xs
xsm
sm
md
lg

จีนมั่นใจ เน้นกระตุ้นบริโภค เยียวยาสังคมป่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่าของจีน (ภาพบนจอ) พูดในนามผู้แทนในพิธีเปิดประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ ณ มหาศาลาประชาคมจีน 5 มี.ค. (ภาพรอยเตอร์ส)
รอยเตอร์ส - รัฐบาลจีนเผยเมื่อวันอังคาร (5 มี.ค.) ผู้นำใหม่แดนมังกรจะได้หันเหนโยบายมาผลักดันพลังการบริโภคให้พรุ่งพรวด เพื่อลดช่องว่างระหว่างคนรวย-คนจน ขณะเดียวกันก็งัดมาตรการควบคุมมลพิษ และปราบทุจริต เพื่อจัดการต้นตอปัญหาสังคมภายในประเทศ

นายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่าของจีน กล่าวในพิธีเปิดประชุมสภาประชาชนวาระประจำปีแห่งชาติ และได้แจกแจงบันทึกงบประมาณการใช้จ่ายภาครัฐประจำปี 2556 ว่าจะเพิ่มงบประมาณความมั่นคงภายในประเทศ ชี้จะช่วยพยุงการเติบโตและรักษาอำนาจของพรรคคอมมิวนิสต์ให้คงอยู่สถาวร

แผนการผลักดันดังกล่าวเป็นพิมพ์เขียวสำหรับรัฐบาลใหม่ของ สี จิ้นผิงที่จะเข้ามาสืบอำนาจประธานาธิบดีหลังสิ้นสุดวาระการประชุมสภาประชาชน ส่วนนายกรัฐมนตรีนั้นก็มี นายหลี่ เค่อเฉียง จ่อรอนั่งตำแหน่ง

นายกเวินฯ กล่าวในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ซึ่งจะมีปีละครั้งว่า "การผลิตของจีนตกต่ำลง เนื่องจากความต้องการบริโภคสินค้าดิ่งลงอย่างมาก"

จีนยอมรับว่า ในช่วงต้นปีนี้จำเป็นที่จะต้องปฏิรูปอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะด้านลดช่องว่างรายได้ของประชาชน ซึ่งถือว่าจีนเป็นหนึ่งในชาติที่มีปัญหามากที่สุด นักวิเคราะห์พากันเตือนว่า หากไม่รีบปลดชนวน ก็จะทำให้ปัญหาสังคมปะทุตามมา แม้ว่าสามทศวรรษที่ผ่านมาจีนจะเร่งดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจขนานใหญ่ ยกมาตรฐานชีวิตคนหลายร้อยล้านให้อยู่ดีกินดี พ้นจากความยากจนได้จำนวนหนึ่งแล้วก็ตาม

รัฐบาลปักกิ่งประกาศว่า งบประมาณด้านความมั่นคงภายในประเทศประจำปีนี้เพิ่มขึ้น 8.7 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงิน 769,100 ล้านหยวน ซึ่งสูงเกินงบประมาณทหารเป็นปีที่สามติดต่อกัน

เวินเผยว่า การบริโภคเป็นกุญแจดอกสำคัญในการปลดชนวนปัญหาภายในประเทศด้านเศรษฐกิจ จีนมีประชากร 1,300 ล้านคนโดยประมาณ หากกระตุ้นบริโภคจะช่วยลดปัญหาส่วนเกิน ความขาดแคลน และความไม่เท่าเทียมได้ ชี้เป้าการเติบโตเศรษฐกิจของปีนี้อยู่ที่ 7.5 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้เมื่อปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนขยายตัวอยู่ที่ 7.8 เปอร์เซ็นต์ ต่ำสุดในรอบ 13 ปี

พวกเราควรมีความแน่วแน่ในการผลักดันการบริโภคในประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายระยะยาวด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน เวินกล่าว

"ในการสนับสนุนการใช้จ่ายส่วนบุคคล จีนจะได้เพิ่มขีดความสามารถให้ปัจเจกชนมีกำลังซื้อ ทำให้ความสามารถในการบริโภคมีเสถียรภาพ กระตุ้นความต้องการบริโภคสินค้า ยกระดับสิ่งแวดล้อมการจับจ่ายใช้สอย และหันมาใช้นโยบายขยายเศรษฐกิจที่เน้นการบริโภคเป็นสำคัญ"
ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา (ซ้าย) กำลังพูดคุยกับเลขาธิการใหญ่พรรคฯ สี จิ้นผิง (ขวา) ในระหว่างพิธีเปิดการประชุมสภาผู้แทนประชาชน ณ มหาศาลาประชาคม (ภาพรอยเตอร์ส)
ปฏิรูประบบสำมะโนประชากร

ตัวเลขอย่างเป็นทางการในปี 2554 ระบุว่า ยอดประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองของจีนคิดเป็นร้อยละ 51 ซึ่งรวมจำนวนแรงงานอพยพ 200 ล้านชีวิต ผู้ทำงานตรากตรำแลกเงินในเมือง ไม่ได้รับสิทธิผู้อยู่อาศัย และมีกำลังบริโภคที่น้อยนิด

เวินเผยว่า ควรจะเร่งปฏิรูประบบหูโข่วหรือสำมะโนประชากรของจีนอย่างรวดเร็ว เพื่อผลักดันให้เกิดการสร้างเมือง ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวในลูกโซ่ถัดไป

การปรับสมดุลการเติบโตใหม่ โดยเริ่มหันหลังให้การลงทุนอุตสาหกรรมหนัก การส่งออก มาเน้นการบริโภคในประเทศแทนนั้น เป็นนโยบายที่นายกเวินผลักดันมาตลอดในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง

อุตสาหกรรมที่ไร้มาตรฐานได้ส่งผลต่อปัญหามลพิษ ซึ่งมีต้นตอมาจากการผลักดันการขยายตัวของแหล่งผลิตอุตสาหกรรม

พร้อมกันนี้นายกเวินได้เรียกร้องให้รัฐมีนโยบายพื้นฐานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากร ปกป้องสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนโครงการสีเขียว พัฒนาโครงการพลังงานคาร์บอนต่ำ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ปัญหามลพิษได้ส่งผลกลายเป็นที่วิจารณ์และก่อความโกรธเกรี้ยวทั่วแผ่นดินจีน หลังจากที่หมอกพิษปกคลุมผืนฟ้าตอนกลางและเหนือของจีน ส่งผลให้เที่ยวบินจำนวนมากต้องยกเลิก ประชาชนไม่อาจสัญจรไปมาได้ ทำให้รัฐต้องออกมาสั่งปิดการทำงานของบางโรงงานชั่วคราว

นอกจากนั้นเวินได้เชื่อมโยงนโยบายผลักดันพลังบริโภคว่า ควรจะสอดคล้องกับนโยบายอาหารปลอดภัย แก้ไขปัญหามลพิษ สาธารณสุข การศึกษา การปราบทุจริต และการปฏิรูปการเงิน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงให้แก่พรรคคอมมิวนิสต์ในการนั่งบัลลังก์ต่อไป

เวินชี้ว่า ต้องยกระดับตลาดสังคมนิยมจีนให้ดี การปฏิรูปและเปิดประเทศเป็นรากฐานสำคัญที่หนุนการพัฒนาจีน ดังนั้นจีนจะต้องสนับสนุนนโยบายการปฏิรูปและเปิดกว้างต่อไป
นายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่า กล่าวสุนทรพจน์ระหว่างพิธีเปิดการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ณ มหาศาลาประชาคมจีน (ภาพรอยเตอร์ส)
ช่องว่างรายได้

แม้ว่ามังกรจีนจะได้กลายเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจลำดับสองของโลก หลังจากสามทศวรรษแห่งการพัฒนาเปิดประเทศ ทว่าหากเฉลี่ยรายได้ต่อหัวประชากรแล้วไซร้ จีนจัดว่าเป็นประเทศที่ประชากรมีรายได้เฉลี่ยระดับกลางเท่านั้น

โครงการการพัฒนาแห่งชาติของสหรัฐฯ เผยว่า ร้อยละ 13 ของประชาชรกจีนยังคงมีรายได้ต่ำกว่า 1.25 ดอลลาร์ ขณะที่รายได้เฉลี่ยของประชากรในเมืองอยู่ที่ประมาณ 21,810 ต่อปีเท่านั้น

จากการจัดอับดับของฟอร์บส จีนมีเศรษฐีพันล้านดอลลาร์จำนวน 122 คน ขณะที่หูรุ่นเผยว่า จีนมีเศรษฐีพันล้าน 317 คน ซึ่งถือว่าอยู่ลำดับที่ห้าเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก

เพิ่มการใช้จ่าย

กระทรวงพาณิชย์จีนเผยว่า จีนควรจะสนับสนุนงบประมาณการใช้จ่ายประจำปีในปีนี้ และเพิ่มยอดขาดดุลงบประมาณให้เพิ่มขึ้นอีก 2 เปอร์เซ็นต์จากจีดีพี ซึ่งถือว่าสูงสุดนับแต่ปี 2553 ทั้งนี้ปีที่ผ่านมาตั้งไว้ 1.6 เปอร์เซ็นต์

กล่าวได้ว่า การใช้จ่ายงบประมาณจีนปีนี้จะอยู่ที่ 13.82 ล้านล้านหยวน ซึ่งมากสุดทุบสถิติ

ในเอกสารอีกฉบับหนึ่ง กระทรวงพาณิชย์จีนเผยว่าจะเพิ่มโควต้าสำหรับการออกพันธบัตรรัฐบาลขึ้นเป็น 350,000 ล้านหยวนในปีนี้ เทียบกับปีที่ผ่านมาออกพันธบัตรฯ อยู่ที่ 250,000 ล้านหยวน

อย่างไรก็ดี รัฐบาลท้องถิ่นจีนได้ถูกปัญหาหนี้สาธารณะรุมเร้า เมื่อสิ้นปี 2553 มีหนี้เกาะกินรัฐบาลท้องถิ่นทั่วจีนถึง 10.7 ล้านล้านหยวน สืบเนื่องจากรัฐบาลกลางมีนโยบายกระตุ้นให้ท้องถิ่นเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานทั่วไปแบบเร่งด่วน
กำลังโหลดความคิดเห็น