เอเจนซีส์ - องค์การอนามัยโลก (ฮู) แถลงในวันจันทร์ (8) ระบุว่าไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 ซึ่งเพิ่งพบสามารถทำให้มนุษย์ล้มป่วยเป็นครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในพื้นที่ภาคตะวันออกของจีน แต่กำลังแพร่ระบาดออกไปโดยมีผู้ป่วย 24 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 7 รายแล้วนั้น ยังไม่มีหลักฐานใดๆ บ่งชี้ว่าเป็นเชื้อไวรัสที่สามารถติดต่อระหว่างคนกับคนได้ อย่างไรก็ตาม ความหวาดผวาเกี่ยวกับโรคร้ายนี้ก็กำลังฉุดราคาหุ้นกลุ่มสายการบินและการท่องเที่ยวให้ดำดิ่ง ทั้งในตลาดเซี่ยงไฮ้, ฮ่องกง กระทั่งถึงแถบยุโรป
ทางการจีนเพิ่งประกาศเมื่อสัปดาห์เศษๆ มานี้เองว่า พบคนที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 เป็นครั้งแรก แต่ในวันจันทร์ มหานครเซี่ยงไฮ้แถลงว่ามีผู้เสียชีวิตไปอีกรายหนึ่ง เป็นชายวัย 64 ปี และตายไปตั้งแต่วันอาทิตย์ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ทำให้ยอดรวมของผู้เสียชีวิตเพราะไวรัสนี้เพิ่มเป็น 7 ราย และผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 24 คน
เชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 นี้ก็เฉกเช่นเดียวกับสายพันธุ์ H5N1 ที่พบแพร่หลายมากกว่า นั่นคือรูปแบบการระบาดที่ค้นพบยังเป็นการแพร่จากสัตว์ปีกสู่มนุษย์ กระนั้นพวกผู้เชี่ยวชาญก็แสดงความหวาดวิตกว่า มีโอกาสที่ไวรัสเหล่านี้จะกลายพันธุ์กลายเป็นสายพันธุ์ที่สามารถติดต่อระหว่างคนกับคนได้อย่างง่ายดาย และแพร่กระจายกลายเป็นโรคติดต่ออย่างกว้างขวางไปทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ไมเคิล โอเลียรี ผู้แทนขององค์การอนามัยโลกในประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันจันทร์ (8) ว่า ถึงแม้เวลานี้เรายังไม่ทราบชัดเจนเกี่ยวกับแหล่งต้นตอที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า มีการระบาดจากคนสู่คนอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ แล้ว
ฮูยังยกย่องชมเชยจีนในการระดมทรัพยากรจากทั่วประเทศ เพื่อต่อสู้กับไวรัสสายพันธุ์นี้ โดยที่มีการสังหารสัตว์ปีกไปแล้วเป็นหมื่นเป็นแสนตัว และเฝ้าติดตามตรวจสอบบุคคลใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อรวมจำนวนกว่า 600 คน ซึ่งจนถึงล่าสุดยังไม่พบว่าคนเหล่านี้มีการติดเชื้อแต่อย่างใด
“จนถึงขณะนี้ เราพบผู้ติดเชื้อชนิดที่ไม่พบบ่อยนักนี้แบบกระจัดกระจายตัว และรูปแบบนี้อาจยังดำเนินต่อไป ดังนั้นเวลานี้จึงไม่ใช่เวลาที่จะมาแสดงปฏิกิริยามากเกินไปหรือเกิดความแตกตื่นตระหนก” โอเลียรีระบุ
ผู้แทนประจำจีนของฮู รายนี้บอกว่า การที่ไม่สามารถพึ่งพิงข้อมูลจากไวรัสสายพันธุ์อื่นเพื่อทำความเข้าใจสายพันธุ์ใหม่นี้ได้ ทำให้ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งต้นตอและรูปแบบที่ชัดเจนของ H7N9 กระนั้น โอเลียรีสำทับว่า ฮูพึงพอใจอย่างมากกับระดับการแบ่งปันข้อมูลของจีน
อย่างไรก็ดี ความหวาดวิตกที่ว่าไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่นี้ อาจกลายเป็นโรคระบาดรุนแรงเช่นเดียวกับโรคกลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ซึ่งปรากฏขึ้นในจีนเมื่อปี 2002 และมีคนติดเชื้อทั่วโลกราว 8,000 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตไปประมาณ 10% ก็กลายเป็นปัจจัยฉุดให้หุ้นกลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยวทั้งในตลาดเซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง กระทั่งยุโรปหล่นวูบ
ในตลาดเซี่ยงไฮ้ตอนปิดวันจันทร์ ไชน่า ยูไนเต็ด เทรเวล บริษัททัวร์ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองหนานจิง (นานกิง) ทางภาคตะวันออกของจีน ราคาหุ้นร่วงลงไป 3.38% ขณะที่ ซั่งไห่ จินเจียง อินเตอร์เนชั่นแนล โฮเต็ลส์ ดีเวลอปเมนต์ ผู้ประกอบการด้านโรงแรมก็หล่นวูบ 5.21% ทางด้านสายการบินแอร์ ไชน่า หายไป 3.38% และสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลนส์ ต่ำลง 3.23% แต่หุ้นกลุ่มการแพทย์ราคาต่างดีดขึ้นเป็นแถว
เสิ่น จิว์น นักวิเคราะห์ของบีโอซี อินเตอร์เนชันแนล ชี้ว่า การที่ยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุหลักของเชื้อไข้หวัดนกล่าสุด ทำให้ผู้คนแตกตื่นและกระทบต่อการบริโภค ส่งผลอีกทอดต่อความคาดหวังของตลาดสำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศ
จนถึงขณะนี้ การระบาดยังคงจำกัดอยู่ในภาคตะวันออกของจีน โดยพบผู้เสียชีวิต 5 รายในเซี่ยงไฮ้ และอีก 2 รายในมณฑลเจ้อเจียง นอกจากนั้นยังพบผู้ติดเชื้อในมณฑลเจียงซูและอานฮุย
เฟิง จื่อเจี้ยน ผู้อำนวยการสำนักงานฉุกเฉินในสังกัดศูนย์ควบคุมโรคของจีน ระบุว่า กำลังค้นหาแหล่งต้นตอของเชื้อร้ายคราวนี้ พร้อมกับเตือนว่ามีเป็นไปได้ที่อาจพบผู้ติดเชื้อ H7N9 มากขึ้นในพื้นที่อื่นๆ
ไต้หวันซึ่งในวันอาทิตย์ประกาศว่ากำลังทดสอบผู้ที่สงสัยว่าติดเชื้ออยู่ 2 รายนั้น ได้แถลงในวันจันทร์ว่าทั้งคู่ไม่ได้ติดเชื้อ H7N9
ทางด้าน ซู เยี่ยหลง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีนอีกคนหนึ่ง แจงว่า สัตว์ปีกที่ติดเชื้อ H7N9 ตายช้ากว่าสัตว์ปีกที่ติดเชื้อ H5N1 เท่ากับว่า ต้องใช้เวลานานกว่าที่ไข้หวัดนกสายพันธุ์นี้จะแพร่สู่คน
ตามสถิติของฮู นับแต่ที่ไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ระบาดครั้งใหญ่ในปี 2003 ปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตเพราะไวรัสนี้ไปแล้วมากกว่า 365 คน โดยอัตราผู้เสียชีวิตอยู่ที่ราว 60% ของจำนวนผู้ติดเชื้อ
ในกรณีการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อ H7N9 รายแรกนั้น ปรากฏว่ากว่าที่ทางการจีนจะรายงานเรื่องนี้ก็ภายหลังเกิดเหตุไปแล้ว 3 สัปดาห์ ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์เซ็งแซ่ถึงความล่าช้า ทว่า เจ้าหน้าที่แก้ต่างว่า เนื่องจากต้องใช้เวลาในการพิจารณาสาเหตุของโรคให้ชัดเจน อีกทั้ง โอเลียรี ผู้แทนของ ฮู ก็ยกย่องความโปร่งใสของจีนในคราวนี้
ผิดกับคราวเกิดการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส ซึ่งในตอนแรกทางการจีนพยายามปิดข่าว ทำให้ถูกประณามอย่างหนักหน่วง
เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ เชื้อไวรัส H7N9 จะแพร่จากพวกสัตว์ปีกสู่คน ทำให้นครเซียงไฮ้ซึ่งพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตหลายราย ดำเนินมาตรการสังหารสัตว์ปีกไปแล้วกว่า 111,000 ตัว รวมทั้งห้ามการค้าสัตว์ปีกมีชีวิตและปิดตลาดค้าสัตว์ปีกเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ต่อมาเมืองนานกิงเจริญรอยตามด้วยการห้ามการค้าสัตว์ปีกมีชีวิต ขณะที่เมืองหางโจวสั่งฆ่าสัตว์ปีกหลังพบนกกระทาติดเชื้อ
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี ของทางการจีนฉบับวันจันทร์ เรียกร้องให้ “ระมัดระวังภัยในระดับสูง” ทั่วประเทศ และขอให้ทางการควบคุมการค้าและการขนส่งสัตว์ปีกอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น