xs
xsm
sm
md
lg

“โอ๊ค” เฟซบุ๊ก ยกศาลปัดแดงเผาเมือง ชี้ ปชป.ใส่ร้ายแบบช่วงปฏิวัติ หวังผลการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อภิชาตบุตร นช.แม้ว ไม่พลาดครบ 3 ปีสลายแดง โพสต์ FB อ้างทั่วโลกรู้มีผู้เสียชีวิต เพราะ รบ.ปชป.สั่งทหารพร้อมอาวุธสงครามสลาย ก่อนโบ้ยผู้ก่อการร้าย ใส่ร้ายแดงเผาเมือง นำไปใช้ประโยชน์หาเสียง ก่อนยกคำตัดสินศาลชี้ไม่เป็นจริง พร้อมลำดับเหตุการณ์ที่ถูกต้อง เย้ย นิยายเผาเมืองไม่ต่างจากเหตุอ้างปฏิวัติ-ผังล้มเจ้า จี้ รบ.ล่าคนทำผิด แก้ต่างให้สาวกตายตาหลับ

วันนี้ (19 พ.ค.) นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra เนื่องในโอกาส 19 พฤษภาคม ครบรอบ 3 ปี การสลายการชุมนุมใหญ่กลุ่มคนเสื้อแดง บริเวณแยกราชประสงค์ โดยเนื้อหาระบุว่า “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นที่รับรู้ไปทั่วโลกก็คือ รัฐบาลประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ส่งกำลังทหารพร้อมอาวุธสงคราม และรถหุ้มเกราะ เข้าสลายการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บริเวณแยกราชประสงค์ จนกระทั่งมีผู้เสียชีวิตจนถึงปัจจุบันนี้ร่วม “100” ศพ นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

รัฐบาลประชาธิปัตย์ในขณะนั้น พยายามชักนำให้สังคมเห็นคล้อยตามว่า กรณีที่เกิดขึ้นจนกระทั่งรัฐบาลต้องใช้ความรุนแรง รวมถึงกรณีไฟไหม้ห้างเซ็นทรัลเวิลด์นั้น “เป็นการกระทำของผู้ก่อการร้าย” และใช้คำว่า “ไอ้พวกเผาบ้านเผาเมือง” มาใส่ร้ายมวลชนคนเสื้อแดง และใช้เป็นอาวุธทางการเมือง ในการหาคะแนนนิยมให้พรรค ในแทบจะทุกเวทีปราศรัยหาเสียง จนกระทั่งบริษัทประกันภัย เอามาใช้เป็นข้ออ้าง ในการที่จะไม่จ่ายสินไหมทดแทน

จนถึงวันนี้ เวลาล่วงเลยมา 3 ปี สิ่งที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน ตรงกันข้ามกับการบอกเล่าของพรรคประชาธิปัตย์โดยสิ้นเชิง ในเหตุผลที่ต้องใช้ความรุนแรงระดับ 100 ศพ ดังนี้

- ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง จำเลยในคดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์ทุกกรณี โดยชี้ว่าหลักฐานอ่อนเกินไป

- ศาลแพ่งพิพากษาให้เทเวศประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้เซ็นทรัล เพราะเหตุเพลิงไหม้ ไม่ใช่กรณีก่อการร้าย และเกิดขึ้นหลังจากที่แกนนำ นปช.ประกาศสลายการชุมนุม (สลายการชุมนุมเวลา 13:20 ไฟไหม้ห้างเวลา 17:00 ห่างกันเกือบ 4 ชั่วโมง)

- พ.ต.ท.ชุมพล บุญประยูร เลขาธิการสมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาด้านอัคคีภัยกลุ่มบริษัทเซ็นทรัลพัฒนามากว่า 20 ปี ได้ให้ปากคำเอาไว้ว่า

“ทีมงานเราอยู่ภายใน ถ้าไม่ไล่เราออกไป มันเรื่องเล็กสำหรับไฟขนาดนั้น ในอาคารมีอุปกรณ์พร้อม น้ำในห้างก็มีจำนวนมหาศาลทั้ง 3 อาคารเชื่อมต่อกัน ระบบแรงดันน้ำภายในห้างก็ใช้ได้ ถ้าไม่ไล่เราออกไม่มีทางจะไหม้ ส่วนคนที่ไล่เราออกไปนั้นคือกลุ่มคนที่มีอาวุธ” ซึ่งข้ออ้างในการไล่ทีมของเซ็นทรัลออกไปก็คือ มีผู้ก่อการร้ายอยู่ในอาคาร (ซึ่งมีกำลังทหารนับพันนายอยู่รายรอบอาคาร) หลังจากนั้นร่วมชั่วโมง จึงมีไฟไหม้เกิดขึ้น จนถึงบัดนี้ยังไม่มีใครได้ข้อมูล หรือจับตัวผู้ก่อการร้ายในอาคารตามอ้างได้ แม้แต่คนเดียว

ผมขอลำดับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นจริงในห้วงเวลาต่างๆ เพื่อให้เห็นภาพดังนี้

14 พ.ค. 53
เริ่มต้นยุทธศาสตร์กระชับวงล้อม พื้นที่ราชประสงค์ ประกาศเขตกระสุนจริง ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน รวมถึง ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ อายุ 14 ปี เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุน้อยที่สุด

19 พ.ค. 53
13.20 น. นปช.ประกาศยุติการชุมนุม
14.00 น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษก ศอฉ.แถลงว่า ในขณะนี้ ศอฉ.ควบคุมสถานการณ์ในภาพรวมไว้ได้แล้ว
16.40 น. ทหารเข้ายึดพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์ และไล่ตำรวจ รปภ.และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงออกจากห้างเซ็นทรัลเวิลด์ โดยอ้างว่ามีผู้ก่อการร้ายอยู่ภายใน (ล้อมห้างอยู่เป็นพัน จับผู้ก่อการร้ายไม่ได้แม้แต่คนเดียว)
17.40 น. เกิดเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ในเซ็นทรัลเวิลด์

เมื่อได้ทราบข้อเท็จจริงเช่นนี้แล้ว ผมเกรงว่า วาทกรรม “เผาบ้านเผาเมือง” ในที่สุดก็จะเข้าอีหรอบเดียวกับหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเราครับ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลในการปฏิวัติ ว่ารัฐบาลโกงกินมโหฬาร ในที่สุดหาได้เรื่องเดียวคือ กรณีเซ็นยินยอมให้ภรรยาซื้อที่ดินรัชดาฯ หรือเรื่องผังล้มเจ้า ที่เอามาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการกันใหญ่โต เพื่อสร้างความชอบธรรมให้การล้อมปราบ แต่เมื่อพิสูจน์ได้ว่า เป็นผังหลอกลวงไม่เป็นความจริง กลับไม่มีใครยอมรับว่าเป็นคนทำผัง แม้แต่คนเดียว

รัฐบาลน่าหาข้อเท็จจริงให้ได้ข้อยุติครับว่า ใครกันแน่ที่เผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ศาลท่านจะพิจารณาก็แต่เฉพาะประเด็นที่ฟ้องร้อง เมื่อได้ข้อสรุปว่าไม่ใช้เป็นการเผาจากผู้ชุมนุม ก็ต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าใครสร้างสถานการณ์ และใครที่แสวงหาประโยชน์จากเรื่องนี้ อย่างน้อยคนเสื้อแดงที่ยังอยู่จะได้พ้นมลทิน ผู้ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยด้วยใจบริสุทธิ์ กลับต้องมาเสียชีวิต แล้วยังโดนกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม จะได้นอนตายตาหลับ

ไปๆ มาๆ อาจได้ข้อยุติว่า มีคนใจบาปสั่งให้ “ฆ่า(คน)แล้วเผา(ห้าง)” ก็เป็นไปได้ ใครจะรู้ครับ” นายพานทองแท้ ระบุ


กำลังโหลดความคิดเห็น