xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯจีนชูปฏิรูป ศก.-ปราบทุจริต ร่วมสร้างความสัมพันธ์ใหม่กับ US

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อิริยาบทต่างๆ อันแสดงถึงความผ่อนคลายไม่เคร่งเครียดของนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ของจีน ระหว่างการแถลงข่าวครั้งแรกภายหลังรับตำแหน่งเมื่อวันอาทิตย์ (17) ทั้งนี้ปกติแล้ว นายกฯจีนจะตอบคำถามสื่อมวลชนเช่นนี้เพียงปีละครั้งเดียว ในวันปิดการประชุมเต็มคณะประจำปีของรัฐสภา
รอยเตอร์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของจีน “หลี่ เค่อเฉียง” แถลงยืนยันว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นเป้าหมายอันดับแรกสำหรับรัฐบาลของเขา พร้อมกับให้คำมั่นปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันและเดินหน้าการปฏิรูปโดยจะจัดการพวกกลุ่มผลประโยชน์ที่อิงกับระบบเดิมๆ รวมทั้งประกาศร่วมมือกับอเมริกาสร้าง “ความสัมพันธ์รูปแบบใหม่” เพื่อสันติภาพของเอเชีย-แปซิฟิก พร้อมกระตุ้นวอชิงตันเลิกกล่าวหากันโดยไม่มีหลักฐานเรื่องการเจาะระบบข้อมูล

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (17) หลี่ได้เปิดแถลงข่าวครั้งแรกในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจีน ภายหลังปิดการประชุมเต็มคณะประจำปีของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ (รัฐสภาจีน) โดยเขาเลือกตอบคำถามจากผู้สื่อข่าว ซึ่งครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ที่เป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ทั้งนี้เขาให้น้ำหนักอย่างมากในเรื่องความจำเป็นในการปฏิรูปเพื่อสร้างเสถียรภาพเศรษฐกิจระยะยาว

ในการแถลงข่าวที่กินเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงคราวนี้ หลี่ย้ำความจำเป็นในการปฏิรูปเศรษฐกิจ สังคมและรัฐบาล โดยเขาระบุว่าทั้งหมดนี้อาจนำไปสู่การเผชิญหน้ากับปัญหาที่ยืดเยื้อมายาวนานบางประการ เช่น การต้องจัดการกับพวกกลุ่มผลประโยชน์ที่อิงกับระบบเก่าๆ อย่างเหนียวแน่น แต่นี่เป็นภารกิจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากการปฏิรูปมีความสำคัญต่ออนาคตของประเทศชาติ

หลี่ยังประกาศปฏิรูปตลาดการเงิน อัตราแลกเปลี่ยน และต่อสู้กับวิกฤตคอร์รัปชันที่แพร่หลาย โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐควรหยุดคิดถึงความร่ำรวย และต้องเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนรวม

เขาสำทับว่า การปฏิรูปอย่างครอบคลุมของจีน ควรนำไปสู่การยกระดับการควบคุมด้านสิ่งแวดล้อม ลดมลพิษในสภาพแวดล้อม และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของอาหารและน้ำดื่ม

ทั้งนี้ ในเวลานี้ความตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อมของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น และการที่คนเมืองกระตือรือร้นแสดงความกังวลเกี่ยวกับมลพิษจากอุตสาหกรรม ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์ยิ่งกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะมีการประท้วงมากขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อความสงบเรียบร้อยในสังคม

ผู้นำจีนขณะนี้ยังกังวลกับความไม่พอใจที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมในสังคมจีน หนึ่งในประเทศที่คนรวยและคนจนมีความเป็นอยู่แตกต่างกันมากที่สุดในโลกและถึงระดับที่รัฐบาลหวั่นว่าจะกระตุ้นให้เกิดความไม่สงบ

หลี่ย้ำความมุ่งมั่นในการปฏิรูปการกระจายรายได้ ปรับปรุงการเข้าถึงระบบประกันสังคมและสุขอนามัย และอนุญาตให้ประชาชนทั่วประเทศได้รับสวัสดิการสังคมโดยไม่คำนึงถึงว่า พวกเขาจะจดทะเบียนที่พักอาศัยอย่างเป็นทางการอยู่ที่ใด เรื่องหลังนี้คือการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งระบบทะเบียนบ้านของจีน (หู่โขว้) เป็นตัวจำกัดสิทธิชาวชนบทหลายร้อยล้านคนที่เข้ามาเป็นแรงงานอพยพตามเมืองใหญ่ แล้วไม่สามารถเข้ารับบริการสวัสดิการสังคมพื้นฐานในบริเวณที่พวกตนทำงานได้

นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า ระบบดังกล่าวเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการปรับสมดุลทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งมีจุดมุ่งหมายที่จะละทิ้งรูปแบบการเติบโตที่อิงกับการส่งออกและการลงทุนอย่างมาก แล้วหันมาอาศัยการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก เพราะรูปแบบการเติบโตอย่างเดิมซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่สุดในช่วงเวลาเกือบตลอดทศวรรษที่ผ่านมา แม้ส่งผลทำให้ประชาชนนับร้อยๆ ล้านหลุดพ้นจากความยากจน และนำจีนสู่สถานะชาติการค้าใหญ่สุดของโลก ทว่าขณะเดียวกันก็ทำให้แดนมังกรเป็นประเทศที่มีความไม่เท่าเทียมและต้องพึ่งพิงการลงทุนที่รัฐสนับสนุน

ในส่วนนโยบายต่างประเทศนั้น หลี่ประกาศว่าพร้อมร่วมมือกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในการสร้าง “ความสัมพันธ์รูปแบบใหม่” เพื่อสันติภาพของเอเชีย-แปซิฟิก โดยเขาไม่ได้กล่าวพาดพิงถึงยุทธศาสตร์หวนกลับมาให้ความสำคัญแก่เอเชีย ของสหรัฐฯ หรือการแถลงของเพนตากอนเมื่อวันศุกร์ (15) ที่จะเสริมเพิ่มระบบป้องกันขีปนาวุธเพื่อตอบโต้การยั่วยุไม่รู้จบและไร้ความรับผิดชอบของเกาหลีเหนือ ตลอดจนเรื่องข้อพิพาทด้านอธิปไตยเหนือดินแดนในหมู่เกาะต่างๆ ระหว่างจีนกับเพื่อนบ้าน

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีจีนระบุตรงไปตรงมาเกี่ยวกับข้อกล่าวหาของสหรับฯที่ว่า ระบบคอมพิวเตอร์ของกองทัพ รัฐบาล ธุรกิจและสื่ออเมริกันทั้งหลายได้ถูกจีนเจาะระบบ โดยหลี่กล่าวว่า ปักกิ่งและวอชิงตันไม่ควรกล่าวหากันโดยไม่มีหลักฐาน แต่ควรทุ่มเทมากขึ้นเพื่อหาวิธีเสริมสร้างความปลอดภัยในไซเบอร์สเปซ พร้อมย้ำว่า จีนเองเป็นเป้าหมายของนักเจาะระบบเช่นเดียวกัน

หลี่ทิ้งท้ายว่า ตนรับรู้ได้จากคำถามของนักข่าวว่า จีนถูกเหมารวมเสียแล้วว่าเป็นคนผิดในเรื่องนี้ แต่เขาย้ำว่า ปักกิ่งไม่สนับสนุน มิหนำซ้ำยังต่อต้านอย่างเต็มที่ในเรื่องการเจาะระบบ

ทั้งนี้ ฝ่ายสหรัฐฯ รายงานว่า โอบามาได้หยิบยกเรื่องนี้หารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อวันพฤหัสบดี (14) ซึ่งเป็นวันแรกที่ สีรั บตำแหน่ง

นอกจากนั้น ยังเป็นที่คาดว่า แจ็ก ลูว์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ จะกดดันจีนให้สอบสวนและหยุดยั้งการโจมตีทางไซเบอร์ต่อบริษัทและนิติบุคคลอื่นๆ ของอเมริกา ระหว่างเยือนจีนในสัปดาห์นี้ นอกเหนือจากการกระตุ้นให้ปักกิ่งยอมให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ และหารือเกี่ยวกับข้อกังวลอื่นๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น