต่างเกาะติดสถานการณ์ชนิดนาทีต่อนาที ล่าสุดตำรวจชิลีได้ยุติการสอบสวนทั้งหมด โดยไม่สามารถหาตัวผู้รับผิดชอบได้แม้แต่คนเดียว
ตำรวจชิลีตัดสินใจปิดคดีเนื่องจากไม่สามารถหาหลักฐานมาเอาผิดกับเจ้าของเหมืองทองและทองแดงในเมืองซานโฮเซได้ ขณะที่คนงานผู้รอดชีวิต 33 รายต่างอยู่อย่างปราศจากชื่อเสียงหรือเงินทอง ซึ่งพวกเขาเคยหวังว่าควรจะได้เป็นรางวัลปลอบใจบ้าง
เหตุการณ์เหมืองถล่มเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ปี 2010 ทำให้คนงานเหมือง 33 รายติดอยู่ในโพรงใต้ดินลึกราว 700 เมตรกลางทะเลทรายอาตากา มานานถึง 69 วัน
“เราตัดสินใจไม่ตามคดีนี้ต่อ เพราะคิดว่าคงไม่สามารถตั้งข้อหากับใครได้” เฮกเตอร์ เมลลา อัยการประจำเขตอาตากามา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันพุธ (29) ขณะที่ แคทเธอรีน ลาธรอป ทนายฝ่ายจำเลย ชี้ว่า “การที่ตำรวจไม่สืบสวนคดีนี้ต่อแสดงให้เห็นว่า เจ้าของเหมืองซานโฮเซไม่ได้กระทำความผิดใดๆ”
ประกาศยุติคดีถูกเผยแพร่ก่อนจะถึงวันครบรอบ 3 ปีเหตุการณ์เหมืองถล่มเพียงแค่ไม่กี่วัน
ลูอิซ อูร์ซัว คนงานเหมืองซึ่งทำหน้าที่โฆษกแทนกลุ่มเพื่อนที่รอดชีวิต ให้สัมภาษณ์เอเอฟพีเมื่อวานนี้ (1) ว่า “ทนายของเราบอกให้ใจเย็นๆ ไว้ก่อน เรายังสามารถฟ้องเอาผิดฐานละเลยได้อีกข้อหาหนึ่ง”
คนงานเหมืองได้ยื่นฟ้องสำนักงานบริการธรณีวิทยาและเหมืองแห่งชาติชิลี ฐานกระทำผิดมาตรฐานวิชาชีพ (malpractice) ที่ไม่ได้ตรวจสอบสภาพการทำงานและความปลอดภัยภายในเหมืองซานโฮเซ โดยเรียกร้องค่าชดเชยสำหรับคนงานผู้รอดชีวิต รายละ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
อดีตคนงานเหมือง 33 รายได้เดินทางไปร่วมสวดมนต์ที่โบสถ์ Virgin of La Candelaria ในเมืองโกปิอาโป เพื่อรำลึกครบรอบ 3 ปีแห่งฝันร้าย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (28)
“พวกเรา 33 คนยังสุขสบายดี ต่างคนก็แยกย้ายไปอยู่ตามเมืองต่างๆ” อูร์ซัว ซึ่งเป็นคนงานเหมืองคนสุดท้ายที่ได้รับการช่วยเหลือเผย พร้อมกับโอดครวญว่าพวกเขายังไม่เคยได้รับชื่อเสียงหรือเงินทองจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
หลังเหตุการณ์ผ่านไปราว 1 ปี ชีวิตคนงานเหมืองส่วนใหญ่กลับสู่ภาวะปกติ บางคนออกไปเปิดธุรกิจของตนเอง แต่บางคนก็ยังกลับไปทำงานเกี่ยวกับเหมืองตามความรู้เดิม ส่วนคนงานที่ชราและร่างกายไม่แข็งแรงได้รับเงินบำนาญพิเศษจากรัฐบาลชิลี
ค่ายหนังฮอลลีวูดยังเตรียมนำเรื่องราวของคนงานเหมือง 33 คนไปสร้างเป็นภาพยนตร์ โดยมี เจนนิเฟอร์ โลเปซ และ แอนโตนิโอ แบนเดอรัส แสดงนำ
